ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - จนท.นำกำลังบุกทลายคลังแสงในบ้านพักแกนนำหางแดงเชียงใหม่ ผงะซุกระเบิดปิงปอง 6,000 ลูก พร้อมอาวุธปืน 8 กระบอก เจ้าตัวปฏิเสธ อ้างหน้าซื้อมาขาย ขณะที่ “เพชรวรรต-สุรชัย” เหิมยกพลเสื้อแดงปิดล้อมโรงพักเมืองเชียงใหม่ ฉุนที่พยายามออกหมายจับฐานออกอากาศข่มขู่เอาชีวิตนายกฯ ขณะที่กงสุลอเมริกาเตือนนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันเลี่ยงพื้นที่การชุมนุมใน ชม. ด้านภาคีคนฮักเจียงใหม่ประณามรักเชียงใหม่51 ทำนายกฯ ยกเลิกประชุมหอฯ
เมื่อเวลา 08.30 น.วานนี้ (26 พ.ย.) พ.ต.อ.ทรงกฤช ออนตะไคร้ รักษาการ ผกก.สืบสวน ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ นำหมายเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 138 หมู่ 2 บ้านวังน้ำหยาดบ้านเลขที่ 138 หมู่ 2 บ้านวังน้ำหยาด ต.แม่สอย อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ของนายณรงค์ บุญจงเจริญ อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นการ์ดของกลุ่มคนเสื้อแดงเชียงใหม่ พบของกลางระเบิดปิงปอง 6,000 ลูก ปืนพกสั้นรวม 6 กระบอกแบ่งเป็นปืนลูกโม่ขนาด .38 มม.4 กระบอก ปืนสั้นออโตเมติก 2 กระบอก ปืนยาวรวม 2 กระบอก เป็นปืนยาวขนาด .22 มม.1 กระบอก ปืนลูกซอง 1 จึงยึดเป็นของกลางและนำตัวนายณรงค์ ไปสอบปากคำที่ สภ.จอมทอง เพื่อขยายผลต่อ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหานายณรงค์ มีอาวุธและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีวัตถุระเบิดไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่จากการสอบสวนนายณรงค์ ได้ให้การปฏิเสธว่าของกลางที่ยึดได้ดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาร่วมประชุมหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 27 ที่ จ.เชียงใหม่ แต่เป็นของที่เตรียมไว้ขายในช่วงเทศกาลแต่ไม่หมด
ทั้งนี้ จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าผู้ต้องหารายนี้มีประวัติค้าอาวุธเครื่องกระสุนพร้อมอุปกรณ์ประกอบระเบิด เช่นดินเทา ดินประสิวและยังมีประวัติพัวพันการร่วมชุมนุมการเมืองในพื้นที่ จ.เชียงใหม่โดยเป็นการ์ดเสื้อแดง ซึ่งระหว่างการจับกุมตัวมาสอบปากคำที่ สภ.จอมทอง ได้มีชาย 2 คนสวมเสื้อสีแดง "ความจริงวันนี้" มาร่วมสังเกตการณ์ประสานข้อมูลและโทรศัพท์รายงานข่าวไปยังแกนนำคนเสื้อแดงที่ส่วนกลางเป็นระยะๆ
**หางแดงเหิมนำสมาชิกล้อมโรงพัก
วันเดียวกันช่วงเวลา 11.30 น.กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ประมาณ 100 คนพร้อมด้วยรถยนต์ที่มีการติดตั้งเครื่องเสียง นำโดยนายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ประธานที่ปรึกษากลุ่มรักเชียงใหม่ 51 และนายสุรชัย แซ่ด่าน แกนนำ นปช.ได้ทำการรวมตัวชุมนุมที่บริเวณหน้า สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อทวงถามขอคำชี้แจงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความพยายามขออนุมัติศาลจังหวัดเชียงใหม่ออกหมายจับนายเพชรวรรต และนายสุรชัยกรณีออกอากาศทางวิทยุชุมชนคลื่น 92.5 เชียงใหม่ แล้วมีเนื้อหาข่มขู่เอาชีวิตนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางมาร่วมประชุมหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 27 ที่ จ.เชียงใหม่เป็นเจ้าจัดระหว่างวันที่ 27-29 พ.ย.52
โดยนายเพชรวรรต และนายสุรชัย ได้กล่าวปราศรัยโจมตีนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และนายสาธิต วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวมทั้งรัฐบาล ตลอดจนความพยายามออกหมายจับนายเพชรวรรต และนายสุรชัย ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะเดียวกันเรียกร้องขอเจรจากับ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และ พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้ชี้แจงความพยายามที่จะออกหมายจับดังกล่าว นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้มีการย้าย พล.ต.ท.สมคิด และ พล.ต.ต.สมหมาย ออกนอกพื้นที่ภายใน 7 วันด้วยเนื่องจากเชื่อว่าเป็นปรปักษ์กับคนเสื้อแดง
ขณะที่ พล.ต.ต.สมหมาย ได้สั่งการให้ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนให้พร้อมปฏิบัติทันทีในการรักษาความปลอดภัยและกรณีฉุกเฉิน พร้อมสั่งจับตาการปลุกระดมมวลชนและกลุ่มบุคคลต่างด้าวอย่างใกล้ชิดก่
**ทัวร์ทั่วไทยเลิกขายโปรแกรมแอ่ว ชม.
แหล่งข่าวจากวงการบริษัททัวร์หลายแห่งทั้งใน จ.เชียงใหม่ และกรุงเทพฯให้ข้อมูลทำนองเดียวกันว่า ขณะนี้มีบริษัททัวร์หลายแห่งในกรุงเทพฯ หรือจังหวัดอื่นๆ ที่เคยนำโปรแกรมเที่ยวเชียงใหม่ ขายให้กับลูกค้า เริ่มประท้วงงดขายทัวร์เชียงใหม่กันแบบเงียบๆ มากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเห็นว่าเชียงใหม่ มีปัญหากลุ่มเสื้อแดงประท้วงรายวัน มีแนวโน้มที่จะก่อเหตุรุนแรงจนเกินขอบเขต
ล่าสุดวานนี้ (26 พ.ย.) กลุ่มคนเสื้อแดง-รักเชียงใหม่ 51 ก็ได้ยกพวกไปปิดล้อม สภ.เมืองเชียงใหม่ ทำให้ลูกทัวร์ที่เคยจองซื้อโปรแกรมทัวร์เชียงใหม่ไว้ก่อนหน้านี้ ขอยกเลิกโปรแกรมดังกล่าวกันหมด ซึ่งบริษัททัวร์ต้องคืนเงินจองให้กับลูกค้า 100% เต็ม เช่น ขายโปรแกรมทัวร์ 10,000 บาทต้องคืน 10,000 บาท ไม่เช่นนั้นก็จะมีปัญหาถูกร้องเรียน หรือเสียลูกค้าตามมาภายหลังอีก
เมื่อบริษัททัวร์ไปขอคืนตั๋วเดินทางที่จองไว้รองรับลูกค้าแต่ละรายกลับถูกหักเงินไม่น้อยกว่า 10-20% ขึ้นไป โดยที่บริษัททัวร์ไม่สามารถเรียกร้องความเสียหายส่วนนี้จากใครได้ ต้องแบกรับภาระเองทั้งหมด
ดังนั้น หลายบริษัทจึงเริ่มเลิกขายโปรแกรมทัวร์ขึ้นเชียงใหม่ในช่วงนี้ ที่แม้ว่าจะเป็นไฮซีซัน ที่จะสามารถทำเงินได้อย่างมหาศาลก็ตาม โดยเลือกที่จะขายโปรแกรมทัวร์ไปยังแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดอื่นของไทยที่มีแหล่งท่องเที่ยวอยู่อีกหลายจังหวัดสามารถเลือกขายได้ ไม่ว่าจะเป็น หัวหิน พัทยา กรุงเทพ ภูเก็ต พังงา กระบี่ สมุย ฯลฯ
โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของไทย เช่น ภูเก็ต ที่โดยข้อเท็จจริงทำให้บริษัททัวร์มีกำไรจากการขายมากกว่าเชียงใหม่ด้วยซ้ำ เพราะภูเก็ต มีอัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยวเฉลี่ย 7-14 วัน และราคาโรงแรมก็อยู่ในระดับสูงถึง 2,200-2,500 บาท/ห้อง/คืน ซึ่งจะมีค่านายหน้า หรือค่าน้ำไม่ต่ำกว่า 400-800 บาท/ห้อง/คืน ขณะที่เชียงใหม่ มีอัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยวเฉลี่ย 3-4 วันเท่านั้น ทั้งโรงแรมก็มีราคาต่ำเพียง 800-1,500 บาท/ห้อง/คืน อัตราค่าน้ำจึงต่ำเพียง 100 -200 บาท/ห้อง/คืน
“หลายบริษัทก็จะบอกนักท่องเที่ยวที่จะซื้อทัวร์ขึ้นเชียงใหม่ว่า ให้ไปเที่ยวที่อื่นแทนดีกว่า พัทยา หัวหิน หรือภูเก็ต ปลอดภัยกว่า เชียงใหม่ ไม่ปลอดภัย ซึ่งนอกจากบริษัทจะได้กำไรมากกว่าแล้ว ยังไม่มีปัญหาการคืนเงินจองตามมาภายหลังอีกด้วย”
**กงสุลอเมริกาเตือนให้นักท่องเที่ยวเลี่ยง
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า กงสุลอเมริกัน ประจำจังหวัดเชียงใหม่ได้ออกประกาศเตือนนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันที่อยู่ใน จ.เชียงใหม่ และที่กำลังจะเดินทางเข้า จ.เชียงใหม่ ผ่านทาง http://chiangmai.usconsulate.gov/programs_and_events/2009/warden-message-11242009/warden-message-11242009.html ให้หลีกเลี่ยงพื้นที่การชุมนุมเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้
โดยได้ระบุว่า นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเดินทางเข้าร่วมสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศที่ จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 29 พ.ย.52 ซึ่งกลุ่มของฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลภายใต้การสนับสนุนของแนวร่วม ประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแหงชาติ (นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดง ที่ไม่สามารถควบคุมได้ จะก่อการชุมนุมประท้วงหรืออาจก่อความรุนแรงขึ้นโดย เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงกำลังดำเนินการเพื่อจัดการกับสถานการณ์ ซึ่งอาจรวมถึงการใช้กำลังทหารและตำรวจเพิ่มขึ้นเป็นกรณีพิเศษ
ดังนั้น จึงประกาศเตือนชาวอเมริกันว่าเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองครั้งนี้ อาจยกระดับขึ้นเป็นความรุนแรงเมื่อใดก็ได้ ขอให้ชาวอเมริกันไม่ว่าจะเป็นผู้ที่อยู่อาศัย หรือเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีการชุมนุมหรือการปฏิบัติการของกลุ่มผู้ประท้วงในวันที่ 29 พ.ย. นี้ โดยสามารถติดตามข้อมูลความคืบหน้าของเหตุการณ์ และพื้นที่การชุมนุม ได้ทางสื่อต่างๆ
นอกจากนี้ ยังแนะนำให้ชาวอเมริกันที่จะเดินทางเข้ามาหรืออาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ และภาคเหนือของไทย ลงทะเบียนกับทางการหรือสถานกงสุลสหรัฐอเมริกาประจำจังหวัดเชียงใหม่เพื่อการช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉินด้วย
**วางแผนระบบ รปภ.ผู้ร่วมประชุมเข้ม
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเปิดเผยภายหลังทราบข่าวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ยกเลิกการเดินทางมาร่วมประชุมสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศที่โรงแรมเลอ เมอริเดียน จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 29 พ.ย.นี้ว่า แม้นายกรัฐมนตรีจะยกเลิกการเดินทางมาประชุมหอการค้าทั่วประเทศที่ จ.เชียงใหม่ แต่ทางจังหวัดจะยังไม่ประมาทยังคงดำเนินการตามแผนรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด แต่จะลดระดับความเข้มข้นลง ซึ่งแผนรักษาความปลอดภัยเดิมนั้นกำหนดเป้าไว้สองเรื่อง เรื่องแรกดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ที่มาร่วมประชุม เรื่องที่สองดูแลความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นบุคคลสำคัญที่ได้เตรียมแผนไว้แล้ว
**ประณามหางแดงป่วนเมืองเชียงใหม่
ศ.เฉลิมพล แซมเพชร ประธานภาคีคนฮักเจียงใหม่ กล่าวว่า ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายและน่าเสียใจเป็นอย่างมาก ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นฝีมือของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ที่ออกมาเคลื่อนไหวในลักษณะต่างๆ จนทำให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นพื้นที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับเชียงใหม่เป็นอย่างมาก
การกระทำของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ต้องได้รับการประนาม พวกคุณเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้ มาห้ามคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีไม่ให้เดินทางลงพื้นที่ ทั้งๆ ที่การประชุมดังกล่าวเป็นการหารือเรื่องเศรษฐกิจที่มีประโยชน์ การกระทำของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ทำให้เศรษฐกิจไทยพังพินาศ ผมขอเรียกร้องให้ตำรวจมีการใช้กฎหมายบังคับอย่างเข้มงวด จริงจัง ไม่ใช่ปล่อยให้ผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนหลายๆ คดีที่ผ่านมา
ภาคีคนฮักเจียงใหม่ เองจะมีการพูดคุยกับเครือข่ายภาคประชาชน เพื่อออกหนังสือประฌามการกระทำของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 อยากให้ภาคประชาชนที่เห็นพ้องต้องกันถือป้ายเดินขบวนประท้วงการกระทำดังกล่าวแต่ก็คงไม่สามารถบังคับได้ แต่ในนามของภาคีคนฮักเจียงใหม่จะมีการออกหนังสือประณามอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม อยากให้หอการค้าออกหนังสือประณามด้วยเช่นเดียวกัน เพราะหอการค้าถือเป็นแม่งานในการจัดงานประชุมครั้งนี้ ไม่ควรนิ่งเฉยดูดายเพียงอย่างเดียว
เมื่อเวลา 08.30 น.วานนี้ (26 พ.ย.) พ.ต.อ.ทรงกฤช ออนตะไคร้ รักษาการ ผกก.สืบสวน ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ นำหมายเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 138 หมู่ 2 บ้านวังน้ำหยาดบ้านเลขที่ 138 หมู่ 2 บ้านวังน้ำหยาด ต.แม่สอย อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ของนายณรงค์ บุญจงเจริญ อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นการ์ดของกลุ่มคนเสื้อแดงเชียงใหม่ พบของกลางระเบิดปิงปอง 6,000 ลูก ปืนพกสั้นรวม 6 กระบอกแบ่งเป็นปืนลูกโม่ขนาด .38 มม.4 กระบอก ปืนสั้นออโตเมติก 2 กระบอก ปืนยาวรวม 2 กระบอก เป็นปืนยาวขนาด .22 มม.1 กระบอก ปืนลูกซอง 1 จึงยึดเป็นของกลางและนำตัวนายณรงค์ ไปสอบปากคำที่ สภ.จอมทอง เพื่อขยายผลต่อ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหานายณรงค์ มีอาวุธและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีวัตถุระเบิดไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่จากการสอบสวนนายณรงค์ ได้ให้การปฏิเสธว่าของกลางที่ยึดได้ดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาร่วมประชุมหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 27 ที่ จ.เชียงใหม่ แต่เป็นของที่เตรียมไว้ขายในช่วงเทศกาลแต่ไม่หมด
ทั้งนี้ จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าผู้ต้องหารายนี้มีประวัติค้าอาวุธเครื่องกระสุนพร้อมอุปกรณ์ประกอบระเบิด เช่นดินเทา ดินประสิวและยังมีประวัติพัวพันการร่วมชุมนุมการเมืองในพื้นที่ จ.เชียงใหม่โดยเป็นการ์ดเสื้อแดง ซึ่งระหว่างการจับกุมตัวมาสอบปากคำที่ สภ.จอมทอง ได้มีชาย 2 คนสวมเสื้อสีแดง "ความจริงวันนี้" มาร่วมสังเกตการณ์ประสานข้อมูลและโทรศัพท์รายงานข่าวไปยังแกนนำคนเสื้อแดงที่ส่วนกลางเป็นระยะๆ
**หางแดงเหิมนำสมาชิกล้อมโรงพัก
วันเดียวกันช่วงเวลา 11.30 น.กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ประมาณ 100 คนพร้อมด้วยรถยนต์ที่มีการติดตั้งเครื่องเสียง นำโดยนายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ประธานที่ปรึกษากลุ่มรักเชียงใหม่ 51 และนายสุรชัย แซ่ด่าน แกนนำ นปช.ได้ทำการรวมตัวชุมนุมที่บริเวณหน้า สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อทวงถามขอคำชี้แจงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความพยายามขออนุมัติศาลจังหวัดเชียงใหม่ออกหมายจับนายเพชรวรรต และนายสุรชัยกรณีออกอากาศทางวิทยุชุมชนคลื่น 92.5 เชียงใหม่ แล้วมีเนื้อหาข่มขู่เอาชีวิตนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางมาร่วมประชุมหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 27 ที่ จ.เชียงใหม่เป็นเจ้าจัดระหว่างวันที่ 27-29 พ.ย.52
โดยนายเพชรวรรต และนายสุรชัย ได้กล่าวปราศรัยโจมตีนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และนายสาธิต วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวมทั้งรัฐบาล ตลอดจนความพยายามออกหมายจับนายเพชรวรรต และนายสุรชัย ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะเดียวกันเรียกร้องขอเจรจากับ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และ พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้ชี้แจงความพยายามที่จะออกหมายจับดังกล่าว นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้มีการย้าย พล.ต.ท.สมคิด และ พล.ต.ต.สมหมาย ออกนอกพื้นที่ภายใน 7 วันด้วยเนื่องจากเชื่อว่าเป็นปรปักษ์กับคนเสื้อแดง
ขณะที่ พล.ต.ต.สมหมาย ได้สั่งการให้ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนให้พร้อมปฏิบัติทันทีในการรักษาความปลอดภัยและกรณีฉุกเฉิน พร้อมสั่งจับตาการปลุกระดมมวลชนและกลุ่มบุคคลต่างด้าวอย่างใกล้ชิดก่
**ทัวร์ทั่วไทยเลิกขายโปรแกรมแอ่ว ชม.
แหล่งข่าวจากวงการบริษัททัวร์หลายแห่งทั้งใน จ.เชียงใหม่ และกรุงเทพฯให้ข้อมูลทำนองเดียวกันว่า ขณะนี้มีบริษัททัวร์หลายแห่งในกรุงเทพฯ หรือจังหวัดอื่นๆ ที่เคยนำโปรแกรมเที่ยวเชียงใหม่ ขายให้กับลูกค้า เริ่มประท้วงงดขายทัวร์เชียงใหม่กันแบบเงียบๆ มากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเห็นว่าเชียงใหม่ มีปัญหากลุ่มเสื้อแดงประท้วงรายวัน มีแนวโน้มที่จะก่อเหตุรุนแรงจนเกินขอบเขต
ล่าสุดวานนี้ (26 พ.ย.) กลุ่มคนเสื้อแดง-รักเชียงใหม่ 51 ก็ได้ยกพวกไปปิดล้อม สภ.เมืองเชียงใหม่ ทำให้ลูกทัวร์ที่เคยจองซื้อโปรแกรมทัวร์เชียงใหม่ไว้ก่อนหน้านี้ ขอยกเลิกโปรแกรมดังกล่าวกันหมด ซึ่งบริษัททัวร์ต้องคืนเงินจองให้กับลูกค้า 100% เต็ม เช่น ขายโปรแกรมทัวร์ 10,000 บาทต้องคืน 10,000 บาท ไม่เช่นนั้นก็จะมีปัญหาถูกร้องเรียน หรือเสียลูกค้าตามมาภายหลังอีก
เมื่อบริษัททัวร์ไปขอคืนตั๋วเดินทางที่จองไว้รองรับลูกค้าแต่ละรายกลับถูกหักเงินไม่น้อยกว่า 10-20% ขึ้นไป โดยที่บริษัททัวร์ไม่สามารถเรียกร้องความเสียหายส่วนนี้จากใครได้ ต้องแบกรับภาระเองทั้งหมด
ดังนั้น หลายบริษัทจึงเริ่มเลิกขายโปรแกรมทัวร์ขึ้นเชียงใหม่ในช่วงนี้ ที่แม้ว่าจะเป็นไฮซีซัน ที่จะสามารถทำเงินได้อย่างมหาศาลก็ตาม โดยเลือกที่จะขายโปรแกรมทัวร์ไปยังแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดอื่นของไทยที่มีแหล่งท่องเที่ยวอยู่อีกหลายจังหวัดสามารถเลือกขายได้ ไม่ว่าจะเป็น หัวหิน พัทยา กรุงเทพ ภูเก็ต พังงา กระบี่ สมุย ฯลฯ
โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของไทย เช่น ภูเก็ต ที่โดยข้อเท็จจริงทำให้บริษัททัวร์มีกำไรจากการขายมากกว่าเชียงใหม่ด้วยซ้ำ เพราะภูเก็ต มีอัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยวเฉลี่ย 7-14 วัน และราคาโรงแรมก็อยู่ในระดับสูงถึง 2,200-2,500 บาท/ห้อง/คืน ซึ่งจะมีค่านายหน้า หรือค่าน้ำไม่ต่ำกว่า 400-800 บาท/ห้อง/คืน ขณะที่เชียงใหม่ มีอัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยวเฉลี่ย 3-4 วันเท่านั้น ทั้งโรงแรมก็มีราคาต่ำเพียง 800-1,500 บาท/ห้อง/คืน อัตราค่าน้ำจึงต่ำเพียง 100 -200 บาท/ห้อง/คืน
“หลายบริษัทก็จะบอกนักท่องเที่ยวที่จะซื้อทัวร์ขึ้นเชียงใหม่ว่า ให้ไปเที่ยวที่อื่นแทนดีกว่า พัทยา หัวหิน หรือภูเก็ต ปลอดภัยกว่า เชียงใหม่ ไม่ปลอดภัย ซึ่งนอกจากบริษัทจะได้กำไรมากกว่าแล้ว ยังไม่มีปัญหาการคืนเงินจองตามมาภายหลังอีกด้วย”
**กงสุลอเมริกาเตือนให้นักท่องเที่ยวเลี่ยง
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า กงสุลอเมริกัน ประจำจังหวัดเชียงใหม่ได้ออกประกาศเตือนนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันที่อยู่ใน จ.เชียงใหม่ และที่กำลังจะเดินทางเข้า จ.เชียงใหม่ ผ่านทาง http://chiangmai.usconsulate.gov/programs_and_events/2009/warden-message-11242009/warden-message-11242009.html ให้หลีกเลี่ยงพื้นที่การชุมนุมเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้
โดยได้ระบุว่า นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเดินทางเข้าร่วมสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศที่ จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 29 พ.ย.52 ซึ่งกลุ่มของฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลภายใต้การสนับสนุนของแนวร่วม ประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแหงชาติ (นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดง ที่ไม่สามารถควบคุมได้ จะก่อการชุมนุมประท้วงหรืออาจก่อความรุนแรงขึ้นโดย เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงกำลังดำเนินการเพื่อจัดการกับสถานการณ์ ซึ่งอาจรวมถึงการใช้กำลังทหารและตำรวจเพิ่มขึ้นเป็นกรณีพิเศษ
ดังนั้น จึงประกาศเตือนชาวอเมริกันว่าเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองครั้งนี้ อาจยกระดับขึ้นเป็นความรุนแรงเมื่อใดก็ได้ ขอให้ชาวอเมริกันไม่ว่าจะเป็นผู้ที่อยู่อาศัย หรือเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีการชุมนุมหรือการปฏิบัติการของกลุ่มผู้ประท้วงในวันที่ 29 พ.ย. นี้ โดยสามารถติดตามข้อมูลความคืบหน้าของเหตุการณ์ และพื้นที่การชุมนุม ได้ทางสื่อต่างๆ
นอกจากนี้ ยังแนะนำให้ชาวอเมริกันที่จะเดินทางเข้ามาหรืออาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ และภาคเหนือของไทย ลงทะเบียนกับทางการหรือสถานกงสุลสหรัฐอเมริกาประจำจังหวัดเชียงใหม่เพื่อการช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉินด้วย
**วางแผนระบบ รปภ.ผู้ร่วมประชุมเข้ม
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเปิดเผยภายหลังทราบข่าวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ยกเลิกการเดินทางมาร่วมประชุมสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศที่โรงแรมเลอ เมอริเดียน จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 29 พ.ย.นี้ว่า แม้นายกรัฐมนตรีจะยกเลิกการเดินทางมาประชุมหอการค้าทั่วประเทศที่ จ.เชียงใหม่ แต่ทางจังหวัดจะยังไม่ประมาทยังคงดำเนินการตามแผนรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด แต่จะลดระดับความเข้มข้นลง ซึ่งแผนรักษาความปลอดภัยเดิมนั้นกำหนดเป้าไว้สองเรื่อง เรื่องแรกดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ที่มาร่วมประชุม เรื่องที่สองดูแลความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นบุคคลสำคัญที่ได้เตรียมแผนไว้แล้ว
**ประณามหางแดงป่วนเมืองเชียงใหม่
ศ.เฉลิมพล แซมเพชร ประธานภาคีคนฮักเจียงใหม่ กล่าวว่า ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายและน่าเสียใจเป็นอย่างมาก ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นฝีมือของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ที่ออกมาเคลื่อนไหวในลักษณะต่างๆ จนทำให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นพื้นที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับเชียงใหม่เป็นอย่างมาก
การกระทำของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ต้องได้รับการประนาม พวกคุณเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้ มาห้ามคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีไม่ให้เดินทางลงพื้นที่ ทั้งๆ ที่การประชุมดังกล่าวเป็นการหารือเรื่องเศรษฐกิจที่มีประโยชน์ การกระทำของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ทำให้เศรษฐกิจไทยพังพินาศ ผมขอเรียกร้องให้ตำรวจมีการใช้กฎหมายบังคับอย่างเข้มงวด จริงจัง ไม่ใช่ปล่อยให้ผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนหลายๆ คดีที่ผ่านมา
ภาคีคนฮักเจียงใหม่ เองจะมีการพูดคุยกับเครือข่ายภาคประชาชน เพื่อออกหนังสือประฌามการกระทำของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 อยากให้ภาคประชาชนที่เห็นพ้องต้องกันถือป้ายเดินขบวนประท้วงการกระทำดังกล่าวแต่ก็คงไม่สามารถบังคับได้ แต่ในนามของภาคีคนฮักเจียงใหม่จะมีการออกหนังสือประณามอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม อยากให้หอการค้าออกหนังสือประณามด้วยเช่นเดียวกัน เพราะหอการค้าถือเป็นแม่งานในการจัดงานประชุมครั้งนี้ ไม่ควรนิ่งเฉยดูดายเพียงอย่างเดียว