ระนอง- สรรพสามิตระนอง เพิ่มมาตรการคุมเข้ม การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อป้องกันการลักลอบนำย้อนกลับมาขายในประเทศ เหตุราคามีส่วนต่างถึงลิตรละ 8 บาท
วันนี้ (23 พ.ย.) นายภุชงค์ ชาญศิริวัฒน์ สรรพสามิตพื้นที่ระนอง นำเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบการขนถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงสำเร็จรูปจากรถบรรทุกน้ำมันลงเรือแท็งก์เกอร์ และเรือทัวร์ประมง ที่ส่งออกไปยังประเทศพม่า และบังกลาเทศ ที่ท่าเทียบเรือโกกวด หมู่ 5 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง เพื่อตรวจสอบน้ำมัน ว่า มีปริมาณตรงตามใบแจ้งการส่งออกหรือไม่ เป็นการป้องกันการลักลอบนำน้ำมันย้อนกลับเข้ามาจำหน่ายในประเทศ เนื่องจากน้ำมันเชื้อเพลิงที่ส่งออก เบนซิน ลิตรละ 20 บาท ดีเซล ลิตรละ 18 บาท ราคาจะต่ำกว่าราคาที่ขายหน้าปั๊มทั่วไปลิตรละ 8 บาท
สรรพสามิตพื้นที่ระนอง กล่าวว่า น้ำมันที่ส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านจังหวัดระนองมีปริมาณเฉลี่ยเดือนละ 20 ล้านลิตร มูลค่า 360 ล้านบาท หรือประมาณปีละ 4,000 ล้านบาท แยกเป็นน้ำมันที่อยู่ในความควบคุมดูแลของกรมสรรพสามิตมีทั้งน้ำมันเบนซิน 91 และน้ำมันดีเซล โดยเฉพาะน้ำมันเบนซินส่งออกในรูปของการขอคืนภาษี
ส่วนน้ำมันดีเซลส่งออกในรูปของการขอยกเว้นภาษีสรรพสามิต และน้ำมันที่อยู่ในความควบคุมดูแลของกรมศุลกากร ที่เรียกว่าเขตฟรีโซน (FREE ZONE) ซึ่งไม่ต้องขอคืนและขอยกเว้นภาษี แต่ราคาจะเท่ากัน โดยภาครัฐจะไม่มีรายได้จากการส่งออกน้ำมันดังกล่าว
สรรพสามิตพื้นที่ระนอง กล่าวด้วยว่า น้ำมันที่ส่งออกจะมีการเติมสารมาร์คเกอร์ผสมในน้ำมัน เพื่อให้มีความแตกต่างจากน้ำมันที่จำหน่ายในประเทศ เมื่อใช้สารเคมีตรวจสอบสีของน้ำมันที่ผสมสารมาร์คเกอร์จะเปลี่ยนเป็นสีแดง หากมีการนำลักลอบกลับเข้ามาจำหน่ายในประเทศก็จะตรวจเจอทันที โดยมีการส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจออกสุ่มตรวจเรือประมงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการลักลอบนำน้ำมันที่ส่งออกกลับเข้ามาในประเทศ
ส่วนทางบกใช้วิธีการตรวจสอบรถบรรทุกน้ำมัน ตั้งแต่ออกจากโรงกลั่นว่าได้แวะถ่ายน้ำมันระหว่างการขนส่งหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีการจับกุมได้ในพื้นที่ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์