นายกฯ ชวนคนไทยหลอมรวมดวงใจเป็นหนึ่งเดียวด้วยการร่วมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 82 พรรษา 5 ธันวาฯ ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า บริเวณถนนราชดำเนิน ไปจนถึงท้องสนามหลวง ตั้งแต่วันที่ 3-13 ธ.ค. 52 โดยมี 9 กิจกรรมใหญ่เทิดพระเกียรติ คาดแต่ละคืนจะมีผู้ร่วมงานเป็นแสน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยผ่าน รายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ว่า เมื่อเข้าสู่เดือนธันวาคมก็เป็นเดือนที่ผมเชื่อว่าพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ ต้องการที่จะหลอมรวมจิตใจเพื่อถวายความจงรักภักดีแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือว่าในปีนี้นั้นจะมีการจัดงานเฉลิมพระชนมพรรษา ที่เป็นงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 82 พรรษา 5 ธันวาคม 2552 ซึ่งทั้งหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานภาคเอกชนจัดขึ้นมากมาย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นอกจากงานพระราชพิธีหรือรัฐพิธีต่างๆ แล้วปีนี้รัฐบาลยังได้ดำเนินการอีกหลายด้าน เรื่องแรกคือ จะมีงานที่เป็นกิจกรรมทางด้านศาสนา โดยตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค. จะมีพิธีทำบุญ 5 ศาสนาที่วังน้ำเขียว และวันที่ 3 ธ.ค. รัฐบาลจะจัดงานทำบุญถวายเป็นพระราชสักการะแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
ส่วนกิจกรรมของมูลนิธิ 5 ธันวาคม ซึ่งจัดมาทุกปีนั้นก็จะเริ่มต้นตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค.เช่นเดียวกัน และในส่วนของกิจกรรมที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวงในวันที่ 5 ธ.ค. ก็เชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมกันจุดเทียนชัยถวายพระพร ใน เวลา 19.00 น.อันนี้ก็เป็นพิธีทางศาสนาและพิธีที่มณฑลท้องสนามหลวง ซึ่งมีขึ้นอยู่ตามปกติ
ที่พิเศษคือในปีนี้นั้นคณะรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาจัดงาน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 82 พรรษา โดยจะใช้พื้นที่ถนนราชดำเนินกลางและที่ลานพระราชวังดุสิต ซึ่งก็คือลานพระบรมรูปทรงม้าจัดงานตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค.-13 ธ.ค. โดยใช้ชื่องานว่า ความสุขของคนไทยใต้แสงพระบารมี จะมีตั้งแต่วันที่ 3-7 ธ.ค. โดยเริ่มต้นจากวันที่ 3 ที่จะมีพิธีเปิดแสงใช้ชื่อว่า "แสงพระบารมี เบิกดินฟ้าโรจน์ไสว" ซึ่งจะเกิดขึ้น ณ เวทีกลางป้อมมหากาฬ เวลา 20.30 น. จะมีการถ่ายทอดทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบก ช่อง 7 ด้วย แต่ว่ากิจกรรมของงานที่ถนนราชดำเนินกลางนั้น จะมีทั้งหมด 9 ส่วนด้วยกัน
สำหรับกิจกรรมที่ 2 จะเป็นการแสดงแสง สี เสียง Laser Multi Vision Light & Sound เรื่อง แสงพระบารมี ผสานไทย สมานฉันท์ ้จะจัดที่เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ตั้งแต่ วันที่ 3-7 ธ.ค.เวลา 20.30-22.30 น.
กิจกรรมที่ 3 จะเป็นการแสดงดนตรี แสงพระบารมี คีตศิลป์ เสนาะนิรันดร์ ณ เวทีดนตรี หน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยจะแสดงทุกวัน ตั้งแต่ 18.00 น. ถึง 24.00 น. ซึ่งจะมีทั้งเพลง Jazz Orchestra Pop วงดนตรีคุณภาพ และศิลปินที่มีชื่อเสียงก็จะมาร่วมกันแสดงที่นี่
กิจกรรมที่ 4 จะมีเรื่องของการถวายพระพรชัย ชื่อ แสงพระบารมี ร้อยใจมั่น ถวายพระพรชัย อันนี้เป็นเวทีกลางป้อมมหากาฬ เฉพาะวันที่ 5 ธ.ค. เวลา 20.20 น. ซึ่งจะเป็นกิจกรรมที่ต่อเนื่องจากการที่มีการจุดเทียนชัยถวายพระพร ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
กิจกรรมที่ 5 จะเป็นกิจกรรม แสงพระบารมี ส่องแผ่นดิน ถิ่นสวรรค์ เป็นการตกแต่งไฟดาวกระพริบ ไฟพิเศษต่างๆ รวมไปถึงการมีแสงที่บริเวณ ถนนราชดำเนินทั้งสองฝั่ง ตั้งแต่ 18.00 น.ถึง 24.00 น. ทุกวันที่บริเวณ ถนนราชดำเนิน
กิจกรรมที่ 6 จะเป็นการแสดงขบวนรถประดับไฟเฉลิมพระเกียรติชุด แสงพระบารมี ทอมหัศจรรย์อันยิ่งใหญ่ ซึ่งจะเป็นการแสดงตั้งแต่แยกผ่านฟ้าถึงสี่แยกคอกวัว และวนกลับมา เป็นรถที่ประดับด้วยแสงไฟต่าง ๆ โดยจะมีระหว่างวันที่ 4-6-7 ธ.ค. เวลา 19.15-20.15 น. ส่วนวันที่ 3 ธ.ค.จะเป็น 20.30-21.30 น. และวันที่ 5 ธ.ค. จะเป็นช่วง 19.45-20.45 น. และเช่นเดียวกันครับจะมีดารารับเชิญในส่วนต่าง ๆ
กิจกรรมที่ 7 เป็นการแสดงมหัศจรรย์น้ำพุดนตรี น้ำพุไฟ ชุด แสงพระบารมี เปล่งประกายเรืองสายใย ซึ่งจะมีเพลงพระราชนิพนธ์ บริเวณเกาะกลางของ ถนนราชดำเนินกลาง 18.00-24.00 น.
กิจกรรมที่ 8 เป็นแสงพระบารมี ฉายพระราชกรณียกิจ สถิตย์พระทัย ซึ่งจะเป็นกิจกรรมของแต่ละกระทรวงสองฝากถนนราชดำเนินกลาง และกิจกรรมสุดท้าย
กิจกรรมที่ 9 คือ แสงพระบารมี ศูนย์รวมใจ ไทยสถาพร ซึ่งเป็นการจัดทำสายรัดข้อมูลสีชมพูเฉลิมพระเกียรติ ชุดพิเศษ รักพ่อ จำหน่ายในราคา 99 บาท และมีพิธีมอบใจภักดิ์แด่พระผู้เป็นที่รักของคนไทยทั้งชาติ ในวันที่ 7 ธันวาคม
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่านอกจากนั้นจะมีเรื่องของการแสดงพลุ ในทุกคืนเช่นเดียวกัน จึงอยากจะขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนได้มาร่วมกิจกรรม ความสุขของคนไทย ใต้แสงพระบารมี ระหว่างวันที่ 3-7 ธ.ค.นี้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า กระทรวงมหาดไทย จะจัดงานแสดง แสง สีเสียง พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยใช้เทคนิค และบุคคลผู้มีประสบการณ์ในการจัดงานระดับโลกมาจัดทำเทคนิคแสง สีเสียง อย่างที่ไม่เคยแสดงที่ไหนมาก่อนในประเทศไทย โดยจะแสดงทุกคืนตั้งแต่วันที่ 3-13 ธ.ค.
ตลอดช่วงระยะเวลาของงานคือตั้งแต่วันที่ 3-13 ธ.ค. กิจกรรมเหล่านี้จะเป็นกิจกรรมที่ผมคิดว่าจะสามารถหลอมรวมจิตใจของคนไทยได้เป็นอย่างดีอีกครั้งหนึ่ง แต่ละคืนจะมีผู้ร่วมงานเป็นแสน เฉพาะวันที่ 5 ธ.ค.คาดว่าอาจถึง 2 แสนคน โดยจะมีการถ่ายถอดกิจกรรมต่างๆ ให้ประชาชนทั่วประเทศได้ชมในส่วนของจังหวัดเองที่จะเชื่อมโยงกิจกรรมบางกิจกรรมไป อาจจะเป็นที่ศาลากลางหรือที่อื่นๆ เพราะฉะนั้น ก็ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศร่วมกันในการถวายความจงรักภักดีในต้นเดือนธ.ค.นี้ ในงานเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในปี 2552