ASTVผู้จัดการรายวัน-ทอท.เตรียมเรียกสายการบินทำ MOU ใช้สูตรใหม่คำนวนการลดค่า Landing ดีเดย์ 1 ม.ค.53 เผยต้องปรับใหม่ เหตุวิกฤติ 52 ให้ส่วนลด Landing 30% ช่วยสายการบินกระทบรายได้อย่างหนัก เชื่อปีหน้าผู้โดยสารฟื้น ประเมินค่าใช้จ่ายไม่ถึง3% ด้าน AOC แนะทอท.ประเมินสถานการณ์ก่อนใช้จริง เหตุอุตสาหกรรมการบินยังไม่ฟื้นจริง ต้องลดราคาแข่งขันอย่างหนัก ขณะที่น้ำมันเริ่มขยับสูงขึ้น
นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เปิดเผยว่า ประมาณต้นเดือนธ.ค. นี้ จะเชิญสายการบินที่ให้บริการที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มาลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เรื่องการให้ส่วนลดค่าธรรมเนียมการขึ้นลงอากาศยาน (Landing Fee) แบบใหม่ ซึ่งจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2553 โดยทอท.จะใช้สูตรที่กำหนดเงื่อนไข การให้ส่วนลดค่า Landing Fee แทนการให้ส่วนลดเป็นเปอร์เซ็นต์แก่สายการบินเหมือนปี 2552 ที่ทอท.ให้ความช่วยเหลือสายการบินที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลกและโรคไข้หวัด 2009
ทั้งนี้ ทอท.ได้หารือกับนาย ชัยวัฒน์ นวราช ประธานคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบิน หรือ AOC ถึงการปรับเปลี่ยนดังกล่าวแล้วเพื่อให้ AOC แจ้งต่อไปยังสายการบินต่างๆ ซึ่งเบื้องต้นสายการบินเห็นด้วยกับหลักการ เพราะเป็นรูปแบบเดียวกับท่าอากาศยานอื่นๆ ใช้อยู่ ซึ่งคณะกรรมการทอท.ที่มีนายปิยะพันธ์ จัมปาสุต เป็นประธานได้เห็นชอบหลักการนโยบายการตลาดแนวใหม่ของทอท.เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 2552
ทอท.ได้กำหนดสูตรการให้ส่วนลดแก่สายการบินเฉพาะเที่ยวบินระหว่างประเทศที่มีตารางบินประจำที่มีจำนวนผู้โดยสารในปี 2553 เพิ่มจากปี 2552 โดยใช้จำนวนส่วนต่างผู้โดยสารของสายการบินนั้นๆ มาคำนวน โดยหากมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 9% จะได้รับส่วนลดค่า Landing Fee 2.5% หากจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 20% จะได้รับส่วนลด 8.4% โดยสายการบินจะได้รับส่วนลดในสิ้นปี 2553 เป็นเงินสดหรือเป็นการให้ส่วนลดค่า Landing Fee ในปีต่อไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสรุปวิธีที่เหมาะสมที่จะเป็นประโยชน์กับทั้งทอทงและสายการบินมากที่สุด
“จะใช้สูตรในการคำนวนให้ส่วนลดค่า Landing Fee กับสายการบินในต้นปี 2553 แน่นอน โดยมั่นใจว่า สายการบินจะได้ประโยชน์ เพราะแนวโน้มของจำนวนผู้โดยสารของปี 2553 จะเพิ่มสูงกว่าปี 2552 ที่จำนวนผู้โดยสารลดลง และต้องเข้าใจว่า ที่ผ่านมา ทอท.ให้ความช่วยเหลือสายการบินค่อนข้างมากจากการปรับลดค่า Landing Fee ให้ 30% อย่างไรก็ตาม คาดว่า หากภาวะเศรษฐกิจเป็นปกติ จำนวนผู้โดยสารรวมของสนามบินสุวรรณภูมิจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10% ต่อปี ซึ่งแผนการตลาดดังกล่าวจะทำให้ทอท.มีค่าใช้จ่ายในการให้ส่วนลดไม่เกิน 3%”นายเสรีรัตน์กล่าว
นายชัววัฒน์ นวราช ประธาน AOC กล่าวว่า เบื้องต้นเห็นด้วยในหลักการ แต่อยากให้ทอท.ประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจอีกครั้งก่อนตัดสินใจ เนื่องจากสูตรการให้ส่วนลดค่า Landing ดังกล่าว จะใช้ได้ผลดีในภาวะปกติ แต่ขณะนี้ สายการบินยังมีภาระค่าใช้จ่ายสูง และต้องปรับลดราคาเพื่อแข่งขันกันอย่างหนัก ส่วนลดค่า Landing 30% ที่ได้รับจากทอท. ก็ถูกนำไปใช้ในการทำโปรโมชั่นลดราคาตั๋วโดยสาร หากไม่มีส่วนลดนี้ สายการบินก็เดือดร้อน และขณะนี้แนวโน้มราคาน้ำมันเริ่มปรับสูงขึ้น และเกรงว่า หากสูงกว่า 80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลก็จะกระทบต่อต้นทุนอย่างหนัก
นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เปิดเผยว่า ประมาณต้นเดือนธ.ค. นี้ จะเชิญสายการบินที่ให้บริการที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มาลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เรื่องการให้ส่วนลดค่าธรรมเนียมการขึ้นลงอากาศยาน (Landing Fee) แบบใหม่ ซึ่งจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2553 โดยทอท.จะใช้สูตรที่กำหนดเงื่อนไข การให้ส่วนลดค่า Landing Fee แทนการให้ส่วนลดเป็นเปอร์เซ็นต์แก่สายการบินเหมือนปี 2552 ที่ทอท.ให้ความช่วยเหลือสายการบินที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลกและโรคไข้หวัด 2009
ทั้งนี้ ทอท.ได้หารือกับนาย ชัยวัฒน์ นวราช ประธานคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบิน หรือ AOC ถึงการปรับเปลี่ยนดังกล่าวแล้วเพื่อให้ AOC แจ้งต่อไปยังสายการบินต่างๆ ซึ่งเบื้องต้นสายการบินเห็นด้วยกับหลักการ เพราะเป็นรูปแบบเดียวกับท่าอากาศยานอื่นๆ ใช้อยู่ ซึ่งคณะกรรมการทอท.ที่มีนายปิยะพันธ์ จัมปาสุต เป็นประธานได้เห็นชอบหลักการนโยบายการตลาดแนวใหม่ของทอท.เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 2552
ทอท.ได้กำหนดสูตรการให้ส่วนลดแก่สายการบินเฉพาะเที่ยวบินระหว่างประเทศที่มีตารางบินประจำที่มีจำนวนผู้โดยสารในปี 2553 เพิ่มจากปี 2552 โดยใช้จำนวนส่วนต่างผู้โดยสารของสายการบินนั้นๆ มาคำนวน โดยหากมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 9% จะได้รับส่วนลดค่า Landing Fee 2.5% หากจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 20% จะได้รับส่วนลด 8.4% โดยสายการบินจะได้รับส่วนลดในสิ้นปี 2553 เป็นเงินสดหรือเป็นการให้ส่วนลดค่า Landing Fee ในปีต่อไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสรุปวิธีที่เหมาะสมที่จะเป็นประโยชน์กับทั้งทอทงและสายการบินมากที่สุด
“จะใช้สูตรในการคำนวนให้ส่วนลดค่า Landing Fee กับสายการบินในต้นปี 2553 แน่นอน โดยมั่นใจว่า สายการบินจะได้ประโยชน์ เพราะแนวโน้มของจำนวนผู้โดยสารของปี 2553 จะเพิ่มสูงกว่าปี 2552 ที่จำนวนผู้โดยสารลดลง และต้องเข้าใจว่า ที่ผ่านมา ทอท.ให้ความช่วยเหลือสายการบินค่อนข้างมากจากการปรับลดค่า Landing Fee ให้ 30% อย่างไรก็ตาม คาดว่า หากภาวะเศรษฐกิจเป็นปกติ จำนวนผู้โดยสารรวมของสนามบินสุวรรณภูมิจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10% ต่อปี ซึ่งแผนการตลาดดังกล่าวจะทำให้ทอท.มีค่าใช้จ่ายในการให้ส่วนลดไม่เกิน 3%”นายเสรีรัตน์กล่าว
นายชัววัฒน์ นวราช ประธาน AOC กล่าวว่า เบื้องต้นเห็นด้วยในหลักการ แต่อยากให้ทอท.ประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจอีกครั้งก่อนตัดสินใจ เนื่องจากสูตรการให้ส่วนลดค่า Landing ดังกล่าว จะใช้ได้ผลดีในภาวะปกติ แต่ขณะนี้ สายการบินยังมีภาระค่าใช้จ่ายสูง และต้องปรับลดราคาเพื่อแข่งขันกันอย่างหนัก ส่วนลดค่า Landing 30% ที่ได้รับจากทอท. ก็ถูกนำไปใช้ในการทำโปรโมชั่นลดราคาตั๋วโดยสาร หากไม่มีส่วนลดนี้ สายการบินก็เดือดร้อน และขณะนี้แนวโน้มราคาน้ำมันเริ่มปรับสูงขึ้น และเกรงว่า หากสูงกว่า 80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลก็จะกระทบต่อต้นทุนอย่างหนัก