ASTVผู้จัดการรายวัน – ทัพเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์แห่รีแบรนด์-รีลอนช์ แข่งชูคอนเซปต์สินค้าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คอสุขภาพ “โออิชิ” ปัดฝุ่นอะมิโน โอเค อิงคอนเซปต์เพิ่มคุณค่าสนองความต้องการคนเมืองใส่ใจผิวพรรณ เผาผลาญ “ทิปโก้” ฮึดส่งดาการะรีเทิร์นตลาด ปรับแพกเกจ ลดขนาด ลั่นปีหน้าอัด 50 ล้านบาท โหมการสื่อสารใหม่อีกระลอก หวังชิงบัลลังก์เชปเป้ บิวติ ดริ้งค์ กวาดแชร์ 45% จากตลาด 2,000 ล้านบาท
นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิ กรีนที และเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์ อะมิโน โอเค เปิดเผยว่า ภาพรวมเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์ปีนี้มีอัตราการเติบโตมากกว่า 100% หรือมีมูลค่า 2,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมามูลค่า 800 ล้านบาท และแนวโน้มในปีหน้านี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตมากกว่า 100% จากการมีสินค้าใหม่ทยอยเปิดตัวอีกหลายแบรนด์ เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคใส่ใจในเรื่องของสุขภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตามทิศทางการแข่งขันเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์ จะแข่งขันด้านผลที่ได้รับจากการดื่มสินค้าและเผยแพร่กระแสปากต่อปาก
ล่าสุดบริษัทได้รีแบรนด์ฟังกชันนัลดริงก์ “อะมิโน โอเค” ใหม่ มาเป็น “อะมิโน โอเค พลัส” หลังจากที่เปิดตัวลงสู่ตลาด แต่ไม่ค่อยได้รับการตอบรับที่ดีมากนัก เนื่องจากการวางตำแหน่งของสินค้าไม่ชัดเจนและจับต้องได้ยาก จากเดิมอะมิโน โอเค วางคอนเซปต์ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย และคลายเครียดจากสภาวะแวดล้อมในชีวิตประจำวันมาเป็นการสื่อสารจุดเด่นของสินค้าในเรื่องความสดชื่น และลงลึกถึงผลิตภัณฑ์ในระดับเซกเมนต์ ด้วยการเปิดตัว 3 รสชาติใหม่ คือ อะมิโน โอเค ไบรทท์โดยมีส่วนผสมคอลลาเจนและกลูต้าไธโอน อะมิโน โอเค เบิร์น มีส่วนผสมของแอลคาร์นิทีน และอะมิโน โอเค พลัส ชาร์จ เพิ่มวิตามินต่างๆ ขนาด 470 มล.ราคา 20 บาท
สำหรับตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์มูลค่า 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็น เครื่องดื่มพร้อมดื่ม 1,000 ล้านบาท และเครื่องดื่มรูปแบบฉอท 1,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันเชปเป้ บิวติ ดริ้งค์ เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 45% บีอิ้ง 20% และอะมิโน โอเค รั้งอันดับ 3 มีส่วนแบ่ง 15%
อย่างไรก็ตามจากการรีแบรนด์ในครั้งนี้ของอะมิโน โอเค บริษัทคงต้องมีการให้ป้อนข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างความเข้าใจและประโยชน์ที่ได้รับการจากการดื่มสินค้า และคาดว่าการวางตำแหน่งสินค้าที่ชัดเจนมากขึ้น ผลักดันให้อะมิโน โอเค พลัส มีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น
***ทิปโก้ฮึดสู้ส่งดาการะคืนสังเวียน***
ด้านนายวิวัฒน์ ลิ้มศักดากุล รองประธานและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ทิปโก้ฟูดส์ (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์ดาการะ เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทได้เปิดตัวเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์ดาการะเมื่อปีที่ผ่านมา ภายใต้คอนเซปต์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่สมดุล แต่การตอบรับไม่ดีมากนัก ทำให้ต้องชะลอการทำตลาดไป
ล่าสุดได้รีลอนช์สินค้าใหม่ โดยมีการปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ ฉลากและขนาดของสินค้าจาก 500 ซีซี.ราคา 18 บาท เหลือเป็น 300 ซีซี ราคา 15 บาท นอกจากนี้ในปีหน้าเตรียมทุ่มงบ 50 ล้านบาท ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ซึ่งจะมีการปรับด้านการสื่อสารใหม่ เพื่อสร้างการรับรู้แก่กลุ่มเป้าหมายได้ง่ายมากขึ้น
สำหรับตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์ในปีหน้านี้ คาดว่าการแข่งขันมีความรุนแรงมากขึ้น จากการมีสินค้าใหม่ทยอยเปิดตัว อย่างไรก็ตามการแข่งขันในตลาด เครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์แข่งขันในเรื่องของคอนเซปต์สินค้า เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งขณะนี้พบว่า เครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์หลายตัวทยอยรีแบรนด์หรือรีลอนช์สินค้าใหม่ เพื่อให้คอนเซปต์สินค้ามีจุดขายชัดเจนและจับต้องได้
“แม้ว่าฟังก์ชันนัลดริงก์ เป็นตลาดที่กำลังมาแรงในปีหน้านี้ แต่ขณะเดียวกันเป็นสินค้าที่ทำตลาดได้ลำบาก เนื่องจากติดเงื่อนไขด้านการสื่อสารของสินค้า ทำให้ผู้บริโภคสับสนว่าเป็นน้ำผลไม้ หรือดื่มแล้วมีคุณประโยชน์ด้านใด โดยที่ผ่านมามีเครื่องดื่มหลายตัวเปิดตัว แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ และต้องนำออกจากตลาดไป อาทิ ไอเฟิร์ม เป็นต้น”
นายวิวัฒน์ กล่าวว่า แนวโน้มฟังก์ชันนัลดริงก์ในอนาคตอาจมีมูลค่าใกล้เคียงกับตลาดชาพร้อมดื่มมูลค่า 7,000 ล้านบาท แต่ต้องใช้เวลาในการป้อนข้อมูลความรู้แก่กลุ่มเป้าหมาย ตลอดจนการขยายฐานลูกค้าสู่ตลาดต่างจังหวัด จากปัจจุบันกลุ่มเป้าหมายฟังก์ชันนัลดริงก์มีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนเมือง มีการศึกษา และพฤติกรรมการซื้อสินค้าอ่านฉลากก่อน
นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิ กรีนที และเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์ อะมิโน โอเค เปิดเผยว่า ภาพรวมเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์ปีนี้มีอัตราการเติบโตมากกว่า 100% หรือมีมูลค่า 2,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมามูลค่า 800 ล้านบาท และแนวโน้มในปีหน้านี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตมากกว่า 100% จากการมีสินค้าใหม่ทยอยเปิดตัวอีกหลายแบรนด์ เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคใส่ใจในเรื่องของสุขภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตามทิศทางการแข่งขันเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์ จะแข่งขันด้านผลที่ได้รับจากการดื่มสินค้าและเผยแพร่กระแสปากต่อปาก
ล่าสุดบริษัทได้รีแบรนด์ฟังกชันนัลดริงก์ “อะมิโน โอเค” ใหม่ มาเป็น “อะมิโน โอเค พลัส” หลังจากที่เปิดตัวลงสู่ตลาด แต่ไม่ค่อยได้รับการตอบรับที่ดีมากนัก เนื่องจากการวางตำแหน่งของสินค้าไม่ชัดเจนและจับต้องได้ยาก จากเดิมอะมิโน โอเค วางคอนเซปต์ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย และคลายเครียดจากสภาวะแวดล้อมในชีวิตประจำวันมาเป็นการสื่อสารจุดเด่นของสินค้าในเรื่องความสดชื่น และลงลึกถึงผลิตภัณฑ์ในระดับเซกเมนต์ ด้วยการเปิดตัว 3 รสชาติใหม่ คือ อะมิโน โอเค ไบรทท์โดยมีส่วนผสมคอลลาเจนและกลูต้าไธโอน อะมิโน โอเค เบิร์น มีส่วนผสมของแอลคาร์นิทีน และอะมิโน โอเค พลัส ชาร์จ เพิ่มวิตามินต่างๆ ขนาด 470 มล.ราคา 20 บาท
สำหรับตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์มูลค่า 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็น เครื่องดื่มพร้อมดื่ม 1,000 ล้านบาท และเครื่องดื่มรูปแบบฉอท 1,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันเชปเป้ บิวติ ดริ้งค์ เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 45% บีอิ้ง 20% และอะมิโน โอเค รั้งอันดับ 3 มีส่วนแบ่ง 15%
อย่างไรก็ตามจากการรีแบรนด์ในครั้งนี้ของอะมิโน โอเค บริษัทคงต้องมีการให้ป้อนข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างความเข้าใจและประโยชน์ที่ได้รับการจากการดื่มสินค้า และคาดว่าการวางตำแหน่งสินค้าที่ชัดเจนมากขึ้น ผลักดันให้อะมิโน โอเค พลัส มีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น
***ทิปโก้ฮึดสู้ส่งดาการะคืนสังเวียน***
ด้านนายวิวัฒน์ ลิ้มศักดากุล รองประธานและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ทิปโก้ฟูดส์ (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์ดาการะ เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทได้เปิดตัวเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์ดาการะเมื่อปีที่ผ่านมา ภายใต้คอนเซปต์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่สมดุล แต่การตอบรับไม่ดีมากนัก ทำให้ต้องชะลอการทำตลาดไป
ล่าสุดได้รีลอนช์สินค้าใหม่ โดยมีการปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ ฉลากและขนาดของสินค้าจาก 500 ซีซี.ราคา 18 บาท เหลือเป็น 300 ซีซี ราคา 15 บาท นอกจากนี้ในปีหน้าเตรียมทุ่มงบ 50 ล้านบาท ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ซึ่งจะมีการปรับด้านการสื่อสารใหม่ เพื่อสร้างการรับรู้แก่กลุ่มเป้าหมายได้ง่ายมากขึ้น
สำหรับตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์ในปีหน้านี้ คาดว่าการแข่งขันมีความรุนแรงมากขึ้น จากการมีสินค้าใหม่ทยอยเปิดตัว อย่างไรก็ตามการแข่งขันในตลาด เครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์แข่งขันในเรื่องของคอนเซปต์สินค้า เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งขณะนี้พบว่า เครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์หลายตัวทยอยรีแบรนด์หรือรีลอนช์สินค้าใหม่ เพื่อให้คอนเซปต์สินค้ามีจุดขายชัดเจนและจับต้องได้
“แม้ว่าฟังก์ชันนัลดริงก์ เป็นตลาดที่กำลังมาแรงในปีหน้านี้ แต่ขณะเดียวกันเป็นสินค้าที่ทำตลาดได้ลำบาก เนื่องจากติดเงื่อนไขด้านการสื่อสารของสินค้า ทำให้ผู้บริโภคสับสนว่าเป็นน้ำผลไม้ หรือดื่มแล้วมีคุณประโยชน์ด้านใด โดยที่ผ่านมามีเครื่องดื่มหลายตัวเปิดตัว แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ และต้องนำออกจากตลาดไป อาทิ ไอเฟิร์ม เป็นต้น”
นายวิวัฒน์ กล่าวว่า แนวโน้มฟังก์ชันนัลดริงก์ในอนาคตอาจมีมูลค่าใกล้เคียงกับตลาดชาพร้อมดื่มมูลค่า 7,000 ล้านบาท แต่ต้องใช้เวลาในการป้อนข้อมูลความรู้แก่กลุ่มเป้าหมาย ตลอดจนการขยายฐานลูกค้าสู่ตลาดต่างจังหวัด จากปัจจุบันกลุ่มเป้าหมายฟังก์ชันนัลดริงก์มีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนเมือง มีการศึกษา และพฤติกรรมการซื้อสินค้าอ่านฉลากก่อน
