ศรีสะเกษ - ฝูงแดงอีสาน 30 คน ดอดเข้า “เขมร” ทางด้านด่าน “ช่องสะงำ” จ.ศรีสะเกษ อ้างดั้นด้นไปให้กำลังใจ “พ่อแม้ว” นักโทษชายทรยศชาติ ที่นครวัดนครธม จ.เสียมราฐ ด้านแม่ค้าเขมรผวาสงคราม ไม่อยากให้ไทย-กัมพูชา สู้รบกัน ร้องขอให้เห็นแก่ปัญหาปากท้องของประชาชน
วันนี้ (11 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 14.00 น.ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีกลุ่มประชาชนชาวไทยอ้างเป็นนักท่องเที่ยวจากจังหวัดในภาคอีสาน เช่น จ.นครราชสีมา จ.บุรีรัมย์ และ จ.ร้อยเอ็ด ประมาณ 30 คน ซึ่งหลายคนใส่เสื้อแดงเขียนข้อความ “Truth Today” แต่สวมเสื้อทับไว้อีกชั้น พากันเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว มายื่นเรื่องต่อเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองด่านช่องสะงำ เพื่อขออนุญาตเดินทางไปยัง จ.เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา
โดยนักท่องเที่ยวเหล่านี้ทุกคนได้ใช้พาสปอร์ต (Passport) ในการเดินทาง และแจ้งว่า จะเดินทางไป จ.เสียมราฐ ในครั้งนี้เป็นเวลา 2 วัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองด่านช่องสะงำ ได้แจ้งรายละเอียดให้ทราบว่า คณะที่ต้องการเดินทางต้องติดต่อเช่าเหมารถบัส เพื่อวิ่งจากจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ไปยัง จ.เสียมราฐ ระยะทางประมาณ 118 กิโลเมตร (กม.)
นักท่องเที่ยวรายหนึ่งที่ร่วมคณะเดินทางในครั้งนี้ กล่าวว่า พวกตนเป็นตัวแทนของกลุ่มเสื้อคนแดงจากหลายจังหวัดในภาคอีสาน และจะพากันเดินทางไปพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ นักโทษชายหนีคุกคดีอาญาแผ่นดินไทย ที่นครวัดนครธม จ.เสียมราฐ เพื่อเป็นการให้กำลังใจแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ต่อสู้ต่อไป
ขณะเดียวกัน บรรยากาศการค้าขายในตลาดชายแดนช่องสะงำวันนี้ ค่อนข้างเงียบเหงา มีเพียงรถบรรทุกน้ำมันวิ่งเข้า-ออกเท่านั้น และมีแม่ค้าชาวกัมพูชาใช้รถเข็น 2 ล้อ บรรทุกเห็ดป่าและถ่านออกมาขายให้กับพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนชาวไทย
ส่วนภายในบริเวณตลาดชายแดนของกัมพูชา ปรากฏว่า ได้มีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่งพร้อมด้วยอาวุธปืนอาก้า สะพายซองกระสุนปืนเต็มอัตรา เดินตรวจคุมเข้มภายในบริเวณตลาดกัมพูชา และเฝ้าสังเกตคนไทยที่เข้าไปหาซื้อสินค้าอย่างใกล้ชิด เนื่องจากไม่ไว้วางใจสถานการณ์ความตรึงเครียดระหว่างรัฐบาลไทย-กัมพูชา ในขณะนี้
นางยอน แสน อายุ 34 ปี แม่ค้าชาวกัมพูชา จาก อ.อันลองเวง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา กล่าวว่า การที่ทหารกัมพูชากับทหารไทยมีการตรึงกำลังกันอยู่ที่บริเวณเขาพระวิหารนั้น ไม่อยากให้ทหารทั้ง 2 ฝ่ายต้องรบกัน เพราะจะทำให้ประชาชนทั้ง 2 ประเทศได้รับผลกระทบจากการสู้รบ ตนเห็นว่าปัญหาปากท้องของประชาชนทั้ง 2 ชาติ เป็นเรื่องสำคัญมากกว่าการต้องมาจ้องฆ่าฟันกัน
“ชาวกัมพูชามีความหวาดกลัวภัยสงครามที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาเป็นอย่างมาก แต่ถึงจะหวาดกลัวอย่างไร แต่หากไม่ออกมาค้าขายสินค้าของป่าที่เก็บหามาอยู่ ก็ไม่รู้ว่าจะหารายได้อะไรมาเลี้ยงปากท้องตัวเองและครอบครัว จึงอยากให้ประชาชนชาวไทยชาวกัมพูชารักกันเหมือนพี่น้องเช่นเดิมเหมือนในอดีต” นางยอน กล่าว
ทางด้าน นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ศรีสะเกษ ขณะนี้ยังไม่น่าเป็นห่วง ประชาชนทั้ง 2 ฝ่ายยังไปมาหาสู่กันตามปกติ เนื่องจากต้องทำมาค้าขายหากินไปใช้ในการดำรงชีวิต ซึ่งการดำเนินการทางการเมืองก็เป็นเรื่องของรัฐบาลระหว่าง 2 ประเทศที่ต้องเจรจากัน ส่วนชาวบ้านก็ยังคงอยู่กันตามปกติไม่มีปัญหาแต่อย่างใด และที่สำคัญคือ ด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ศรีสะเกษไม่มีบ่อนการพนันหรือกาสิโน จึงไม่ทำให้เกิดผลกระทบ