นายกฯ แจงเหตุยกเลิกเยือนเชียงใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงความวุ่นวาย และเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศที่คนไทย จะร่วมเฉลิมพระเกียรติในหลวงอย่างมีความสุข ตลอดเดือนธันวาคม และเชิญชวนร่วมกิจกรรมในระหว่างวันที่ 2-13 ธ.ค.คาด มีประชาชนมาร่วมงานถึง 2 แสนคน ในวัน 5 ธันวามหาราช นัด ครม.เศรษฐกิจ ถกผลกระทบวิกฤตดูไบ-เวียดนาม ลดค่าเงิน
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์"
วันนี้ (29 พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์” ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย โดยกล่าวว่า ประชาชนคงจะสบายใจขึ้น หลังการตัดสินใจไม่ไปเยือนเชียงใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์วุ่นวาย และเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศที่จะให้ทำคนไทยมีความสุขในช่วงเดือนธันวาคม ที่ประชาชนทั่วประเทศจะได้ร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 82 พรรษา 5 ธันวาคม 2552 ซึ่งนอกจากจะมีการจัดที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวงแล้ว รัฐบาลยังได้ดำเนินการจัดงานที่ถนนราชดำเนินกลาง และพระลานพระราชวังดุสิต โดยจะมีงานตั้งแต่วันที่ 2-13 ธันวาคม 2552
สำหรับบริเวณถนนราชดำเนินกลาง จะมีการแสดง แสง สีเสียง “ความสุขของคนไทย ใต้แสงพระบารมี” ตั้งแต่วันที่ 3-7 ธันวาคม ซึ่งจะมีการจัดแสดงทั้งหมด 9 ส่วน บนถนนราชดำเนินกลาง โดยกระทรวงการคลัง จะเป็นแกนหลักในการจัดงาน ขณะเดียวกัน ที่พระลานพระราชวังดุสิต กระทรวงมหาดไทย จะจัดการแสดง แสง สี เสียง ซึ่งเป็นการใช้เทคนิคและบุคลากรที่มีประสบการณ์จัดงานในระดับโลก โดยระบุว่า ยังไม่เคยมีการแสดงมาก่อนในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จัดแสดงทุกคืนระหว่างวันที่ 5-13 ธันวาคม
ทั้งนี้ ถนนราชดำเนินกลาง จะมีการปิดจราจรตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม ตั้งแต่เวลา 22.00 น.เพื่อทำการซ้อมใหญ่ ขณะที่วันที่ 3-7 ธันวาคม จะปิดการจราจรตั้งแต่ 18.00-24.00 น.ของทุกคืน ส่วนงานที่พระลานพระราชวังดุสิต จะปิดการจราจรตั้งแต่เวลา 17.00-21.00 น.ของทุกวัน
ส่วนเรื่องการอำนวยความสะดวกนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประชาชนที่ต้องการมาร่วมงานจะมีการจัดรถรับ-ส่งให้บริเวณรอบนอก ส่วนประชาชนชาวกรุงเทพมหานครจะได้ข้อมูลที่ชัดเจนว่ารัฐบาลจะจัดสถานที่ให้จอดรถในจุดใดได้บ้าง ขณะที่เบื้องต้นจะเปิดสนามศุภชลาศัยให้บริการจอดรถ โดยจะมีรถไปรับ-ส่งตั้งแต่วันที่ 3-13 ธันวาคม 2552 โดยเชื่อว่า กิจกรรมดังกล่าวจะเป็นการหลอมรวมจิตใจของชาวไทยได้เป็นอย่างดี คาดว่า จะมีประชาชนมาร่วมงานถึง 2 แสนคน ในวันที่ 5 ธันวาคมนี้
นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงกรณีที่รัฐดูไบเลื่อนการชำระหนี้ และการลดค่าเงินที่ประเทศเวียดนาม ซึ่งคงต้องจับตาดูว่าจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศไทยหรือไม่ ซึ่งจะได้นำเข้าหารือในที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจในวันพุธนี้ และตามโครงการไทยเข้มแข็งได้มอบหมายให้กระทรวงพลังงานไปตรวจสอบบ้านเรือนที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ปรากฏว่า มีอยู่ประมาณ 9 หมื่นครัวเรือนทั่วประเทศ ซึ่งคาดว่า ทุกครัวเรือนจะสามารถพาดผ่านสายไฟไปให้แล้วเสร็จ ภายในปี 54 ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายต่อหลังประมาณ 50,000 บาท อยู่ในระหว่างการจัดทำแผนของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
ส่วนที่กรุงเทพมหานครมีการไฟฟ้านครหลวงเป็นเจ้าภาพ ซึ่งพบว่ามีอยู่จำนวนเล็กน้อยซึ่งก็จะดำเนินการติดตั้งให้แล้วเสร็จภายในปีหน้า ส่วนที่ไม่สามารถติดตั้งให้ เพราะไม่อยากไปค้ำประกันให้กับบ้านที่ไม่มีเลขที่ เพราะอาจไปบุกรุกสถานที่หรืออยู่ในระหว่างที่พิพาท รัฐบาลก็ไม่สามารถติดตั้งให้ได้