ASTVผู้จัดการรายวัน – เอกชนแตะเบรก อย่าหวังโกยนักท่องเที่ยวจากจีนช่วงแข่งเอเชียนเกมส์ ระบุ จีน ก็จ้องดึงทัพนักกีฬาและผู้เข้าชม สร้างรายได้การท่องเที่ยวในประเทศอยู่แล้ว ชี้ ให้ดูงานโอลิมปิกเป็นตัวอย่าง ชี้เร่งเจาะพื้นที่ใหม่ๆในจีน เป็นตัวขยายตลาดดีกว่า ระบุการเมืองเป็นปัจจัยสำคัญกับตลาดนี้ ด้าน “อภิชาติ” ระบุ
ให้มองเรื่องการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ประเทศไทยดีกว่าหวังผลกำไร
นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ ไทย – จีน เปิดเผยว่า การที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้นำผู้ประกอบการจากประเทศไทยไปพบปะและเจรจาธุรกิจกับบริษัทนำเที่ยวของประเทศจีนที่เมืองกวางโจว ประเทศจีน เพื่อหารือจัดทำแพกเกทัวร์ท่องเที่ยวร่วมกันในช่วงการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ 2010 ครั้งที่ 16 ที่เมืองกวางโจว ระหว่าง 12-27 พ.ย.53 เป็นเรื่องที่ดี แต่ทั้งนี้ ต้องสร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการด้วยว่า อย่าหวังสร้างรายได้จากงานนี้มากนัก ซึ่งก็เหมือนกับเมื่อคราวที่จีนเป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิก ซึ่งก็มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไทยจากงานดังกล่าวไม่มากเช่นกัน
ทั้งนี้ เพราะประเทศจีนเขาก็ต้องการโปรโมตให้ผู้ที่เข้าร่วมการแข่งขันทั้งนักกีฬา ผู้ฝึกสอนและผู้ติดตามเดินทางท่องเที่ยวในประเทศจีนอยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้ทราบข่าวว่าอยู่ระหว่างการจัดเตรียมโปรแกรมทัวร์ แต่หากต้องการไปเปิดตลาดสร้างการรับรู้ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ที่กิจกรรมด้านการกีฬาจะเข้ามามีบทบาทในการส่งเสริมการท่องเที่ยวมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตลาดนักท่องเที่ยวจีน ปัจจัยการตัดสินใจเดินทางเข้ามาประเทศไทยมากที่สุด คือความสงบด้านการเมืองของประเทศไทย หากประเทศไทยการเมืองไม่นิ่ง ชาวจีนก็จะไม่เดินทางเข้ามาแน่นอน แต่หากบ้านเมืองสงบเรียบร้องชาวจีนก็พร้อมเดินทางเข้ามาประเทศไทยตลอดเวลา
ในปีหน้า ทางสมาคม มีแผนจะรุกเปิดตลาดในพื้นที่ใหม่ๆของประเทศให้มากขึ้น เน้นเมืองที่ยังมีจำนวนนักท่องเที่ยวมาไทยยังไม่มากนัก เช่น ปักกิ่ง เหอหนาน เป็นต้น เพราะจีนเป็นประเทศใหญ่มีกว่า 30 มณฑลแต่ละมณฑลมีประชากรมากกว่าประเทศไทย โดยหลังเทศกาลตรุษจีนปีหน้า ก็จะเริ่มเดินสายโรดโชว์ ตั้งเป้าหมายว่า ปี2553 จะเชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวจีนมาไทยให้ถึง 1 ล้านคน จากปีนี้ ที่คาดว่าจะเป็นปีที่ตกต่ำมากที่สุด โดยประเมินว่าทั้งปีจะได้เพียง 5 แสนคน ซึ่งเป็นผลจากสถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมืองของประเทศไทย
นายอภิชาต สังฆอารี ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) กล่าวว่า ต้องขอเวลาหารือกับผู้ประกอบการจีน ที่เมืองกวางโจว ถึงความเป็นไปได้ในการจัดทำแพกเกทัวร์ร่วมกัน ซึ่งเบื้องต้นที่ผู้ประกอบการไทยคิดไว้ คือ จะเจาะนักท่องเที่ยวและทีมนักกีฬา ทั้งก่อนและหลังการแข่งขัน(พี-โพสต์ทัวร์) ให้เดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทย เน้นประเทศในกลุ่มเอเชีย ได้แก่ จีน เกาหลี ซึ่งเป็นกลุ่มที่ชื่นชอบประเทศไทยอยู่แล้ว
ส่วนเส้นทาง จะจัดให้หลากหลายกระจายทุกภาค เช่น เหนือ อีสาน หัวหิน พัทยา และกรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม ส่วนราคาค่าแพกเกจจะไม่แพงมาก เน้นให้โครงการนี้เป็นประโยชน์ด้านการประชาสัมพันธ์ประเทศไทย โดยใช้ทัพนักกีฬาผู้ติดตาม และผู้ชม เป็นผู้กระจายข่าวหลังได้เข้ามาเที่ยวเมืองไทย
ให้มองเรื่องการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ประเทศไทยดีกว่าหวังผลกำไร
นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ ไทย – จีน เปิดเผยว่า การที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้นำผู้ประกอบการจากประเทศไทยไปพบปะและเจรจาธุรกิจกับบริษัทนำเที่ยวของประเทศจีนที่เมืองกวางโจว ประเทศจีน เพื่อหารือจัดทำแพกเกทัวร์ท่องเที่ยวร่วมกันในช่วงการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ 2010 ครั้งที่ 16 ที่เมืองกวางโจว ระหว่าง 12-27 พ.ย.53 เป็นเรื่องที่ดี แต่ทั้งนี้ ต้องสร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการด้วยว่า อย่าหวังสร้างรายได้จากงานนี้มากนัก ซึ่งก็เหมือนกับเมื่อคราวที่จีนเป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิก ซึ่งก็มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไทยจากงานดังกล่าวไม่มากเช่นกัน
ทั้งนี้ เพราะประเทศจีนเขาก็ต้องการโปรโมตให้ผู้ที่เข้าร่วมการแข่งขันทั้งนักกีฬา ผู้ฝึกสอนและผู้ติดตามเดินทางท่องเที่ยวในประเทศจีนอยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้ทราบข่าวว่าอยู่ระหว่างการจัดเตรียมโปรแกรมทัวร์ แต่หากต้องการไปเปิดตลาดสร้างการรับรู้ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ที่กิจกรรมด้านการกีฬาจะเข้ามามีบทบาทในการส่งเสริมการท่องเที่ยวมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตลาดนักท่องเที่ยวจีน ปัจจัยการตัดสินใจเดินทางเข้ามาประเทศไทยมากที่สุด คือความสงบด้านการเมืองของประเทศไทย หากประเทศไทยการเมืองไม่นิ่ง ชาวจีนก็จะไม่เดินทางเข้ามาแน่นอน แต่หากบ้านเมืองสงบเรียบร้องชาวจีนก็พร้อมเดินทางเข้ามาประเทศไทยตลอดเวลา
ในปีหน้า ทางสมาคม มีแผนจะรุกเปิดตลาดในพื้นที่ใหม่ๆของประเทศให้มากขึ้น เน้นเมืองที่ยังมีจำนวนนักท่องเที่ยวมาไทยยังไม่มากนัก เช่น ปักกิ่ง เหอหนาน เป็นต้น เพราะจีนเป็นประเทศใหญ่มีกว่า 30 มณฑลแต่ละมณฑลมีประชากรมากกว่าประเทศไทย โดยหลังเทศกาลตรุษจีนปีหน้า ก็จะเริ่มเดินสายโรดโชว์ ตั้งเป้าหมายว่า ปี2553 จะเชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวจีนมาไทยให้ถึง 1 ล้านคน จากปีนี้ ที่คาดว่าจะเป็นปีที่ตกต่ำมากที่สุด โดยประเมินว่าทั้งปีจะได้เพียง 5 แสนคน ซึ่งเป็นผลจากสถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมืองของประเทศไทย
นายอภิชาต สังฆอารี ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) กล่าวว่า ต้องขอเวลาหารือกับผู้ประกอบการจีน ที่เมืองกวางโจว ถึงความเป็นไปได้ในการจัดทำแพกเกทัวร์ร่วมกัน ซึ่งเบื้องต้นที่ผู้ประกอบการไทยคิดไว้ คือ จะเจาะนักท่องเที่ยวและทีมนักกีฬา ทั้งก่อนและหลังการแข่งขัน(พี-โพสต์ทัวร์) ให้เดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทย เน้นประเทศในกลุ่มเอเชีย ได้แก่ จีน เกาหลี ซึ่งเป็นกลุ่มที่ชื่นชอบประเทศไทยอยู่แล้ว
ส่วนเส้นทาง จะจัดให้หลากหลายกระจายทุกภาค เช่น เหนือ อีสาน หัวหิน พัทยา และกรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม ส่วนราคาค่าแพกเกจจะไม่แพงมาก เน้นให้โครงการนี้เป็นประโยชน์ด้านการประชาสัมพันธ์ประเทศไทย โดยใช้ทัพนักกีฬาผู้ติดตาม และผู้ชม เป็นผู้กระจายข่าวหลังได้เข้ามาเที่ยวเมืองไทย