เมื่อวานนี้ (20 พ.ย.) คณะกรรมาธิการสามัญศึกษาปัญหาการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ 2550 วุฒิสภา ได้จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นจาก ส.ว. และประชาชน เรื่อง การแก้ไขรัฐธรรมนูญ : ประเด็นที่มาของ ส.ส.และส.ว. โดยมี ส.ส. -ส.ว. และตัวแทนภาคประชาชน เข้าร่วม
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา กรรมาธิการฯ และแกนนำกลุ่ม 40 ส.ว. กล่าวว่า การทำงานของคนที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขรธน.ทุกวันนี้ เหมือนตุ๊กตาไขลาน คือเดินไปตามที่กำหนดไว้ ตนมองว่าข้อเสนอแก้ไขใน 6 ประเด็น ของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะนำไปสู่การแก้ไขรธน. ตามแผนปฏิรูปการเมืองระยะสั้น เพราะกระบวนการทั้งหมดเป็นเพียงการชิงอำนาจในรัฐสภา ชิงความได้เปรียบเสียเปรียบของสมาชิกรัฐสภา ไม่ใช่การส่งเสริมสมานฉันท์ ตอนนี้ควรนำแผนระยะกลาง และระยะยาวมาทำ คือให้มีองค์กรหนึ่งเข้ามาดูแลรธน. จะดีกว่า
สำหรับประเด็นที่มาของส.ส. มองว่า ไม่จำเป็นต้องแก้ไขการกำหนดเขตเลือกตั้งให้เป็นเขตเล็ก เพราะจะเป็นการขยายเชื้อร้ายของการซื้อเสียงออกไป ทำให้การเลือกตั้งเปลี่ยนจากระบบเลือกตั้ง เป็นระบบประมูล ด้วยการใช้เงินซื้อจากนั้นค่อยมาถอนทุนคืน ควรเป็นแบบเขตใหญ่เรียงเบอร์แบบนี้จะดูแลประชาชนทั่วถึงกว่า
ส่วนส.ส.สัดส่วน ที่คณะกรรมการสมานฉันท์ฯ เห็นว่าระบบปัจจุบันไม่ดี ให้ใช้เขตประเทศนั้น ขัดกับความเห็นเรื่อง ส.ส.แบบแบ่งเขต ที่ต้องการเป็นเขตเล็ก จึงไม่รู้ว่าผู้เสนออยากเอาแบบไหนแน่
ส่วนเรื่องที่มาของ ส.ว. ระบบปัจจุบันดีอยู่แล้ว จากการทำงานร่วมกับ ส.ว.เลือกตั้ง มีประโยชน์และประทับใจ ทำงานผสมผสานเกิดการแลกเปลี่ยนจุดอ่อนจุดด้อยของแต่ละฝ่าย ทำให้วุฒิสภาทำงานได้ดีที่สุด และมีผลงาน ที่มาจาก ส.ว.ทั้งสองแบบ โดย ส.ว.ฝ่ายหนึ่งทำงานเต็มเวลา อีกฝ่ายลงพื้นที่นำข้อมูลมาแลกเปลี่ยนกัน หากส.ว.มาจากการเลือกตั้ง หรือสรรหาล้วนๆ จะมีปัญหา
นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ตัวแทนจากวิปรัฐบาล กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าที่มาของ ส.ว. ควรมาจากการสรรหาทั้งหมด การเปิดโอกาสให้มีการเลือกตั้ง ส.ว. เป็นการเปิดโอกาสให้การเมืองเข้ามามีส่วนครอบงำวุฒิสภา เพราะประเทศไทยไม่สามารถกำจัดระบบการใช้เงินซื้อเสียงได้ ส่วนความเห็นเรื่องที่มาของส.ส. มองว่าระบบการเลือกตั้งควรใช้ระบบเขตใหญ่เรียงเบอร์ จะเหมาะสมที่สุด
นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กรรมาธิการฯ กล่าวว่า ข้อเสนอแก้ไขรธน. ทั้ง 6 ประเด็น ของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะไม่มีความเชื่อมโยงกับประชาชน
สำหรับที่มาของส.ว. การใช้ระบบเลือกตั้งไม่ใช่ทั้งหมดของระบอบประชาธิปไตย ที่มาของ ส.ว.ควรแตกต่างจากส.ส. มิเช่นนั้นก็ไม่ควรมีระบอบสองสภา ตนยังมองว่าส.ว.สรรหา สามารถเป็นตัวแทนของกลุ่ม และภาคส่วนต่างๆ เพื่อให้ตอบโจทย์การมีความเชื่อมโยงกับประชาชน แต่เพื่อให้มีความชอบธรรมในการทำหน้าที่ถอดถอน ขอเสนอระบบการสรรหา ส.ว. ด้วยการสรรหาบุคคลที่เหมาะสมให้ได้จำนวน 2-3 เท่า ของจำนวน ส.ว.ที่ต้องการ จากนั้นจึงให้ประชาชนออกเสียงเลือก ส.ว. ให้ได้ครบตามจำนวนที่ต้องการ
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา กรรมาธิการฯ และแกนนำกลุ่ม 40 ส.ว. กล่าวว่า การทำงานของคนที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขรธน.ทุกวันนี้ เหมือนตุ๊กตาไขลาน คือเดินไปตามที่กำหนดไว้ ตนมองว่าข้อเสนอแก้ไขใน 6 ประเด็น ของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะนำไปสู่การแก้ไขรธน. ตามแผนปฏิรูปการเมืองระยะสั้น เพราะกระบวนการทั้งหมดเป็นเพียงการชิงอำนาจในรัฐสภา ชิงความได้เปรียบเสียเปรียบของสมาชิกรัฐสภา ไม่ใช่การส่งเสริมสมานฉันท์ ตอนนี้ควรนำแผนระยะกลาง และระยะยาวมาทำ คือให้มีองค์กรหนึ่งเข้ามาดูแลรธน. จะดีกว่า
สำหรับประเด็นที่มาของส.ส. มองว่า ไม่จำเป็นต้องแก้ไขการกำหนดเขตเลือกตั้งให้เป็นเขตเล็ก เพราะจะเป็นการขยายเชื้อร้ายของการซื้อเสียงออกไป ทำให้การเลือกตั้งเปลี่ยนจากระบบเลือกตั้ง เป็นระบบประมูล ด้วยการใช้เงินซื้อจากนั้นค่อยมาถอนทุนคืน ควรเป็นแบบเขตใหญ่เรียงเบอร์แบบนี้จะดูแลประชาชนทั่วถึงกว่า
ส่วนส.ส.สัดส่วน ที่คณะกรรมการสมานฉันท์ฯ เห็นว่าระบบปัจจุบันไม่ดี ให้ใช้เขตประเทศนั้น ขัดกับความเห็นเรื่อง ส.ส.แบบแบ่งเขต ที่ต้องการเป็นเขตเล็ก จึงไม่รู้ว่าผู้เสนออยากเอาแบบไหนแน่
ส่วนเรื่องที่มาของ ส.ว. ระบบปัจจุบันดีอยู่แล้ว จากการทำงานร่วมกับ ส.ว.เลือกตั้ง มีประโยชน์และประทับใจ ทำงานผสมผสานเกิดการแลกเปลี่ยนจุดอ่อนจุดด้อยของแต่ละฝ่าย ทำให้วุฒิสภาทำงานได้ดีที่สุด และมีผลงาน ที่มาจาก ส.ว.ทั้งสองแบบ โดย ส.ว.ฝ่ายหนึ่งทำงานเต็มเวลา อีกฝ่ายลงพื้นที่นำข้อมูลมาแลกเปลี่ยนกัน หากส.ว.มาจากการเลือกตั้ง หรือสรรหาล้วนๆ จะมีปัญหา
นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ตัวแทนจากวิปรัฐบาล กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าที่มาของ ส.ว. ควรมาจากการสรรหาทั้งหมด การเปิดโอกาสให้มีการเลือกตั้ง ส.ว. เป็นการเปิดโอกาสให้การเมืองเข้ามามีส่วนครอบงำวุฒิสภา เพราะประเทศไทยไม่สามารถกำจัดระบบการใช้เงินซื้อเสียงได้ ส่วนความเห็นเรื่องที่มาของส.ส. มองว่าระบบการเลือกตั้งควรใช้ระบบเขตใหญ่เรียงเบอร์ จะเหมาะสมที่สุด
นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กรรมาธิการฯ กล่าวว่า ข้อเสนอแก้ไขรธน. ทั้ง 6 ประเด็น ของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะไม่มีความเชื่อมโยงกับประชาชน
สำหรับที่มาของส.ว. การใช้ระบบเลือกตั้งไม่ใช่ทั้งหมดของระบอบประชาธิปไตย ที่มาของ ส.ว.ควรแตกต่างจากส.ส. มิเช่นนั้นก็ไม่ควรมีระบอบสองสภา ตนยังมองว่าส.ว.สรรหา สามารถเป็นตัวแทนของกลุ่ม และภาคส่วนต่างๆ เพื่อให้ตอบโจทย์การมีความเชื่อมโยงกับประชาชน แต่เพื่อให้มีความชอบธรรมในการทำหน้าที่ถอดถอน ขอเสนอระบบการสรรหา ส.ว. ด้วยการสรรหาบุคคลที่เหมาะสมให้ได้จำนวน 2-3 เท่า ของจำนวน ส.ว.ที่ต้องการ จากนั้นจึงให้ประชาชนออกเสียงเลือก ส.ว. ให้ได้ครบตามจำนวนที่ต้องการ