ม.ล. จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA เปิดเผยถึงว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริษัท ได้อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลประจำปีสิ้นสุด ณ วันที่ 30 ก.ย. 52 ในรูปของเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.54 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้น โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 23 ก.พ.53
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผลดำเนินงาน ณ สิ้นปี 2552 พบว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,813.70 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8,776.44 ล้านบาท หรือลดลง 6,962.74 ล้านบาท คิดเป็น 79.33% ขณะที่บริษัทฯ มีรายได้ 19,959.92 ล้านบาท แต่มีรายจ่ายจากการดำเนินงาน 18,494.04 ล้านบาท ทำให้มีกำไรจากการดำเนินงาน 1,465.88 ล้านบาท หรือลดลง 83.77 % จากงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยทั่วโลก ทำให้ความต้องการใช้บริการในธุรกิจหลักของบริษัทฯ ลดลงไปด้วย
โดยปริมาณการขนส่งสินค้าทั้งหมดของกองเรือของบริษัทในรอบปีบัญชี 2552 ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วคิดเป็น 31.85% เป็น 11.718 ล้านตัน แม้ว่าอัตราการใช้ประโยชน์จากเรือที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของจะสูงขึ้น แต่การที่จำนวนเรือลดลงในรอบปีที่ผ่านมา ผนวกกับจำนวนวันเดินเรือที่เช่ามาเสริมกองเรือลดลง ส่งผลต่อรายได้อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งในรอบปีบัญชี 2552 จำนวนวันเดินเรือของเรือที่เช่ามาเสริมกองเรือ คือ 5,023 วัน (หรือ 13.76 ลำ) เทียบกับ 7,274 วัน (หรือ 19.87 ลำ) ในรอบปีบัญชี 2551 นอกจากนี้ อัตราค่าเช่าเรือเฉลี่ยของบริษัทฯ ลดลงประมาณ 56.63% จาก 25,303 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกาต่อวันในรอบปีบัญชี 2551 เหลือ 10,973 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกาต่อวันในรอบปีบัญชี 2552
อย่างไรก็ดี บอร์ดบริษัท ได้มีมติลดทุนจดทะเบียนของ TTA ลง โดยการตัดหุ้นจดทะเบียนที่ยังมิได้นำออกจำหน่าย 50,048,452 หุ้น จากทุนจดทะเบียนเดิม 933,052,865 บาท ซึ่งประกอบด้วยหุ้นที่สำรองไว้เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (private placement) ที่ยังมิได้นำออกจำหน่าย 50 ล้านหุ้น และหุ้นปันผลที่ยังมิได้จัดสรรในการจ่ายหุ้นปันผลของผลประกอบการรอบปีบัญชี 51 จำนวน 48,452 หุ้น ดังนั้น หลังการลดทุนจดทะเบียนบริษัทฯ จะมีทุนจดทะเบียนใหม่ 883,004,413 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 883,004,413 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์)หุ้นละ 1 บาท
ขณะเดียวกันให้เพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 50 ล้านหุ้น แบ่งออกเป็น 50 ล้านบาท พาร์ละ 1 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 883,004,413 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 933,004,413 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ 933,004,413 หุ้น พาร์ละ 1 บาท และจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนใหม่ 50 ล้านหุ้น พาร์ละ 1 บาท เสนอขายในคราวเดียวกันหรือต่างคราวกันให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement :PP) เพื่อนำเงินใช้รองรับการขยายงานและเพิ่มความแข็งแกร่งของกระแสเงินทุนหมุนเวียน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผลดำเนินงาน ณ สิ้นปี 2552 พบว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,813.70 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8,776.44 ล้านบาท หรือลดลง 6,962.74 ล้านบาท คิดเป็น 79.33% ขณะที่บริษัทฯ มีรายได้ 19,959.92 ล้านบาท แต่มีรายจ่ายจากการดำเนินงาน 18,494.04 ล้านบาท ทำให้มีกำไรจากการดำเนินงาน 1,465.88 ล้านบาท หรือลดลง 83.77 % จากงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยทั่วโลก ทำให้ความต้องการใช้บริการในธุรกิจหลักของบริษัทฯ ลดลงไปด้วย
โดยปริมาณการขนส่งสินค้าทั้งหมดของกองเรือของบริษัทในรอบปีบัญชี 2552 ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วคิดเป็น 31.85% เป็น 11.718 ล้านตัน แม้ว่าอัตราการใช้ประโยชน์จากเรือที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของจะสูงขึ้น แต่การที่จำนวนเรือลดลงในรอบปีที่ผ่านมา ผนวกกับจำนวนวันเดินเรือที่เช่ามาเสริมกองเรือลดลง ส่งผลต่อรายได้อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งในรอบปีบัญชี 2552 จำนวนวันเดินเรือของเรือที่เช่ามาเสริมกองเรือ คือ 5,023 วัน (หรือ 13.76 ลำ) เทียบกับ 7,274 วัน (หรือ 19.87 ลำ) ในรอบปีบัญชี 2551 นอกจากนี้ อัตราค่าเช่าเรือเฉลี่ยของบริษัทฯ ลดลงประมาณ 56.63% จาก 25,303 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกาต่อวันในรอบปีบัญชี 2551 เหลือ 10,973 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกาต่อวันในรอบปีบัญชี 2552
อย่างไรก็ดี บอร์ดบริษัท ได้มีมติลดทุนจดทะเบียนของ TTA ลง โดยการตัดหุ้นจดทะเบียนที่ยังมิได้นำออกจำหน่าย 50,048,452 หุ้น จากทุนจดทะเบียนเดิม 933,052,865 บาท ซึ่งประกอบด้วยหุ้นที่สำรองไว้เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (private placement) ที่ยังมิได้นำออกจำหน่าย 50 ล้านหุ้น และหุ้นปันผลที่ยังมิได้จัดสรรในการจ่ายหุ้นปันผลของผลประกอบการรอบปีบัญชี 51 จำนวน 48,452 หุ้น ดังนั้น หลังการลดทุนจดทะเบียนบริษัทฯ จะมีทุนจดทะเบียนใหม่ 883,004,413 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 883,004,413 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์)หุ้นละ 1 บาท
ขณะเดียวกันให้เพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 50 ล้านหุ้น แบ่งออกเป็น 50 ล้านบาท พาร์ละ 1 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 883,004,413 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 933,004,413 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ 933,004,413 หุ้น พาร์ละ 1 บาท และจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนใหม่ 50 ล้านหุ้น พาร์ละ 1 บาท เสนอขายในคราวเดียวกันหรือต่างคราวกันให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement :PP) เพื่อนำเงินใช้รองรับการขยายงานและเพิ่มความแข็งแกร่งของกระแสเงินทุนหมุนเวียน
