ทุกหน่วยงานพร้อมใจจัดอลังการงานแสดงเทิดพระเกียรติ 3-7 ธ.ค. กระทรวงวัฒนธรรมเตรียมทดลองรถไฟจำลองสวรรค์คืนวันนี้ ด้าน กทม.รักษาความปลอดภัยเข้มใช้กล้อง CCTV 124 สนามหลวง ราชดำเนินกลาง ถึงลานพระราชวังดุสิต พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจ 52 จุด กว่า 600 นาย ขณะที่ สตช.เตรียมแผน “ธันวา 52” รักษาความเรียบร้อยเตรียมอำนวยความสะดวกการจราจรเต็มที่
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.)กล่าวภายหลังตรวจความพร้อมการจัดงานมหกรรมวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า วธ.ได้ร่วมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 82 พรรษา 5 ธันวาคม 2552 บริเวณสี่แยกคอกวัว โดยได้จัดมหกรรมวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติ นำเสนองานศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิมและร่วมสมัย ภายใต้หัวข้อ “บ้าน วัด วัง” โดยมีกิจกรรม ดังนี้ นิทรรศการเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในด้านวัฒนธรรม สะท้อนพระอัจฉริยภาพในฐานะที่ทรงเป็น “อัครศิลปิน” โดยวธ.จะอัญเชิญสำเนาภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กว่า 30 ภาพ มาจัดแสดงให้ประชาชนได้ชม
นอกจากนี้ในส่วนบริเวณโรงละครแห่งชาติและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จะมีการแสดงที่หลากหลายระหว่าง ระหว่างวันที่ 3 – 7 ธันวาคม 2552 ไม่ว่าจะเป็น โขน ชุด รามราชจักรี ละครนอก หุ่นสายเสมา หุ่นช่างฟ้อน การแสดงหุ่นจากนานาชาติ 10 ประเทศ ส่วนการจัดริ้วขบวนรถไฟฟ้าเฉลิมพระเกียรติของวธ.มีการจำลองพระวิมานบนสวรรค์ ซึ่งมีความสวยงามคงเอกลักษณ์วัฒนธรรมไทย โดยจะทดลองริ้วขบวนเพื่อเตรียมความพร้อมในคืนวันที่ 2 ธ.ค.ส่วนของบัตรเข้าชมการแสดงโขนเฉลิมพระเกียรติมีประชาชนจองบัตรเข้าชมแล้วกว่าร้อยละ 80 และสำหรับประชาชนที่สนใจแต่ยังไม่ได้จองบัตรสามารถมารับบัตรได้ที่หน้าโรงละครแห่งชาติก่อนการแสดงอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
“เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กระทรวงวัฒนธรรม ได้เปิดโอกาสให้ชนกลุ่มน้อย โดยเฉพาะชาวเขาจากพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา กำแพงเพชร จำนวน 600 คน เดินทางเข้ากรุงเทพมหานครเพื่อแสดงความจงรักภักดี พร้อมกันนี้ จะนำคณะเด็ก เยาวชน และคนพิการ จากองค์กรเครือข่ายของวธ.ทั่วประเทศ เข้าร่วมถวายพระพรด้วย”ปลัดวธ. กล่าว
***กทม.รัษาความปลอดภัยเข้ม
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม. ตรวจศูนย์ควบคุมระบบจราจร CCTV เพื่อตรวจความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยในระหว่างงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ระหว่างวันที่ 1-13 ธ.ค.2552 ซึ่งในระหว่างการจัดงานของหน่วยงานต่างๆ บริเวณท้องสนามหลวง ถนนราชดำเนินกลาง จนถึงลานพระราชวังดุสิต พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า ระหว่างการจัดงานคาดว่าจะมีประชาชนเข้ามาร่วมงานมากกว่า 1แสนคนต่อวัน โดย กทม.มีกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) จำนวน 124 กล้อง
ด้านกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจ กทม.ได้จัดเตรียมกำลังไว้ทั้งหมด 617 นาย จะแบ่งเป็น 3 กะ กระจายตามจุดต่างๆ ตั้งแต่บริเวณท้องสนามหลวง ถนนราชดำเนินกลาง จนถึงลานพระราชวังดุสิต จำนวน 52 จุด ตลอด 24 ชั่วโมง โดยสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารเต็มพื้นที่ โดยในส่วนของเขตพระนครได้เตรียมเจ้าหน้าที่เก็บขยะไว้กว่า 300 คน ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณขยะทั้งบริเวณที่เก็บได้ในแต่ละวันกว่า 50 ตัน
***แผน“ธันวา 52”ดูแลความเรียบร้อย
พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท. ผบช.น.) เรียกประชุมนายตำรวจระดับรอง ผบช.น.ทั้งหมด ผู้บังคับการอำนวยการ บช.น. (ผบก.อก.) และนายตำรวจที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแผนดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยพื้นที่ กทม. หลังรัฐบาลประกาศยกเลิก พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ โดยใช้ชื่อแผนใหม่ว่า “ธันวา 52”
พ.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รองผู้บังคับการ อก.บช.น.ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า สืบเนื่องจากที่รัฐบาลประกาศยกเลิก พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในในเขต กทม. ได้มีมติให้ สตช.และ บช.น.ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยพื้นที่เป็นหน่วยงานหลัก หลังจากรับมอบภารกิจแล้ว สตช.ได้สั่งการให้ บช.น.จัดทำแผนต่างๆ ดูแลความสงบเรียบร้อย กทม. ซึ่งจะมีต่อเนื่องตั้งแต่วันนี้ ทั้งงานฉลอง 5 ธันวาฯ ทั้ง 3 จุดที่จัดงาน รวมทั้งการดูแลพื้นที่ กทม.ทั้งหมด
**แจ้งปิดการจราจร
พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น.ดูแลงานด้านการจราจร กล่าวถึงการจัดระบบการจราจร ช่วงวันเฉลิมฉลอง 5 ธันวามหาราชว่า การจัดงาน 5 ธันวาฯ ในปีนี้จะมีการจัดงาน 3 งานด้วยกัน ซึ่งจะต้องมีการปิดการจราจร เพื่อให้เกิดความสะดวกสบายต่อผู้เข้ามาร่วมงาน โดยงานที่บริเวณท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 1-7 ธ.ค.2552 ซึ่งจะมีการจัดงานบริเวณโดยรอบท้องสนามหลวง จะไม่มีการปิดถนนใดๆ
ส่วนในช่วงงานที่ 2 จะมีการจัดระหว่างวันที่ 3-7 ธ.ค.2552 โดยจะจัดงานตั้งแต่บริเวณหน้ากองสลากฯ ถนนราชดำเนิน ผ่านกระทรวงเกษตรฯ ไปจนถึงแยก จปร. ซึ่งบริเวณนี้จะมีการปิดถนนตั้งแต่เวลา 18.00 น.ไปถึง 24.00 น. สำหรับการจัดงานในช่วงที่ 3 ระหว่างวันที่ 5-13 บริเวณพระบรมรูปทรงม้า และจะมีการแสดงหน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม ซึ่งจะต้องมีการปิดถนนตั้งแต่แยก จปร.ไปจนถึงลานพระบรมรูปทรงม้า โดยจะเริ่มปิดถนนตั้งแต่เวลา 16.00 น.ไปจนถึง 23.00 น.
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.)กล่าวภายหลังตรวจความพร้อมการจัดงานมหกรรมวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า วธ.ได้ร่วมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 82 พรรษา 5 ธันวาคม 2552 บริเวณสี่แยกคอกวัว โดยได้จัดมหกรรมวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติ นำเสนองานศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิมและร่วมสมัย ภายใต้หัวข้อ “บ้าน วัด วัง” โดยมีกิจกรรม ดังนี้ นิทรรศการเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในด้านวัฒนธรรม สะท้อนพระอัจฉริยภาพในฐานะที่ทรงเป็น “อัครศิลปิน” โดยวธ.จะอัญเชิญสำเนาภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กว่า 30 ภาพ มาจัดแสดงให้ประชาชนได้ชม
นอกจากนี้ในส่วนบริเวณโรงละครแห่งชาติและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จะมีการแสดงที่หลากหลายระหว่าง ระหว่างวันที่ 3 – 7 ธันวาคม 2552 ไม่ว่าจะเป็น โขน ชุด รามราชจักรี ละครนอก หุ่นสายเสมา หุ่นช่างฟ้อน การแสดงหุ่นจากนานาชาติ 10 ประเทศ ส่วนการจัดริ้วขบวนรถไฟฟ้าเฉลิมพระเกียรติของวธ.มีการจำลองพระวิมานบนสวรรค์ ซึ่งมีความสวยงามคงเอกลักษณ์วัฒนธรรมไทย โดยจะทดลองริ้วขบวนเพื่อเตรียมความพร้อมในคืนวันที่ 2 ธ.ค.ส่วนของบัตรเข้าชมการแสดงโขนเฉลิมพระเกียรติมีประชาชนจองบัตรเข้าชมแล้วกว่าร้อยละ 80 และสำหรับประชาชนที่สนใจแต่ยังไม่ได้จองบัตรสามารถมารับบัตรได้ที่หน้าโรงละครแห่งชาติก่อนการแสดงอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
“เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กระทรวงวัฒนธรรม ได้เปิดโอกาสให้ชนกลุ่มน้อย โดยเฉพาะชาวเขาจากพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา กำแพงเพชร จำนวน 600 คน เดินทางเข้ากรุงเทพมหานครเพื่อแสดงความจงรักภักดี พร้อมกันนี้ จะนำคณะเด็ก เยาวชน และคนพิการ จากองค์กรเครือข่ายของวธ.ทั่วประเทศ เข้าร่วมถวายพระพรด้วย”ปลัดวธ. กล่าว
***กทม.รัษาความปลอดภัยเข้ม
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม. ตรวจศูนย์ควบคุมระบบจราจร CCTV เพื่อตรวจความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยในระหว่างงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ระหว่างวันที่ 1-13 ธ.ค.2552 ซึ่งในระหว่างการจัดงานของหน่วยงานต่างๆ บริเวณท้องสนามหลวง ถนนราชดำเนินกลาง จนถึงลานพระราชวังดุสิต พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า ระหว่างการจัดงานคาดว่าจะมีประชาชนเข้ามาร่วมงานมากกว่า 1แสนคนต่อวัน โดย กทม.มีกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) จำนวน 124 กล้อง
ด้านกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจ กทม.ได้จัดเตรียมกำลังไว้ทั้งหมด 617 นาย จะแบ่งเป็น 3 กะ กระจายตามจุดต่างๆ ตั้งแต่บริเวณท้องสนามหลวง ถนนราชดำเนินกลาง จนถึงลานพระราชวังดุสิต จำนวน 52 จุด ตลอด 24 ชั่วโมง โดยสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารเต็มพื้นที่ โดยในส่วนของเขตพระนครได้เตรียมเจ้าหน้าที่เก็บขยะไว้กว่า 300 คน ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณขยะทั้งบริเวณที่เก็บได้ในแต่ละวันกว่า 50 ตัน
***แผน“ธันวา 52”ดูแลความเรียบร้อย
พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท. ผบช.น.) เรียกประชุมนายตำรวจระดับรอง ผบช.น.ทั้งหมด ผู้บังคับการอำนวยการ บช.น. (ผบก.อก.) และนายตำรวจที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแผนดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยพื้นที่ กทม. หลังรัฐบาลประกาศยกเลิก พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ โดยใช้ชื่อแผนใหม่ว่า “ธันวา 52”
พ.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รองผู้บังคับการ อก.บช.น.ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า สืบเนื่องจากที่รัฐบาลประกาศยกเลิก พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในในเขต กทม. ได้มีมติให้ สตช.และ บช.น.ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยพื้นที่เป็นหน่วยงานหลัก หลังจากรับมอบภารกิจแล้ว สตช.ได้สั่งการให้ บช.น.จัดทำแผนต่างๆ ดูแลความสงบเรียบร้อย กทม. ซึ่งจะมีต่อเนื่องตั้งแต่วันนี้ ทั้งงานฉลอง 5 ธันวาฯ ทั้ง 3 จุดที่จัดงาน รวมทั้งการดูแลพื้นที่ กทม.ทั้งหมด
**แจ้งปิดการจราจร
พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น.ดูแลงานด้านการจราจร กล่าวถึงการจัดระบบการจราจร ช่วงวันเฉลิมฉลอง 5 ธันวามหาราชว่า การจัดงาน 5 ธันวาฯ ในปีนี้จะมีการจัดงาน 3 งานด้วยกัน ซึ่งจะต้องมีการปิดการจราจร เพื่อให้เกิดความสะดวกสบายต่อผู้เข้ามาร่วมงาน โดยงานที่บริเวณท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 1-7 ธ.ค.2552 ซึ่งจะมีการจัดงานบริเวณโดยรอบท้องสนามหลวง จะไม่มีการปิดถนนใดๆ
ส่วนในช่วงงานที่ 2 จะมีการจัดระหว่างวันที่ 3-7 ธ.ค.2552 โดยจะจัดงานตั้งแต่บริเวณหน้ากองสลากฯ ถนนราชดำเนิน ผ่านกระทรวงเกษตรฯ ไปจนถึงแยก จปร. ซึ่งบริเวณนี้จะมีการปิดถนนตั้งแต่เวลา 18.00 น.ไปถึง 24.00 น. สำหรับการจัดงานในช่วงที่ 3 ระหว่างวันที่ 5-13 บริเวณพระบรมรูปทรงม้า และจะมีการแสดงหน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม ซึ่งจะต้องมีการปิดถนนตั้งแต่แยก จปร.ไปจนถึงลานพระบรมรูปทรงม้า โดยจะเริ่มปิดถนนตั้งแต่เวลา 16.00 น.ไปจนถึง 23.00 น.