ASTV ผู้จัดการรายวัน – หุ้นพุ่งเกือบ 20 จุด สถาบัน – โบรกฯ และรายย่อยแห่ซื้อสุทธิ แม้ต่างชาติปล่อยขาย เหตุนักลงทุนใจชื้นหลังเสื้อแดงเลิกชุนนุม แถมมีข่าวดีช่วยเสริมหุ้นกลุ่มพลังงานขยับตัวนำตลาด จากกรณี กบง.จะจ่ายชดเชยก๊าซแอลพีจีให้ ปตท. ดันหุ้นบวกเพิ่ม 8 บาท ส่วน บ้านปู แรงจัดตามกระแสกพช.เตรียมเซ็นซื้อไฟฟ้าจากโครงการในลาว ดันหุ้นดีดถึง 22 บาท นักวิเคราะห์คาดวันนี้(26พ.ย.) เคลื่อนที่แบบSideway ขณะที่ปัจจัยภายนอกเงียบเหงาตามกระดานหุ้นสหรัฐฯที่ปิดทำการ
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ (25พ.ย.) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 19.47 จุด ปิดที่ระดับ 695.69 จุด หรือ 2.88% มูลค่าการซื้อขาย 18,174 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ 696.08 จุด และต่ำสุดที่ 680.09 จุด ซึ่งถือว่าเป็นการฟื้นตัวของหุ้นไทยครั้งแรกในรอบ 4 วันจากที่พักฐานไป
ส่วนมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์แยกตามประเภทนักลงทุน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิถึง 1,613.83 ล้านบาท ขณะที่สถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 276.50 ล้านบาท บัญชีบล.ซื้อสุทธิ537.26 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 800.07 ล้านบาท
ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นไปตามกระแสตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาคที่ปรับตัวบวกขึ้นเช่นกัน ขณะเดียวกันปัจจัยภายในประเทศก็เป็นอีกองค์ประกอบที่ถือเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันดัชนีครั้งนี้ นั่นคือผลด้านจิตวิทยาลงทุน หลังจากที่กลุ่มนปช.เลื่อนชุมนุมออกไปอย่างไม่มีกำหนด และกรณี กบง.ออกมาประกาศชดเชยส่วนต่าง LPG ให้ แก่ PTT จนดันให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นถึง 8 บาท อีกทั้ง กรณีที่กพช.จะมีการพิจารณาอนุมัติสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในโครงการหงสาลิกไนต์ในประเทศลาว ซึ่งบมจ. บ้านปู (BANPU) และบมจ. ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งผลักดันให้ราคาหุ้น BANPU บวกเพิ่มขึ้นถึง 22 จุด
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ PTTมูลค่าการซื้อขาย 2,227.90 ล้านบาท ปิดที่ 229.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,353.56 ล้านบาท ปิดที่ 524.00 บาท เพิ่มขึ้น 22.00 บาท PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,098.78 ล้านบาท ปิดที่ 132.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท SCB มูลค่าการซื้อขาย 992.85 ล้านบาท ปิดที่ 81.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท และCPF มูลค่าการซื้อขาย 918.70 ล้านบาท ปิดที่ 10.80 บาท เพิ่มขึ้น0.30 บาท
ขณะที่ดัชนีหลักทรัพย์ในต่างประเทศ พบว่า ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันปรับตัวขึ้น 41.75 จุด หรือ 0.54% ปิดที่ระดับ 7,756.31 จุด ,ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวก 40.06 จุด หรือ 0.43% แตะที่ 9,441.64 จุด , ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 66.64 จุด หรือ 2.07% ปิด 3,290.17 จุด และดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 188.66 จุด หรือ 0.84% ปิดที่ 22,611.80 จุด
น.ส.มยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้(25พ.ย.)ฟื้นตัวกลับขึ้นมาหลังจากที่พักฐานไป 4 วัน อาจเป็นเพราะจิตวิทยาลงทุน หลังจากที่ทางกลุ่มนปช.ประกาศเลื่อนการชุมนุมอย่างไม่มีกำหนดว่าจะไปชุมนุมอีกครั้งเมื่อไร
ประกอบกับตลาดหุ้นได้ปรับลงมาเยอะแล้ว และถือว่า Laggard ไปจากตลาดในภูมิภาคค่อนข้างจะมาก ทำให้วานนี้มีโมเมนตั้มกลับเข้ามา นอกจากนี้ช่วงบ่ายนี้ในกลุ่มพลังงานกลับขึ้นมาโดดเด่นพอควรเพราะทางกบง.มีมติชดเชยส่วนต่าง LPG ให้กับทาง บมจ.ปตท.(PTT) ทำให้กลุ่มพลังงาน sentiment กลับมาดีขึ้นดึงให้ดัชนีเปิดบวกกระโดดขึ้นมา
สำหรับแนวโน้มวันนี้ (26พ.ย.) ประเมินว่าดัชนีคงจะเคลื่อนตัวไปในทิศทาง sideway โดยมีแนวต้านแถว 700 จุด แต่น่าจะเงียบเพราะวันนี้อเมริกาตลาดปิดทำการ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า และตัวเลขเศรษฐกิจระหว่างทางก็ยังไม่น่าจะมีอะไร
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ (25พ.ย.) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 19.47 จุด ปิดที่ระดับ 695.69 จุด หรือ 2.88% มูลค่าการซื้อขาย 18,174 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ 696.08 จุด และต่ำสุดที่ 680.09 จุด ซึ่งถือว่าเป็นการฟื้นตัวของหุ้นไทยครั้งแรกในรอบ 4 วันจากที่พักฐานไป
ส่วนมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์แยกตามประเภทนักลงทุน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิถึง 1,613.83 ล้านบาท ขณะที่สถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 276.50 ล้านบาท บัญชีบล.ซื้อสุทธิ537.26 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 800.07 ล้านบาท
ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นไปตามกระแสตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาคที่ปรับตัวบวกขึ้นเช่นกัน ขณะเดียวกันปัจจัยภายในประเทศก็เป็นอีกองค์ประกอบที่ถือเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันดัชนีครั้งนี้ นั่นคือผลด้านจิตวิทยาลงทุน หลังจากที่กลุ่มนปช.เลื่อนชุมนุมออกไปอย่างไม่มีกำหนด และกรณี กบง.ออกมาประกาศชดเชยส่วนต่าง LPG ให้ แก่ PTT จนดันให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นถึง 8 บาท อีกทั้ง กรณีที่กพช.จะมีการพิจารณาอนุมัติสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในโครงการหงสาลิกไนต์ในประเทศลาว ซึ่งบมจ. บ้านปู (BANPU) และบมจ. ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งผลักดันให้ราคาหุ้น BANPU บวกเพิ่มขึ้นถึง 22 จุด
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ PTTมูลค่าการซื้อขาย 2,227.90 ล้านบาท ปิดที่ 229.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,353.56 ล้านบาท ปิดที่ 524.00 บาท เพิ่มขึ้น 22.00 บาท PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,098.78 ล้านบาท ปิดที่ 132.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท SCB มูลค่าการซื้อขาย 992.85 ล้านบาท ปิดที่ 81.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท และCPF มูลค่าการซื้อขาย 918.70 ล้านบาท ปิดที่ 10.80 บาท เพิ่มขึ้น0.30 บาท
ขณะที่ดัชนีหลักทรัพย์ในต่างประเทศ พบว่า ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันปรับตัวขึ้น 41.75 จุด หรือ 0.54% ปิดที่ระดับ 7,756.31 จุด ,ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวก 40.06 จุด หรือ 0.43% แตะที่ 9,441.64 จุด , ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 66.64 จุด หรือ 2.07% ปิด 3,290.17 จุด และดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 188.66 จุด หรือ 0.84% ปิดที่ 22,611.80 จุด
น.ส.มยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้(25พ.ย.)ฟื้นตัวกลับขึ้นมาหลังจากที่พักฐานไป 4 วัน อาจเป็นเพราะจิตวิทยาลงทุน หลังจากที่ทางกลุ่มนปช.ประกาศเลื่อนการชุมนุมอย่างไม่มีกำหนดว่าจะไปชุมนุมอีกครั้งเมื่อไร
ประกอบกับตลาดหุ้นได้ปรับลงมาเยอะแล้ว และถือว่า Laggard ไปจากตลาดในภูมิภาคค่อนข้างจะมาก ทำให้วานนี้มีโมเมนตั้มกลับเข้ามา นอกจากนี้ช่วงบ่ายนี้ในกลุ่มพลังงานกลับขึ้นมาโดดเด่นพอควรเพราะทางกบง.มีมติชดเชยส่วนต่าง LPG ให้กับทาง บมจ.ปตท.(PTT) ทำให้กลุ่มพลังงาน sentiment กลับมาดีขึ้นดึงให้ดัชนีเปิดบวกกระโดดขึ้นมา
สำหรับแนวโน้มวันนี้ (26พ.ย.) ประเมินว่าดัชนีคงจะเคลื่อนตัวไปในทิศทาง sideway โดยมีแนวต้านแถว 700 จุด แต่น่าจะเงียบเพราะวันนี้อเมริกาตลาดปิดทำการ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า และตัวเลขเศรษฐกิจระหว่างทางก็ยังไม่น่าจะมีอะไร
