ม.ร.ว.ศุภดิศ ดิศกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)หรือ BAFS เปิดเผยว่าปี 2553 บริษัทฯตั้งเป้าปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานเพิ่มขึ้น 3%มาอยู่ที่ 4,180 ล้านลิตร/ปี ขณะรายได้บริษัทฯจะเติบโตขึ้นจากปีนี้ 5% เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลก ทำให้นักท่องเที่ยวกับมาท่องเที่ยวอีกครั้ง
ขณะที่ตารางการบินล่วงหน้าของบมจ.การบินไทยก็เพิ่มเที่ยวบินขึ้น ส่วนรายได้ของบริษัทฯปีนี้ดีกว่าที่คาดไว้ว่าจะติดลบ 5%จากปีก่อน สอดคล้องกับปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานที่ลดลงจากปีก่อน 6% มาอยู่ที่ 4,050 ล้านลิตร/ปี ซึ่งตัวเลขรายได้และปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานดีขึ้นกว่าประมาณการณ์เดิมเมื่อต้นปีนี้ว่า บริษัทฯมีรายได้ลดลง 7% และปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานปีนี้จะติดลบ 7% จากปีก่อนที่ 4,312 ล้านลิตรเนื่องจากปรับเปลี่ยนตารางการบิน และการบินไทยยกเลิกเที่ยวบินลดลง ขณะบริษัทฯสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ตามแผน
อย่างไรก็ตาม ปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานได้ปรับตัวดีขึ้นมาเรื่อยๆตั้งแต่เดือนมิ.ย.จนถึงปัจจุบัน ล่าสุดปริมาณการเติมอากาศยานเดือน พ.ย.นี้ กลับมาปกติใกล้เคียงก่อนจะมีเหตุการณ์ม็อบปิดสนามบินมาอยู่ที่ 11.8 ล้านลิตร/วัน และคาดว่าเดือน ธ.ค. นี้ปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานจะโตขึ้น 25% ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซันการท่องเที่ยวทำให้มีเที่ยวบินทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น
" แม้ว่ารายได้จะปรับลดลง แต่ในแง่ของกำไรสุทธิยืนยันว่าดีกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้แน่ โดย 5 ปีข้างหน้านี้ บริษัทตั้งเป้ารักษาระดับการเติบโตของปริมาณเติมน้ำมันไว้ที่ปีละ 3% ซึ่งเป็นระดับปกติโดยไม่ได้มองปัจจัยเสี่ยงด้านการเมือง "
แม้ว่าสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันอากาศยานปรับเพิ่มขึ้น แต่เพื่อความไม่ประมาท ดังนั้นในอีก 2-3 ปีข้างหน้าบริษัทฯยังควบคุมค่าใช้จ่าย แต่จะยกเลิกการลดเงินเดือนโดยสมัครใจ และสวัสดิการพนักงาน เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทฯได้ทำหนังสือของบมท.การท่าอากาศยานไทย เพื่อขอยกเว้นค่าเช่าท่อส่งน้ำมัน Hydrant ไปยังดอนเมืองอีก 1 ปี
โดยคาดว่าจะได้รับอนุมัติ เนื่องจากปัจจุบันสายการบินที่ใช้บริการสนามบินดอนเมืองมีเพียง 2 สายการบินเท่านั้น คือ สายการบินนกแอร์และวันทูโก โดยมีปริมาณการใช้น้ำมันอากาศยานอยู่ที่ 2 แสนลิตร/วัน โดยบริษัทฯหันมาให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานโดยรถบรรทุกน้ำมันแทน และปีหน้าจะไม่มีการลงทุนโครงการใหญ่ ๆ แต่จะเน้นการปรับปรุงอุปกรณ์ ส่วนการชำระคืนเงินกู้ปีหน้าจะเพิ่มสูงไปที่ 655 ล้านบาท จะไม่มีปัญหาการชำระหนี้ และจะไม่ออกหุ้นกู้เพื่้อรีไฟแนนซ์หนี้ เพราะดอกเบี้ยต่ำ
ขณะที่ตารางการบินล่วงหน้าของบมจ.การบินไทยก็เพิ่มเที่ยวบินขึ้น ส่วนรายได้ของบริษัทฯปีนี้ดีกว่าที่คาดไว้ว่าจะติดลบ 5%จากปีก่อน สอดคล้องกับปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานที่ลดลงจากปีก่อน 6% มาอยู่ที่ 4,050 ล้านลิตร/ปี ซึ่งตัวเลขรายได้และปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานดีขึ้นกว่าประมาณการณ์เดิมเมื่อต้นปีนี้ว่า บริษัทฯมีรายได้ลดลง 7% และปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานปีนี้จะติดลบ 7% จากปีก่อนที่ 4,312 ล้านลิตรเนื่องจากปรับเปลี่ยนตารางการบิน และการบินไทยยกเลิกเที่ยวบินลดลง ขณะบริษัทฯสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ตามแผน
อย่างไรก็ตาม ปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานได้ปรับตัวดีขึ้นมาเรื่อยๆตั้งแต่เดือนมิ.ย.จนถึงปัจจุบัน ล่าสุดปริมาณการเติมอากาศยานเดือน พ.ย.นี้ กลับมาปกติใกล้เคียงก่อนจะมีเหตุการณ์ม็อบปิดสนามบินมาอยู่ที่ 11.8 ล้านลิตร/วัน และคาดว่าเดือน ธ.ค. นี้ปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานจะโตขึ้น 25% ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซันการท่องเที่ยวทำให้มีเที่ยวบินทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น
" แม้ว่ารายได้จะปรับลดลง แต่ในแง่ของกำไรสุทธิยืนยันว่าดีกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้แน่ โดย 5 ปีข้างหน้านี้ บริษัทตั้งเป้ารักษาระดับการเติบโตของปริมาณเติมน้ำมันไว้ที่ปีละ 3% ซึ่งเป็นระดับปกติโดยไม่ได้มองปัจจัยเสี่ยงด้านการเมือง "
แม้ว่าสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันอากาศยานปรับเพิ่มขึ้น แต่เพื่อความไม่ประมาท ดังนั้นในอีก 2-3 ปีข้างหน้าบริษัทฯยังควบคุมค่าใช้จ่าย แต่จะยกเลิกการลดเงินเดือนโดยสมัครใจ และสวัสดิการพนักงาน เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทฯได้ทำหนังสือของบมท.การท่าอากาศยานไทย เพื่อขอยกเว้นค่าเช่าท่อส่งน้ำมัน Hydrant ไปยังดอนเมืองอีก 1 ปี
โดยคาดว่าจะได้รับอนุมัติ เนื่องจากปัจจุบันสายการบินที่ใช้บริการสนามบินดอนเมืองมีเพียง 2 สายการบินเท่านั้น คือ สายการบินนกแอร์และวันทูโก โดยมีปริมาณการใช้น้ำมันอากาศยานอยู่ที่ 2 แสนลิตร/วัน โดยบริษัทฯหันมาให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานโดยรถบรรทุกน้ำมันแทน และปีหน้าจะไม่มีการลงทุนโครงการใหญ่ ๆ แต่จะเน้นการปรับปรุงอุปกรณ์ ส่วนการชำระคืนเงินกู้ปีหน้าจะเพิ่มสูงไปที่ 655 ล้านบาท จะไม่มีปัญหาการชำระหนี้ และจะไม่ออกหุ้นกู้เพื่้อรีไฟแนนซ์หนี้ เพราะดอกเบี้ยต่ำ
