มีคนพยายามอธิบายกันมากว่า การแบ่งสีของคนไทยในชาตินั้นเกิดจากการต่อสู้ระหว่างคนชั้นนำที่กำลังสูญเสียผลประโยชน์ และชนชั้นล่างที่กำลังลืมตาอ้าปากได้ด้วยนโยบายประชานิยมของTAKKI SHINEGRA (ชื่อใหม่ของทักษิณที่คุณโสภณ องค์การณ์ ผู้เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษ อ่านออกเสียงว่า “ตากขี้”)
นั่นก็คือ เสื้อเหลืองเป็นตัวแทนหรือนอมินีกลุ่มผลประโยชน์ของชนชั้นกลางไปถึงชนชั้นสูง และเสื้อแดงคือ ตัวแทนหรือนอมินีกลุ่มผลประโยชน์ของชนชั้นกลางลงไปถึงล่าง
คำถามก็คือว่า สถานการณ์ความแตกแยกของคนไทยนั้นอยู่บนพื้นฐานดังกล่าวจริงๆ หรือ
คำตอบของผมตอบว่า ไม่จริงหรอกครับ ผมคิดว่า การต่อสู้ของคนไทยสองกลุ่มนั้นเกิดจากการมองเห็นผลประโยชน์ของชาติที่แตกต่างกัน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องความแตกต่างทางชนชั้นตรงไหนเลย
กลุ่มคนเสื้อเหลืองนั้นมองเห็นว่า ผลประโยชน์ของชาติต้องมาก่อนผลประโยชน์ของบุคคล และเห็นว่า ทักษิณกำลังแสวงหาประโยชน์จากผลประโยชน์ของชาติ
แต่กลุ่มคนเสื้อแดงนั้นมองว่า ทักษิณคือ ผลประโยชน์ของชาติ พวกเขาเชื่อว่า ถ้าทักษิณไม่ถูกโค่นล้มจะนำพาชาติได้ดีกว่า
คงไม่มีใครเถียงว่า การต่อสู้ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยซึ่งถูกนิยามว่า “กลุ่มเสื้อเหลือง” นั้น เกิดขึ้นมาจากการต่อสู้ขับไล่ระบอบทักษิณที่กอบโกยเอาผลประโยชน์ของชาติเป็นของตัวเอง และพัฒนามาขับไล่รัฐบาลตัวแทนของทักษิณที่พยายามแก้รัฐธรรมนูญเพื่อฟอกความผิดให้กับทักษิณ
กลุ่มคนเสื้อแดงซึ่งมาจากกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาตินั้น มีพื้นฐานมาจากการลุกขึ้นสู้ของมวลชนที่รักทักษิณ หลังทักษิณถูกรัฐประหาร และพัฒนามาต่อสู้เพื่อเรียกร้องให้ทักษิณพ้นจากความผิด และต่อมาพยายามแก้รัฐธรรมนูญให้ทักษิณพ้นผิด และยืนถวายฎีกาเพื่อให้ในหลวงทรงอภัยโทษให้ทักษิณ
แต่พวกที่วางตัวว่าอยู่กลางๆ แนวร่วมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ไม่ชอบพันธมิตรฯพยายามสร้างภาพให้เห็นว่า กลุ่มคนเสื้อเหลือง คือตัวแทนของชนชั้นนำซึ่งถือครองอำนาจและผลประโยชน์ที่กำลังสูญเสียผลประโยชน์จากการยึดครองอำนาจของทักษิณ และเมื่อการแบ่งปันอำนาจและผลประโยชน์ไม่ลงตัว ทั้งสองฝ่ายจึงต้องใช้ความรุนแรงต่อกัน
แนวร่วมของกลุ่มคนเสื้อแดงกลุ่มนี้มีนิธิ เอียวศรีวงศ์ เป็นหัวเรือใหญ่ โดยมีลูกคลอกอีกจำนวนหนึ่งคอยขานรับ และส่งเสียงสอดคล้องอย่างเนียนๆ กับนักวิชาการแนวร่วมเสื้อแดงตัวจริงอย่างพิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์
ถ้าจำได้ตอนที่นิธิร่วมรณรงค์การลงประชามติต่อต้านรัฐธรรมนูญ นิธิเคยถามว่า การเอาเงินทักษิณมาใช้รณรงค์ผิดตรงไหน
แต่เรากลับไม่เห็นคำอธิบายใดที่ยืนยันได้เลยว่า กลุ่มคนเสื้อแดงสู้เพื่อหลักการประชาธิปไตยอย่างไร สู้เพื่อชนชั้นล่างหรือสู้เพื่อความเท่าเทียมกันในสังคม ไม่มีคำอธิบายใดเลยว่า ระบอบทักษิณนั้นจะทำให้คนจนลืมตาอ้าปากได้ จริงหรือ แล้วทำไมว่านเครือของทักษิณจึงมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นนับแสนล้านหลังจากเข้ามาบริหารประเทศ ถ้าพวกเขาเข้าใจประชาธิปไตยทำไมต้องใช้กำลังไปทำร้ายฝ่ายตรงข้ามทั้งที่มัฆวานฯ เชียงใหม่ อุดรธานี เชียงราย บุรีรัมย์ และชัยภูมิ ฯลฯ
และคำถามของเราในฐานะกลุ่มคนเสื้อเหลืองก็คือ เราสู้เพื่อผลประโยชน์ของคนชั้นสูง หรือปกป้องผลประโยชน์ที่กำลังเสียไปของคนชั้นสูงจริงหรือ
คำตอบของผมคือ ไม่มีอะไรที่อธิบายไปสู่ภาพวาดฝันจากจินตนาการดังกล่าวของนักวิชาการแนวร่วมทักษิณเลย
การต่อสู้ของพันธมิตรฯ นั้น เป็นการต่อสู้เพื่อให้สังคมมีความเท่าเทียมกัน สู้เพื่อโอกาสอันเท่าเทียมกันในการดำรงชีพ การประกอบธุรกิจของคนทุกชนชั้น เพื่อการแข่งขันเสรี แต่ระบอบทักษิณเข้าไปยึดครองอำนาจรัฐ ซื้อพรรคการเมือง แทรกแซงระบบราชการโดยไม่คำนึงถึงหลักการและความถูกต้อง ใช้อำนาจรัฐเพื่อเอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจของวงศ์วาน และทำลายหลักการการแข่งขันในทางธุรกิจที่เป็นธรรม
พันธมิตรฯขัดขวางและเปิดโปงการทุจริตคอร์รัปชัน คัดค้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ และร่วมต่อสู้กับประชาชนที่ถูกคุกคามคุณภาพชีวิตจากนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ดังนั้นการต่อสู้ของพันธมิตรฯ จึงไม่ใช่การต่อสู้เพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือชนชั้นใดชนชั้นหนึ่ง
การต่อสู้ของพันธมิตรฯ เป็นการต่อสู้ของประชาชนที่มีสำนึกในทางการเมือง สิทธิพลเมือง ความเท่าเทียมและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และผลประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของบุคคลหรือกลุ่มบุคคล
แม้จะมีวาทกรรมเรื่อง 2 มาตรฐานมาโจมตีว่า พันธมิตรฯ กลุ่มคนเสื้อเหลืองเป็นชั้นอภิสิทธิ์ที่มีอำนาจนอกระบบหนุนหลัง แต่ถามว่าแล้วทำไมสนธิ ลิ้มทองกุล จึงถูกศาลตัดสินจำคุกหลายปี คดีของพันธมิตรฯ หลายคดีกำลังเดินอยู่ในกระบวนการยุติธรรม เรื่อง 2 มาตรฐานจึงเป็นเพียงวาทกรรมเหนือจริงในสงครามข่าวสาร
แต่ถ้าจะตั้งคำถามกันเรื่อง 2 มาตรฐานจริงๆ คดีต่างๆ ของเสื้อแดงก็ชวนให้ตั้งคำถามได้เหมือนกัน
เพราะถ้าจะว่าไปแล้ว “กระบวนการยุติธรรม” ก็ถูกโจมตีจากทั้งกลุ่มเสื้อแดงและเสื้อเหลือง เสื้อแดงมองว่า กระบวนการยุติธรรมไม่เป็นธรรมต่อทักษิณและล่าช้าในการจัดการกับพันธมิตรฯ และเสื้อเหลืองเห็นว่า กระบวนการยุติธรรมล่าช้าในการจัดการกับทักษิณและลิ่วล้อ
ดังนั้นสถานการณ์การเมืองในระยะ 4-5 ปีมานี้ จึงไม่ได้เป็นปัญหาของฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติเท่านั้น แต่เป็นปัญหาของฝ่ายตุลาการด้วย และฝ่ายตุลาการนี้ไม่ได้มีนัยเพียงศาลสถิตยุติธรรมเท่านั้น แต่มีนัยรวมไปถึงกระบวนการยุติธรรมที่อยู่ในฝ่ายบริหาร เช่น ตำรวจ และอัยการด้วย แล้วลองค้นหาคำตอบดูว่า อำนาจที่ควบคุมตำรวจและอัยการอยู่นั้นเป็นอำนาจรัฐปัจจุบันหรือระบอบทักษิณกันแน่
ดังนั้นว่าไปแล้ว ปัญหาจริงๆ ของสถานการณ์ความแตกแยก คือ คนเสื้อแดงเชื่อว่า ทักษิณถูก แต่คนเสื้อเหลืองเชื่อว่า ทักษิณผิด ปัญหาเรื่องความยุติธรรมจึงเป็นปัจจัยหนึ่งของความแตกแยกในชาติที่ชัดเจนที่สุด ไม่ใช่เรื่องของชนชั้นหรือคนรวยคนจน
แล้วจะทำอย่างไรให้คนทั้งสองกลุ่มเชื่อในกระบวนการยุติธรรม
ตอนนี้คนเสื้อเหลืองนั้นประกาศอย่างชัดแจ้งแล้วว่า พร้อมต่อสู้คดีความต่างๆ ในกระบวนการยุติธรรม แต่คำถามคือ ทักษิณและพวกพร้อมที่จะต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมอย่างตรงไปตรงมาหรือไม่ เพราะขณะนี้ทักษิณและลิ่วล้อหลายคนหลบหนีคดี และทนายของเขาก็ถูกจำคุกในคดีติดสินบนศาล
เพราะปัญหาขณะนี้คือ ทักษิณและลิ่วล้อไม่ยอมรับในกระบวนการยุติธรรม และทำให้สังคมเข้าใจอยู่ในขณะนี้คือ กระบวนการยุติธรรมจะยุติธรรมถ้าทักษิณไม่ผิด
ถ้าสู้กันด้วยกระบวนการยุติธรรม เราจะเห็นว่า การต่อสู้ระหว่างเสื้อเหลืองกับเสื้อแดงไม่มีอะไรที่เป็นรูปธรรมว่า เป็นการต่อสู้ระหว่างชนชั้นเลย นอกจากเป็นการต่อสู้ระหว่างผิดกับถูก
ถ้าผิดคือผิด และถูกคือถูก ความแตกแยกก็จะมลายไปและความสงบสุขในสังคมไทยก็จะกลับคืนมา
surawhisky@hotmail.com
นั่นก็คือ เสื้อเหลืองเป็นตัวแทนหรือนอมินีกลุ่มผลประโยชน์ของชนชั้นกลางไปถึงชนชั้นสูง และเสื้อแดงคือ ตัวแทนหรือนอมินีกลุ่มผลประโยชน์ของชนชั้นกลางลงไปถึงล่าง
คำถามก็คือว่า สถานการณ์ความแตกแยกของคนไทยนั้นอยู่บนพื้นฐานดังกล่าวจริงๆ หรือ
คำตอบของผมตอบว่า ไม่จริงหรอกครับ ผมคิดว่า การต่อสู้ของคนไทยสองกลุ่มนั้นเกิดจากการมองเห็นผลประโยชน์ของชาติที่แตกต่างกัน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องความแตกต่างทางชนชั้นตรงไหนเลย
กลุ่มคนเสื้อเหลืองนั้นมองเห็นว่า ผลประโยชน์ของชาติต้องมาก่อนผลประโยชน์ของบุคคล และเห็นว่า ทักษิณกำลังแสวงหาประโยชน์จากผลประโยชน์ของชาติ
แต่กลุ่มคนเสื้อแดงนั้นมองว่า ทักษิณคือ ผลประโยชน์ของชาติ พวกเขาเชื่อว่า ถ้าทักษิณไม่ถูกโค่นล้มจะนำพาชาติได้ดีกว่า
คงไม่มีใครเถียงว่า การต่อสู้ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยซึ่งถูกนิยามว่า “กลุ่มเสื้อเหลือง” นั้น เกิดขึ้นมาจากการต่อสู้ขับไล่ระบอบทักษิณที่กอบโกยเอาผลประโยชน์ของชาติเป็นของตัวเอง และพัฒนามาขับไล่รัฐบาลตัวแทนของทักษิณที่พยายามแก้รัฐธรรมนูญเพื่อฟอกความผิดให้กับทักษิณ
กลุ่มคนเสื้อแดงซึ่งมาจากกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาตินั้น มีพื้นฐานมาจากการลุกขึ้นสู้ของมวลชนที่รักทักษิณ หลังทักษิณถูกรัฐประหาร และพัฒนามาต่อสู้เพื่อเรียกร้องให้ทักษิณพ้นจากความผิด และต่อมาพยายามแก้รัฐธรรมนูญให้ทักษิณพ้นผิด และยืนถวายฎีกาเพื่อให้ในหลวงทรงอภัยโทษให้ทักษิณ
แต่พวกที่วางตัวว่าอยู่กลางๆ แนวร่วมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ไม่ชอบพันธมิตรฯพยายามสร้างภาพให้เห็นว่า กลุ่มคนเสื้อเหลือง คือตัวแทนของชนชั้นนำซึ่งถือครองอำนาจและผลประโยชน์ที่กำลังสูญเสียผลประโยชน์จากการยึดครองอำนาจของทักษิณ และเมื่อการแบ่งปันอำนาจและผลประโยชน์ไม่ลงตัว ทั้งสองฝ่ายจึงต้องใช้ความรุนแรงต่อกัน
แนวร่วมของกลุ่มคนเสื้อแดงกลุ่มนี้มีนิธิ เอียวศรีวงศ์ เป็นหัวเรือใหญ่ โดยมีลูกคลอกอีกจำนวนหนึ่งคอยขานรับ และส่งเสียงสอดคล้องอย่างเนียนๆ กับนักวิชาการแนวร่วมเสื้อแดงตัวจริงอย่างพิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์
ถ้าจำได้ตอนที่นิธิร่วมรณรงค์การลงประชามติต่อต้านรัฐธรรมนูญ นิธิเคยถามว่า การเอาเงินทักษิณมาใช้รณรงค์ผิดตรงไหน
แต่เรากลับไม่เห็นคำอธิบายใดที่ยืนยันได้เลยว่า กลุ่มคนเสื้อแดงสู้เพื่อหลักการประชาธิปไตยอย่างไร สู้เพื่อชนชั้นล่างหรือสู้เพื่อความเท่าเทียมกันในสังคม ไม่มีคำอธิบายใดเลยว่า ระบอบทักษิณนั้นจะทำให้คนจนลืมตาอ้าปากได้ จริงหรือ แล้วทำไมว่านเครือของทักษิณจึงมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นนับแสนล้านหลังจากเข้ามาบริหารประเทศ ถ้าพวกเขาเข้าใจประชาธิปไตยทำไมต้องใช้กำลังไปทำร้ายฝ่ายตรงข้ามทั้งที่มัฆวานฯ เชียงใหม่ อุดรธานี เชียงราย บุรีรัมย์ และชัยภูมิ ฯลฯ
และคำถามของเราในฐานะกลุ่มคนเสื้อเหลืองก็คือ เราสู้เพื่อผลประโยชน์ของคนชั้นสูง หรือปกป้องผลประโยชน์ที่กำลังเสียไปของคนชั้นสูงจริงหรือ
คำตอบของผมคือ ไม่มีอะไรที่อธิบายไปสู่ภาพวาดฝันจากจินตนาการดังกล่าวของนักวิชาการแนวร่วมทักษิณเลย
การต่อสู้ของพันธมิตรฯ นั้น เป็นการต่อสู้เพื่อให้สังคมมีความเท่าเทียมกัน สู้เพื่อโอกาสอันเท่าเทียมกันในการดำรงชีพ การประกอบธุรกิจของคนทุกชนชั้น เพื่อการแข่งขันเสรี แต่ระบอบทักษิณเข้าไปยึดครองอำนาจรัฐ ซื้อพรรคการเมือง แทรกแซงระบบราชการโดยไม่คำนึงถึงหลักการและความถูกต้อง ใช้อำนาจรัฐเพื่อเอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจของวงศ์วาน และทำลายหลักการการแข่งขันในทางธุรกิจที่เป็นธรรม
พันธมิตรฯขัดขวางและเปิดโปงการทุจริตคอร์รัปชัน คัดค้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ และร่วมต่อสู้กับประชาชนที่ถูกคุกคามคุณภาพชีวิตจากนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ดังนั้นการต่อสู้ของพันธมิตรฯ จึงไม่ใช่การต่อสู้เพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือชนชั้นใดชนชั้นหนึ่ง
การต่อสู้ของพันธมิตรฯ เป็นการต่อสู้ของประชาชนที่มีสำนึกในทางการเมือง สิทธิพลเมือง ความเท่าเทียมและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และผลประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของบุคคลหรือกลุ่มบุคคล
แม้จะมีวาทกรรมเรื่อง 2 มาตรฐานมาโจมตีว่า พันธมิตรฯ กลุ่มคนเสื้อเหลืองเป็นชั้นอภิสิทธิ์ที่มีอำนาจนอกระบบหนุนหลัง แต่ถามว่าแล้วทำไมสนธิ ลิ้มทองกุล จึงถูกศาลตัดสินจำคุกหลายปี คดีของพันธมิตรฯ หลายคดีกำลังเดินอยู่ในกระบวนการยุติธรรม เรื่อง 2 มาตรฐานจึงเป็นเพียงวาทกรรมเหนือจริงในสงครามข่าวสาร
แต่ถ้าจะตั้งคำถามกันเรื่อง 2 มาตรฐานจริงๆ คดีต่างๆ ของเสื้อแดงก็ชวนให้ตั้งคำถามได้เหมือนกัน
เพราะถ้าจะว่าไปแล้ว “กระบวนการยุติธรรม” ก็ถูกโจมตีจากทั้งกลุ่มเสื้อแดงและเสื้อเหลือง เสื้อแดงมองว่า กระบวนการยุติธรรมไม่เป็นธรรมต่อทักษิณและล่าช้าในการจัดการกับพันธมิตรฯ และเสื้อเหลืองเห็นว่า กระบวนการยุติธรรมล่าช้าในการจัดการกับทักษิณและลิ่วล้อ
ดังนั้นสถานการณ์การเมืองในระยะ 4-5 ปีมานี้ จึงไม่ได้เป็นปัญหาของฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติเท่านั้น แต่เป็นปัญหาของฝ่ายตุลาการด้วย และฝ่ายตุลาการนี้ไม่ได้มีนัยเพียงศาลสถิตยุติธรรมเท่านั้น แต่มีนัยรวมไปถึงกระบวนการยุติธรรมที่อยู่ในฝ่ายบริหาร เช่น ตำรวจ และอัยการด้วย แล้วลองค้นหาคำตอบดูว่า อำนาจที่ควบคุมตำรวจและอัยการอยู่นั้นเป็นอำนาจรัฐปัจจุบันหรือระบอบทักษิณกันแน่
ดังนั้นว่าไปแล้ว ปัญหาจริงๆ ของสถานการณ์ความแตกแยก คือ คนเสื้อแดงเชื่อว่า ทักษิณถูก แต่คนเสื้อเหลืองเชื่อว่า ทักษิณผิด ปัญหาเรื่องความยุติธรรมจึงเป็นปัจจัยหนึ่งของความแตกแยกในชาติที่ชัดเจนที่สุด ไม่ใช่เรื่องของชนชั้นหรือคนรวยคนจน
แล้วจะทำอย่างไรให้คนทั้งสองกลุ่มเชื่อในกระบวนการยุติธรรม
ตอนนี้คนเสื้อเหลืองนั้นประกาศอย่างชัดแจ้งแล้วว่า พร้อมต่อสู้คดีความต่างๆ ในกระบวนการยุติธรรม แต่คำถามคือ ทักษิณและพวกพร้อมที่จะต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมอย่างตรงไปตรงมาหรือไม่ เพราะขณะนี้ทักษิณและลิ่วล้อหลายคนหลบหนีคดี และทนายของเขาก็ถูกจำคุกในคดีติดสินบนศาล
เพราะปัญหาขณะนี้คือ ทักษิณและลิ่วล้อไม่ยอมรับในกระบวนการยุติธรรม และทำให้สังคมเข้าใจอยู่ในขณะนี้คือ กระบวนการยุติธรรมจะยุติธรรมถ้าทักษิณไม่ผิด
ถ้าสู้กันด้วยกระบวนการยุติธรรม เราจะเห็นว่า การต่อสู้ระหว่างเสื้อเหลืองกับเสื้อแดงไม่มีอะไรที่เป็นรูปธรรมว่า เป็นการต่อสู้ระหว่างชนชั้นเลย นอกจากเป็นการต่อสู้ระหว่างผิดกับถูก
ถ้าผิดคือผิด และถูกคือถูก ความแตกแยกก็จะมลายไปและความสงบสุขในสังคมไทยก็จะกลับคืนมา
surawhisky@hotmail.com