ภาพ เสธ.แดงขณะเดินทางไปพบ นช.ทักษิณ ชินวัตร และนายฮุนเซน นายกฯ เขมร เมื่อวันที่ 13 พ.ย. ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ก่อนที่จะเกิดเหตุยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่พันธมิตรฯ ที่ท้องสนามหลวงในวันที่ 17 พ.ย.
ไม่น่าเชื่อว่า คนอย่าง “พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล” หรือ “เสธ.แดง” ที่มียศเป็น “นายพล” มีตำแหน่งเป็นถึงผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ผ่านการศึกษาเล่าเรียนและการทำงานมาจนอายุขนาดนี้แล้ว จะมีพฤติกรรมไม่ต่างอะไรไปจาก “นาธาน โอมาน” เรียกว่า “หนา” เสียยิ่งกว่ากระเบื้องตราช้างหรือกระเบี้องห้าห่วงเสียอีก
ขนาดมีหลักฐานเป็นรูปถ่ายนับสิบรูปให้เห็นเป็นประจักษ์พยานชัดเจนว่า เสธ.แดงเดินทางไปพบนช.ทักษิณ ชินวัตรและฮุนเซนที่กัมพูชาเมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่เสธ.แดงก็ยังปฏิเสธหน้าตาเฉย โดยกล่าว ยืนยันว่า “ไม่ใช่ตนอย่างแน่นอน หากตนเองข้ามแดนไปที่กัมพูชา ทำไมหน่วยงานด้านความมั่นคง หรือสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไม่รู้ คนในภาพคงเป็น เสธ.แดง 2 ที่หน้าเหมือนตนเท่านั้น”
อย่างไรก็ตาม การแก้ตัวแบบน้ำขุ่นๆ ของเสธ.แดง ไม่น่าจะจบอยู่เพียงแค่นี้ เพราะเมื่อมีหลักฐานเป็นภาพถ่ายชัดๆ ขนาดนี้ หน่วยงานต้นสังกัดของเสธ.แดง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงกลาโหมที่มี “พล.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” เป็น รมว. หรือกองทัพบกที่มี “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” เป็น ผบ.ทบ.จะต้องตรวจสอบด้วยว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว เสธ.แดงหนีราชการต่างประเทศหรือไม่ และหนีไปโดยแจ้งให้ทางต้นสังกัดทราบหรือไม่
แต่ถ้า พล.อ.ประวิตรและ พล.อ.อนุพงษ์เชื่อคำพูด เสธ.แดง ก็คงต้องปล่อยไปตามบุญตามกรรม
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศก็ต้องตรวจสอบอีกทางหนึ่งว่า เสธ.แดงเดินทางออกนอกประเทศในรูปแบบไหน ออกไปอย่างถูกต้องหรือผิดกฎหมาย