xs
xsm
sm
md
lg

นกแอร์คว้าเส้นทางบินไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-การบินไทยออกโรงหนุนนกแอร์ เปิดบิน 3 เส้นทางในประเทศ บุรีรัมย์,นครพนม,สกลนคร เสียบแทนพีบีแอร์และสนองนักการเมือง อัดโปรโมชั่นซื้อ1 แถม 1 มั่นใจไม่ขาดทุน เตรียมโอนเส้นทางให้บินเพิ่มอีกในปีหน้า คงเหลือแค่จุดหลักสนามบินนานาชาติ ไม่หวั่นแอร์เอเชียเข้าตลาดฯไทย ชี้การบินแข่งขันตามกลไกลตลาด ด้านบพ.เผย 2 สายการบินเล็กสนเปิดบินในปท.เพิ่ม ด้านทอท.จับมือททท.และผู้ประกอบธุรกิจด้านการบิน จัดสัมมนา หวังกระตุ้นจูงใจฟื้นตลาดนักท่องเที่ยวจีนที่ทรุดหนักจากวิกฤติการเมือง

วานนี้ (26 พ.ย.) บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) และสายการบินนกแอร์ได้ร่วมกันแถลงข่าวการเปิดเส้นทางบินใหม่ของนกแอร์เส้นทางกรุงเทพฯ-สกลนคร,กรุงเทพฯ-นครพนมและกรุงเทพฯ-บุรีรัมย์ ตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค. 2552 โดยนายกฤตพล ฉันทฤธานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานสาขาประจำประเทศไทย,ภาคพื้นอินโดจีนและสหภาพพม่า บริษัทการบินไทยเปิดเผยว่า บริษัทพร้อมที่จะสนับสนุนนกแอร์ในการบินเส้นทางในประเทศทุกเส้นทาง ทั้งด้านเครื่องบินการซ่อมบำรุงและลูกเรือ โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาแผนการบินเส้นทางในประเทศ โดยบริษัทจะยังคงบินในเส้นทางหลัก เช่น เชียงใหม่ หาดใหญ่ ภูเก็ต รวมถึงกระบี่ สมุย เชียงราย ซึ่งเป็นสนามบินนานาชาติมีความถี่สูงและมีผู้โดยสารต่อเครื่องมากเท่านั้น
ส่วนที่เหลือจะให้นกแอร์รับไปดำเนินการ ซึ่งจะสรุปความชัดเจนในปีหน้า

“การให้นกแอร์บินในเส้นทางประเทศที่การบินไทยเคยบินไม่ได้เป็นการอุ้มหรือเอื้อประโยชน์ให้นกแอร์ ซึ่งผู้บริหารสามารถชี้แจงได้ ทุกอย่างเป็นไปตามกติกาและกลไกด้านธุรกิจ โดยจะชูนกแอร์เป็นสายการบิน Low Fair มีศักยภาพในการแข่งขันเชิงรุกตลาดในประเทศ ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาการบินไทยและนกแอร์ได้หารือร่วมกันถึงความร่วมมือกันมากขึ้นและเมื่อแผนการบินในประเทศชัดเจนเชื่อว่านกแอร์ก็จะมีความพร้อมด้านเครื่องบินและการตลาดเพื่อรับการเปิดเส้นทางบินเพิ่ม”นายกฤตพลกล่าว

ชี้แอร์เอเชียเข้าตลาดไทยไม่กระทบธุรกิจ

ส่วนกรณีที่แอร์เอเชียมีแผนเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้นนานกฤตพลกล่าวว่า การระดมทุนเพื่อต้องการเพิ่มทุนเพื่อนำมาสนับสนุนการใช้จ่ายแต่ยังไม่ชัดเจนว่า เป็นการระดมทุนเพื่อหาเม็ดเงินมาทำการตลาดหรือนำมาชดเชยส่วนที่หายไป ซึ่งในแง่ธุรกิจการบิน การแข่งขันเป็นเรื่องปกติซึ่งปัจจุบันก็มีการแข่งขันด้านราคากับอย่างมากอยู่แล้ว

ดังนั้นเชื่อว่าจะไม่กระทบกับการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งปัจจุบันเส้นทางกรุงเทพฯ-ภูเก็ต มีมีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 75-80% ซึ่งหากไทยแอร์เอเชียเปิดบินเส้นทางนี้ จะมีการแย่งส่วนแบ่งตลาดกันแต่ไม่กังวลมากนักเพราะจุดขายค่อนข้างแตกต่างกัน

นกแอร์อัดโปรโมชั่นเส้นทางนักการเมืองมั่นใจไม่ขาดทุน

นายปิ่นยศ พิบูลสงคราม ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายขายและการตลาด สายการบินนกแอร์ กล่าวว่า นกแอร์จะเริ่มทำการบินตั้งแต่วันที่3 ธ.ค. 2552 ซึ่งได้เริ่มเปิดให้จองบัตรโดยสารทั้ง 3 เส้นทางตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย. 2552โดย จัดโปรโมชั่น “โปรอีสานเส้นทางใหม่ ซื้อ1 ฟรี1” สำหรับผู้ที่สำรองที่นั่งตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย.- 15 ธ.ค.2552 ราคาเริ่มต้นที่ 2,490 บาท (รวมค่าธรรมเนียมทุกประเภทแล้ว ) เดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 3-18 ธ.ค. 2552 และหลังจากนั้นจะมีการปรับขึ้นค่าโดยสารแต่ไม่สูงเท่าที่ PB แอร์ เคยให้บริการที่ 3,900 บาทต่อคนต่อเที่ยวบิน

ทั้งนี้นกแอรืได้เช่าเครื่องบิน ATR 72 ขนาด 66 ที่นั่ง จากการบินไทย มาบิน พร้อมทั้งจะทำการตลาดร่วมกับการบินไทย ซึ่งจากการประเมินกลุ่มผู้โดยสารเป้าหมายจะเป็นนักธุรกิจในพื้นที่ ซึ่งทำการค้าระหว่างชายแดน และข้าราชการ ซึ่งมีความแน่นอนในการเดินทาง จึงเชื่อว่าจะไม่ขาดทุนโดยจุดคุ้มทุน Cabin Factor จะอยู่ที่ประมาณ 65-70%
บพ.เผย 2 สายการบินเล็กสนเปิดบินในปท.เพิ่ม

นายวุฒิชัย สิงหมณี อธิบดีกรมการบินพลเรือน (บพ.) กล่าวว่า ก่อนหน้านี้พีบีแอร์ ทำการบินใน 3 เส้นทางดังกล่าวรวมถึงเส้นทางอื่นๆ เช่น ลำปาง,น่าน,ร้อยเอ็ด แต่แจ้งขอหยุดบินชั่วคราวทุกเส้นทางตั้งแต่ พ.ค. 2552 ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจากประสบปัญหาที่สะสมมานาน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ที่เคยใช้บริการเดือดร้อน อย่างไรก็ตามล่าสุด มี 2 สายการบินยื่อขออนุญาตเปิดบินเส้นทางภายในประเทศเพิ่ม คือ Legacy air ซึ่งจะใช้นครราชสีมาเป็นฮับไป พิษณุโลก,เชียงใหม่,ภูเก็ต และนครเชียงใหม่แอร์ ใช้เชียงใหม่ เป็นฮับ ไปพิษณุโลก,อุดรธานี,ขอนแก่น

ทอท.จับมือททท.หาทางฟื้นตลาดนักท่องเที่ยวจีน
นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า ทอท.ได้ร่วมกับหน่วยงานขนส่งทางอากาศทั้งภายเอกชนและภาครัฐ จัดงานสัมมนา”การส่งเสริมการเดินทางโดยการขนส่งทางอากาศมายังประเทศไทย” ระหว่างวันที่ 2-3 ธ.ค.2552 โดยเชิญบริษัทนำเที่ยวชั้นนำของประเทศจีนประมาณ 40 บริษัทที่ยังไม่เคยพาลูกทัวร์เข้ามาไทย มาร่วมสัมมนากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งทางอากาศของประเทศไทย สายการบิน โรงแรม บนริษัทนำเที่ยวในประเทศไทย เพื่อให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและให้มีโอกาสปรับปรุงหรือจัดทำโปรแกรมท่องเที่ยวร่วมกัน

ทั้งนี้ในช่วง ปี 2551-2552 ปริมาณนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนที่มายังประทศไทยลดลงอย่างมา ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกที่หดตัว การระบาดของไขหวัดสายพันธ์ใหม่ 2009 และความไม่สงบของการเมืองภายในประเทศไทย โดยตั้งเป้าหมายสร้างแรงจูงใจให้บริษัททัวร์จีนทำการตลาดเพื่อเพิ่มนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาไทยมากขึ้นภายใต้สโลแกน”เที่ยวไทยด้วยรอยยิ้ม”

นายสรรเสริญ เงารังษี ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)กล่าวว่า จีนเป็นตลาดใหญ่ มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่ประเทศไทยปีละประมาณ 1 ล้านคนมีรายได้กว่า 30,000 ล้านบาทต่อปี แต่ปี 2551 ลดลงเหลือ 8 เสนคน โดยเดือนก.ย.นี้ นักท่องเที่ยวจีนลดลงเหลือ20% ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีขึ้น โยตั้งเป้าทั้งปี 2552 จะมีนักท่องเที่ยวจีนประมาณ 7-7.5 แสนคน
และเชื่อว่าการสัมมนาครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นและเพิ่มนักท่องเที่ยวจากจีนให้เพิ่มขึ้นในปี 2553
กำลังโหลดความคิดเห็น