บริษัทนำเที่ยวจีนดึงโมเดลการตลาดโลคอสต์แอร์ไลน์ จัดโปรโมชันแพกเกจทัวร์ราคาไม่ถึง 10,000 บาท ไม่เกิน 20 ที่นั่งต่อทริป ยั่วนักท่องเที่ยวชาวจีนได้ผล สนใจแห่จองเพียบ พร้อมพลิกเกมเลี่ยงปัญหาการเมืองไทย จัดชาร์เตอร์ไฟลต์ประจำบินลงภูเก็ต-สมุย ปั้นยอดเพิ่มได้ถึง 50% ระบุ หากรัฐ-เอกชนร่วมมือ 3 ล้านคนไม่ไกลเกินฝัน
นายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน เปิดเผยว่า สถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนขณะนี้เริ่มดีขึ้นตามลำดับ โดยไฮซีซันปีนี้ นักท่องเที่ยวจีนปรับเปลี่ยนจุดหมายปลายทาง (เดสติเนชัน) มาเป็นภูเก็ต และ สมุย จำนวนมาก โดย พ.ย.-ธ.ค.นี้ จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางไปยัง 2 เดสติเนชันดังกล่าวเพิ่ม 50% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ กรุงเทพฯ 2 เดือนนี้จะเติบโตราว 20%
ทั้งนี้ การเติบโตของนักท่องเที่ยวจากตลาดจีนในเมืองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เนื่องจากผู้ประกอบการได้ปรับตัวนำเสนอเดสติเนชันที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชาวจีนชื่นชอบ โดยจัดเป็นเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) ให้บินแบบไดเร็กไฟลต์จากเมืองต้นทาง แหล่งท่องเที่ยว คือ ภูเก็ต และ สมุย โดยไม่ต้องผ่านกรุงเทพฯ
เนื่องจาก 1-2 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์ทางการเมือง จะเกิดในพื้นที่แถบกรุงเทพฯ ทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความไม่มั่นใจ แต่เมื่อมีการเสนอเดสติเนชันใหม่ๆ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวหาดทรายชายทะเล ซึ่งชาวจีนชื่นชอบ เขาก็จะเดินทางเข้ามา โดยสมาคมกับผู้ประกอบการทัวร์ในประเทศจีน จะจัดเป็นทริปชาร์เตอร์ไฟลต์รูปแบบนี้บินประจำตลอดปีนับจากนี้ไป ปัจจุบันเริ่มบินมาจาก 3 เมืองใหญ่ อาทิ เซี่ยงไฮ้ ปีกกิ่ง และ คุนหมิง
อย่างไรก็ตาม จากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ลดน้อยลงเกือบ 50% เมื่อช่วงครึ่งปีแรก ทำให้ผู้ประกอบการปรับกลยุทธ์การขาย โดยใช้โมเดลการตลาดคล้ายกับสายการบินต้นทุนต่ำ(โลว์คอสต์แอร์ไลน์) มาสร้างแรงจูงใจให้กับลูกค้า ด้วยการจัดโปรโมชันแพกเกจทัวร์ที่พัก พร้อมอาหาร เริ่มต้นที่ 999 -1,999 หยวน หรือราว 5,000-10,000 บาท ต่อคน โดยแต่ละทริปจะมีแพกเกจราคาโปรโมชันนี้ 10-20 ที่นั่ง ซึ่งทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจโทร.เข้ามาสอบถามจำนวนมาก หากแพกเกจโปรโมชันหมด ผู้ขายก็จะนำเสนอเหรดราคาอื่นๆ แทน ลูกค้าให้ความสนใจตอบรับดีมาก การจัดทริปแบบนี้จะใช้เครื่องบินเช่าเหมาลำ แต่ละเที่ยวบินจะมีราว 200-300 ที่นั่ง
“ประเทศจีนถ้ากล้าลงทุน กล้าทำการตลาดเราจะได้แขกมาไทยเยอะมาก เพราะชาวจีนชอบที่จะเดินทางมาประเทศไทยอยู่แล้ว เชื่อว่า ถ้าทุกฝ่ายร่วมมือกันทำแผนการตลาดรูปแบบนี้ อนาคตนักท่องเที่ยวจากตลาดจีนเดินทางมาไทย 2-3 ล้านคน ไม่ใช่เรื่องยาก โดยภาครัฐต้องเข้ามาดูแลจับมือภาคเอกชนร่วมทำโปรโมชันแบบฮาร์ดเซล โฆษณาในสื่อท้องถิ่นจะทำให้ชาวจีนมาเที่ยวไทยได้ตลอดทั้งปี แต่ทั้งนี้สถานการณ์การเมืองก็ต้องนิ่ง อย่าให้มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นอีก” นายวิชิต กล่าว
สำหรับปีนี้ ประเมินว่า ตลาดจีนจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทยราว 6 แสนคน ลดจากปีก่อนที่ทำได้ราว 7-8 แสนคน ส่วนปีหน้าหากสถานการณ์บ้านเมืองของไทยปกติ ตั้งเป้าว่านักท่องเที่ยวจีนมาเดินทางมาไทยไม่น้อยกว่า 1.2 ล้านคน
นายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน เปิดเผยว่า สถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนขณะนี้เริ่มดีขึ้นตามลำดับ โดยไฮซีซันปีนี้ นักท่องเที่ยวจีนปรับเปลี่ยนจุดหมายปลายทาง (เดสติเนชัน) มาเป็นภูเก็ต และ สมุย จำนวนมาก โดย พ.ย.-ธ.ค.นี้ จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางไปยัง 2 เดสติเนชันดังกล่าวเพิ่ม 50% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ กรุงเทพฯ 2 เดือนนี้จะเติบโตราว 20%
ทั้งนี้ การเติบโตของนักท่องเที่ยวจากตลาดจีนในเมืองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เนื่องจากผู้ประกอบการได้ปรับตัวนำเสนอเดสติเนชันที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชาวจีนชื่นชอบ โดยจัดเป็นเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) ให้บินแบบไดเร็กไฟลต์จากเมืองต้นทาง แหล่งท่องเที่ยว คือ ภูเก็ต และ สมุย โดยไม่ต้องผ่านกรุงเทพฯ
เนื่องจาก 1-2 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์ทางการเมือง จะเกิดในพื้นที่แถบกรุงเทพฯ ทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความไม่มั่นใจ แต่เมื่อมีการเสนอเดสติเนชันใหม่ๆ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวหาดทรายชายทะเล ซึ่งชาวจีนชื่นชอบ เขาก็จะเดินทางเข้ามา โดยสมาคมกับผู้ประกอบการทัวร์ในประเทศจีน จะจัดเป็นทริปชาร์เตอร์ไฟลต์รูปแบบนี้บินประจำตลอดปีนับจากนี้ไป ปัจจุบันเริ่มบินมาจาก 3 เมืองใหญ่ อาทิ เซี่ยงไฮ้ ปีกกิ่ง และ คุนหมิง
อย่างไรก็ตาม จากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ลดน้อยลงเกือบ 50% เมื่อช่วงครึ่งปีแรก ทำให้ผู้ประกอบการปรับกลยุทธ์การขาย โดยใช้โมเดลการตลาดคล้ายกับสายการบินต้นทุนต่ำ(โลว์คอสต์แอร์ไลน์) มาสร้างแรงจูงใจให้กับลูกค้า ด้วยการจัดโปรโมชันแพกเกจทัวร์ที่พัก พร้อมอาหาร เริ่มต้นที่ 999 -1,999 หยวน หรือราว 5,000-10,000 บาท ต่อคน โดยแต่ละทริปจะมีแพกเกจราคาโปรโมชันนี้ 10-20 ที่นั่ง ซึ่งทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจโทร.เข้ามาสอบถามจำนวนมาก หากแพกเกจโปรโมชันหมด ผู้ขายก็จะนำเสนอเหรดราคาอื่นๆ แทน ลูกค้าให้ความสนใจตอบรับดีมาก การจัดทริปแบบนี้จะใช้เครื่องบินเช่าเหมาลำ แต่ละเที่ยวบินจะมีราว 200-300 ที่นั่ง
“ประเทศจีนถ้ากล้าลงทุน กล้าทำการตลาดเราจะได้แขกมาไทยเยอะมาก เพราะชาวจีนชอบที่จะเดินทางมาประเทศไทยอยู่แล้ว เชื่อว่า ถ้าทุกฝ่ายร่วมมือกันทำแผนการตลาดรูปแบบนี้ อนาคตนักท่องเที่ยวจากตลาดจีนเดินทางมาไทย 2-3 ล้านคน ไม่ใช่เรื่องยาก โดยภาครัฐต้องเข้ามาดูแลจับมือภาคเอกชนร่วมทำโปรโมชันแบบฮาร์ดเซล โฆษณาในสื่อท้องถิ่นจะทำให้ชาวจีนมาเที่ยวไทยได้ตลอดทั้งปี แต่ทั้งนี้สถานการณ์การเมืองก็ต้องนิ่ง อย่าให้มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นอีก” นายวิชิต กล่าว
สำหรับปีนี้ ประเมินว่า ตลาดจีนจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทยราว 6 แสนคน ลดจากปีก่อนที่ทำได้ราว 7-8 แสนคน ส่วนปีหน้าหากสถานการณ์บ้านเมืองของไทยปกติ ตั้งเป้าว่านักท่องเที่ยวจีนมาเดินทางมาไทยไม่น้อยกว่า 1.2 ล้านคน
