เมื่อเวลา 15.50 น. วานนี้ (2 ธ.ค.) ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่าในการประชุม สมช.มีการหารือ เรื่องการเตรียมความพร้อมต้อนรับนายนาจีฟ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่จะเดินทางมาเยือนไทยระหว่างวันที่ 7- 9 ธ.ค. นี้ ซึ่งนายกฯมาเลเซีย แสดงความจำนงที่จะไปเยี่ยมพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อไปดูโรงเรียนที่สอน 2 หลักสูตร ทั้งสอนศาสนา และสอนวิชาสามัญทั่วไป พร้อมทั้งดูฟาร์มตัวอย่างที่ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง และจะพาไปดูโครงการบำบัดรักษาเยาวชนที่ติดยาเสพติด เพื่อให้ทางมาเลเซียเห็นว่า รัฐบาลได้ดำเนินการหลายรูปแบบ สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ ทางกองทัพบกได้จัดรถยนต์ และเฮลิคอปเตอร์ เพื่อเดินทางไปตามจุดต่างๆได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ฝ่ายความมั่นคงของไทยได้เตรียมเรื่องที่จะเจรจาในเรื่องชายแดน โดยเฉพาะปัญหาบุคคล 2 สัญชาติ เพราะที่ผ่านมาการตรวจสอบทำได้ยาก จึงต้องมีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่าง 2 ประเทศ หารือการเร่งรัดการเปิดจุดผ่านแดน พร้อมกันนี้จะร่วมกันเปิดสะพานมิตรภาพไทย-มาเลเซีย และยังมีโครงการอุโมงค์ที่ จ.สตูล ที่กำลังจะดำเนินการ
ส่วนที่นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ ออกมากล่าวว่า ผู้นำ 2 ประเทศมีความกังวล เรื่องขบวนการก่อการร้าย จากตะวันออกกลาง จะแทรกซึมเข้ามานั้น ไม่มีรายงานในเรื่องนี้
เมื่อถามว่า ประเมินหรือไม่ว่ากลุ่มก่อการจะอาศัยจังหวะนี้ก่อความรุนแรงหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าจะดูแลเรื่องความปลอดภัยได้อย่างเรียบร้อย โดยจะใช้กำลังทหารตำรวจในพื้นที่ดูแลเป็นปกติ สถานการณ์อยู่ในวิสัยที่ยังดูแลได้
ทั้งนี้ มีผู้ร่วมเดินทางไปพบกับนายกฯมาเลเซีย อาทิ รมว.กลาโหม, รมว.มหาดไทย, รมว.ศึกษา ,รมว.คมนาคม, นายกรัฐมนตรี และบรรดาผบ.เหล่าทัพ และตนเอง รวมถึงใครที่มีหน้าที่ก็จะต้องไปร่วมประชุมหารือด้วย
สำหรับ กำหนดการนั้นจะลงพื้นที่จริงๆ คือวันที่ 9 ธ.ค. โดยวันที่ 7 ธ.ค. เมื่อ นายกฯมาเลเซีย เดินทางมาถึงไทยในเวลา 21 .00 น. ตนก็จะเดินทางไปรับ ส่วนวันที่ 8 ธ.ค. จะมีการเจรจากันทั้งวัน ระหว่าง 2 ฝ่าย ที่ทำเนียบรัฐบาล ส่วนในวันที่ 9 ธ.ค. ก็จะมีการลงพื้นที่ในช่วงเช้า โดยนายกฯไทย จะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน ก่อนเดินทางไปปฎิบัติภารกิจต่อที่ประเทศลาว โดยหลังจากนั้นตนก็จะรับหน้าที่เป็นผู้ทำหน้าที่ต่อในการพานายกฯมาเลเซียไปชมสะพานมิตรภาพ และส่งกลับในเย็นวันดังกล่าว ทั้งนี้ การหารือร่วมกันนั้นทางมาเลเซีย จะมีรัฐมนตรีร่วมมาในคณะประมาณ 9-10 คน
นอกจากนี้ ฝ่ายความมั่นคงของไทยได้เตรียมเรื่องที่จะเจรจาในเรื่องชายแดน โดยเฉพาะปัญหาบุคคล 2 สัญชาติ เพราะที่ผ่านมาการตรวจสอบทำได้ยาก จึงต้องมีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่าง 2 ประเทศ หารือการเร่งรัดการเปิดจุดผ่านแดน พร้อมกันนี้จะร่วมกันเปิดสะพานมิตรภาพไทย-มาเลเซีย และยังมีโครงการอุโมงค์ที่ จ.สตูล ที่กำลังจะดำเนินการ
ส่วนที่นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ ออกมากล่าวว่า ผู้นำ 2 ประเทศมีความกังวล เรื่องขบวนการก่อการร้าย จากตะวันออกกลาง จะแทรกซึมเข้ามานั้น ไม่มีรายงานในเรื่องนี้
เมื่อถามว่า ประเมินหรือไม่ว่ากลุ่มก่อการจะอาศัยจังหวะนี้ก่อความรุนแรงหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าจะดูแลเรื่องความปลอดภัยได้อย่างเรียบร้อย โดยจะใช้กำลังทหารตำรวจในพื้นที่ดูแลเป็นปกติ สถานการณ์อยู่ในวิสัยที่ยังดูแลได้
ทั้งนี้ มีผู้ร่วมเดินทางไปพบกับนายกฯมาเลเซีย อาทิ รมว.กลาโหม, รมว.มหาดไทย, รมว.ศึกษา ,รมว.คมนาคม, นายกรัฐมนตรี และบรรดาผบ.เหล่าทัพ และตนเอง รวมถึงใครที่มีหน้าที่ก็จะต้องไปร่วมประชุมหารือด้วย
สำหรับ กำหนดการนั้นจะลงพื้นที่จริงๆ คือวันที่ 9 ธ.ค. โดยวันที่ 7 ธ.ค. เมื่อ นายกฯมาเลเซีย เดินทางมาถึงไทยในเวลา 21 .00 น. ตนก็จะเดินทางไปรับ ส่วนวันที่ 8 ธ.ค. จะมีการเจรจากันทั้งวัน ระหว่าง 2 ฝ่าย ที่ทำเนียบรัฐบาล ส่วนในวันที่ 9 ธ.ค. ก็จะมีการลงพื้นที่ในช่วงเช้า โดยนายกฯไทย จะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน ก่อนเดินทางไปปฎิบัติภารกิจต่อที่ประเทศลาว โดยหลังจากนั้นตนก็จะรับหน้าที่เป็นผู้ทำหน้าที่ต่อในการพานายกฯมาเลเซียไปชมสะพานมิตรภาพ และส่งกลับในเย็นวันดังกล่าว ทั้งนี้ การหารือร่วมกันนั้นทางมาเลเซีย จะมีรัฐมนตรีร่วมมาในคณะประมาณ 9-10 คน
