ASTVผู้จัดการรายวัน – เดอะมอลล์ กรุ๊ป โหนกระแสนิวมีเดีย ปีหน้าเตรียมบุกปรับเว็บไซต์ขายของ เพิ่มฐานลูกค้า หลังพบกำลังซื้อหวนกลับมาตั้งแต่ ต.ค. ฤกษ์ดีทุ่มงบกว่า 35 ล้านบาท ผนึก 3 ห้าง จัด“เดอะมอลล์, ดิ เอ็มโพเรี่ยม และสยามพารากอน มิดไนท์ เซลล์ รอแยล” พร้อมกัน มั่นใจโกยยอดขายได้อีก 800 ล้านบาท พร้อมดันรายได้ทั้งปีทะลุ 40,000 ล้าน เติบโต 5%
นายชำนาญ เมธปรีชากุล ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์ของกำลังซื้อในช่วงไตรมาสสี่นี้ เริ่มมีแนวโน้มกลับมาอีกครั้งแต่แต่ช่วงเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเดือนนี้มียอดขายเพิ่มขึ้น 5% เทียบกับก.ย. ที่ผ่านมา มองว่าเป็นช่วงเวลาที่ดี คาดว่าต้นปี2553ก็น่าจะดีมากขึ้น หากไม่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบหรือมีการประท้วงเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามแผนการตลาดในปีหน้า เบื้องต้นยังคงวางไว้บนพื้นฐานของความเป็นไปได้มากที่สุด โดยในแง่ของผลประกอบการนั้น ตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 5% จาก 40,000 ล้านบาทในปีนี้ ขณะที่ในส่วนของการทำการตลาดนั้น จะมุ่งเรื่องของทำการตลาดแบบไดเร็ค มาร์เก็ตติ้งมากขึ้น ลดแมส มาร์เก็ตติ้งลง เน้นพาร์ทเนอร์ชิป บิ๊กไอเดีย และการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นให้ความสำคัญกับการทำโซเชียลมาร์เก็ตติ้ง โดยเฉพาะกับฐานลูกค้าบัตร เอ็ม การ์ด จะมีการทำกิจกรรมในลักษณะเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น จากปัจจุบันมีฐานสมาชิกถึง 1.2 ล้านใบ ตามเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะได้ในปลายปีนี้แล้ว
ที่สำคัญปีหน้า ทางกลุ่ม เดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้ให้ความสนใจกับการทำการตลาดในสื่อนิวมีเดียด้วย โดยปีหน้าจะมีการพัฒนาเว็บไซต์ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษาความเป็นไปได้และฐานผู้บริโภค ว่าควรจะเจาะเข้ากลุ่มใดบ้าง แต่ทั้งนี้เว็บไซต์ดังกล่าว จะพัฒนาสู่ความเป็น Visual Marketing สามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านทางเว็บไซต์ได้
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ ทางกลุ่ม ได้ทุ่มงบกว่า 35 ล้านบาท จัดมิดไนท์ เซลล์ ซึ่งเป็นการจัดงานพร้อมกันทั้ง 3 ห้าง ภายใต้ชื่อ “เดอะมอลล์, ดิ เอ็มโพเรี่ยม และสยามพารากอน มิดไนท์ เซลล์ รอแยล” ลดสูงสุด 70% ลุ้นช้อปปิ้งเพชรฟรี 1 ล้านบาท และรายการสมนาคุณอีกกว่า 10 ล้านบาท จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 พ.ย. – 1 ธ.ค.นี้
นายชำนาญ กล่าวต่อว่า เฉพาะไตรมาสสี่นี้ มีการใช้งบการตลาดเพื่อจัดกิจกรรมไม่ต่ำกว่า 600-700 ล้านบาท จากทั้งปีใช้งบการตลาดรวมกว่า 2,000 ล้านบาท โดยหลังจากจัด มิดไนท์เซลล์แล้ว จะมีการจัดแคมเปญอีก 3-4 แคมเปญ ขณะที่การจัดงานมิดไนท์ เซลล์ ครั้งนี้ คาดว่าจะมียอดขายเกิดขึ้นไม่ต่ำกว่า 800 ล้านบาท หรือช่วยให้ทั้งปีทางกลุ่ม จะมีผลประกอบการตามแผนที่วางไว้ 40,000 ล้านบาท
เติบโตขึ้น 5% ได้ ซึ่งในงานนี้คาดว่าลูกค้าจะมียอดการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 1 เท่าตัว เทียบกับการใช้จ่ายปกติ
นายชำนาญ เมธปรีชากุล ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์ของกำลังซื้อในช่วงไตรมาสสี่นี้ เริ่มมีแนวโน้มกลับมาอีกครั้งแต่แต่ช่วงเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเดือนนี้มียอดขายเพิ่มขึ้น 5% เทียบกับก.ย. ที่ผ่านมา มองว่าเป็นช่วงเวลาที่ดี คาดว่าต้นปี2553ก็น่าจะดีมากขึ้น หากไม่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบหรือมีการประท้วงเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามแผนการตลาดในปีหน้า เบื้องต้นยังคงวางไว้บนพื้นฐานของความเป็นไปได้มากที่สุด โดยในแง่ของผลประกอบการนั้น ตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 5% จาก 40,000 ล้านบาทในปีนี้ ขณะที่ในส่วนของการทำการตลาดนั้น จะมุ่งเรื่องของทำการตลาดแบบไดเร็ค มาร์เก็ตติ้งมากขึ้น ลดแมส มาร์เก็ตติ้งลง เน้นพาร์ทเนอร์ชิป บิ๊กไอเดีย และการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นให้ความสำคัญกับการทำโซเชียลมาร์เก็ตติ้ง โดยเฉพาะกับฐานลูกค้าบัตร เอ็ม การ์ด จะมีการทำกิจกรรมในลักษณะเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น จากปัจจุบันมีฐานสมาชิกถึง 1.2 ล้านใบ ตามเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะได้ในปลายปีนี้แล้ว
ที่สำคัญปีหน้า ทางกลุ่ม เดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้ให้ความสนใจกับการทำการตลาดในสื่อนิวมีเดียด้วย โดยปีหน้าจะมีการพัฒนาเว็บไซต์ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษาความเป็นไปได้และฐานผู้บริโภค ว่าควรจะเจาะเข้ากลุ่มใดบ้าง แต่ทั้งนี้เว็บไซต์ดังกล่าว จะพัฒนาสู่ความเป็น Visual Marketing สามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านทางเว็บไซต์ได้
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ ทางกลุ่ม ได้ทุ่มงบกว่า 35 ล้านบาท จัดมิดไนท์ เซลล์ ซึ่งเป็นการจัดงานพร้อมกันทั้ง 3 ห้าง ภายใต้ชื่อ “เดอะมอลล์, ดิ เอ็มโพเรี่ยม และสยามพารากอน มิดไนท์ เซลล์ รอแยล” ลดสูงสุด 70% ลุ้นช้อปปิ้งเพชรฟรี 1 ล้านบาท และรายการสมนาคุณอีกกว่า 10 ล้านบาท จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 พ.ย. – 1 ธ.ค.นี้
นายชำนาญ กล่าวต่อว่า เฉพาะไตรมาสสี่นี้ มีการใช้งบการตลาดเพื่อจัดกิจกรรมไม่ต่ำกว่า 600-700 ล้านบาท จากทั้งปีใช้งบการตลาดรวมกว่า 2,000 ล้านบาท โดยหลังจากจัด มิดไนท์เซลล์แล้ว จะมีการจัดแคมเปญอีก 3-4 แคมเปญ ขณะที่การจัดงานมิดไนท์ เซลล์ ครั้งนี้ คาดว่าจะมียอดขายเกิดขึ้นไม่ต่ำกว่า 800 ล้านบาท หรือช่วยให้ทั้งปีทางกลุ่ม จะมีผลประกอบการตามแผนที่วางไว้ 40,000 ล้านบาท
เติบโตขึ้น 5% ได้ ซึ่งในงานนี้คาดว่าลูกค้าจะมียอดการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 1 เท่าตัว เทียบกับการใช้จ่ายปกติ