xs
xsm
sm
md
lg

ส่งออก ต.ค.ติดลบต่ำสุดในรอบปีแค่ 3%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ส่งออกฟื้นตัว ตัวเลขต.ค.ติดลบน้อยลงเหลือแค่ 3% ต่ำสุดในรอบปี “พรทิวา”เผยตัวเลขไตรมาส 4 จะกลับมาเป็นบวก ทำให้ทั้งปีเหลือติดลบ 13% ถึงลบ 15% แน่นอน ส่วนปีหน้าตั้งเป้าโต 10-15% แต่ยังต้องจับตาปัจจัยเสี่ยง ทั้งบาทแข็ง น้ำมันแพง

นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือนต.ค.2552 มีมูลค่าการส่งออก 14,813 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 3% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ต่ำสุดในรอบปี และลดลงเพียง 0.6% เมื่อเทียบเดือนก.ย.2552 ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 13,050 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 17.5% เมื่อเทียบเดียวเดียวกันของปีก่อน และมีดุลการค้าเกินดุล 1,763 ล้านเหรียญสหรัฐ

ส่วนในช่วง 10 เดือน (ม.ค.-ต.ค.) การส่งออกมีมูลค่า 124,114 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 19.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้ามีมูลค่า 106,594 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 31.2% ส่งผลให้เกินดุลการค้า 17,520 ล้านเหรียญสหรัฐ

สำหรับการส่งออกในเดือนต.ค.ที่ติดลบลดลงจากช่วงต้นปีที่ติดลบสูงถึงกว่า 26% นั้น เป็นเพราะเศรษฐกิจโลก และประเทศคู่ค้าสำคัญฟื้นตัวต่อเนื่อง ประกอบกับ สต๊อกผู้นำเข้าที่ลดลง ทำให้หันกลับมาสั่งซื้อสินค้ามากขึ้น ทั้งสินค้าเกษตร และอุตสาหกรรม เพื่อรองรับเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่ ส่งผลให้การส่งออกปรับเพิ่มขึ้นในทุกหมวดสินค้า แม้จะยังติดลบแต่เป็นอัตราที่ลดลง

โดยสินค้าเกษตร มีมูลค่า 2,424 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 5.4% เทียบเดือนเดียวกันปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 8.1% เทียบเดือนก.ย.52 สินค้าที่ส่งออกเพิ่มขึ้น เช่น ข้าว ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง กุ้งแช่แข็งและแปรรูป ส่วนสินค้าอื่นๆ มีมูลค่า 2,425 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 8.3% เทียบเดือนเดียวกันปีก่อน แต่เพิ่ม 11% จากเดือนก.ย.2552 มีเพียงสินค้าอุตสาหกรรม ที่มีมูลค่า 9,963 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 1% เทียบเดือนเดียวกันปีก่อน และลดลง 4.9% เมื่อเทียบเดือนก.ย.2552 โดยสินค้าที่ส่งออกลดลง เช่น เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ เม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติก ส่วนที่ส่งออกเพิ่มขึ้น เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า อัญมณี

ขณะที่ตลาดส่งออกสำคัญปรับตัวดีขึ้นทั้งตลาดหลัก และตลาดใหม่ โดยตลาดหลัก ลดลงเพียง 8.8% ส่วนตลาดใหม่ เพิ่มขึ้น 3.2% เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยออสเตรเลีย เพิ่ม 34.8% จีน เพิ่ม 2.1% ฮ่องกงเพิ่ม 23.6% อินเดียเพิ่ม 2.4%

นางพรทิวากล่าวว่า การส่งออกที่ดีขึ้นเป็นเพราะเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะตลาดหลักเริ่มฟื้นตัวแล้ว ทั้งสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น รวมถึงตลาดเอเชีย มั่นใจว่า ในช่วง 2 เดือนที่เหลือการส่งออกจะเป็นบวกเฉลี่ยเดือนละ 5-10% ทำให้ทั้งปีติดลบอยู่ที่ 13% ถึงลบ 15% มีมูลค่าประมาณ 154,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นการหักปากกาเซียนที่คาดจะติดลบประมาณ 20% ส่วนปีหน้าตั้งเป้าหมายขยายตัวเป็นบวกที่ 10-15%

ทั้งนี้ ปัจจัยสนับสนุนการส่งออกไตรมาส 4 ปีนี้ ได้แก่ เศรษฐกิจโลก และประเทศคู่ค้าฟื้นตัวต่อเนื่อง ผู้นำเข้ากลับมาซื้อสินค้าอีกครั้งเพื่อทดแทนสต๊อกที่ลดลง สินค้าไทยได้รับการยอมรับมากขึ้น และสินค้าจีนมีปัญหาคุณภาพ อย่างไรก็ตาม ปี 2553 ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตา ทั้งค่าเงินบาทแข็งค่า แต่เชื่อว่า รัฐบาลจะดูแลไม่ให้แข็งค่ามากเกินไป และอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับการส่งออก ซึ่งหากอยู่ที่ 33 บาท/เหรียญสหรัฐ การส่งออกไทยปีหน้าขยายตัวตามเป้าหมายนอกจากนี้ ยังมีปัญหาราคาน้ำมันแพง ที่จะทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าเพิ่มสูง และส่งผลให้ราคาสูงขึ้นตามไปด้วย ขณะที่ภาคเอกชนยังกังวลกับปัญหาการเมืองภายใน ที่ยังไม่นิ่ง ซึ่งอาจทำให้คู่ค้าขาดความเชื่อมั่นได้ รวมถึงความล่าช้าในการแก้ปัญหาผู้ส่งออก และปัญหาขาดแคลนแรงงานของผู้ผลิต
กำลังโหลดความคิดเห็น