xs
xsm
sm
md
lg

เอสเอฟขึ้นค่าตั๋ว 20 บาท ปีหน้าผ่อนแรงสาขาใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – เอสเอฟ เลิกหลังแอ่นแบกรับต้นทุน ขอปรับราคาตั๋วหนังขึ้น 20 บาท ในรอบ 8 ปี โต้แคมเปญ “มูฟวี่เดย์” ไม่ทำให้ขาดทุน สิ้นปีมั่นใจรายได้เติบโตแน่ 20% เหตุหนังดังตบเท้าเข้าฉายหลายเรื่องในไตรมาสสี่ เผยแผนปีหน้ามุ่งจับมือพันธมิตรโกยรายได้ พร้อมเน้นรีโนเวทสาขาเดิม ขยายสาขาน้อยกว่าปีนี้

นายสุวิทย์ ทองร่มโพธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอฟ ซีเนม่า ซิตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ช่วง 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา ทางบริษัทได้ปรับราคาบัตรเข้าชมภาพยนตร์เพิ่มขึ้นอีก 20 บาท จากราคาเดิมที่จำหน่ายอยู่ก่อนแล้วที่ราคา 100 บาท และ 120 บาท ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 7-8 ปีที่ผ่านมา ที่เอสเอฟมีการปรับราคาบัตรชมภาพยนตร์ขึ้น

โดยมองว่าช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่สมควรในการปรับราคาขึ้น หลังจากที่ต้องแบกรับต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเศรษฐกิจที่ค่อนข้างซบเซา ทั้งนี้มองว่าแคมเปญ “มูฟวี่ เดย์” ซึ่งให้ชมภาพยนตร์ในวันพุธในราคาบัตรที่ 60 บาท ไม่ได้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ต้องมีการปรับราคาขึ้น โดยแคมเปญดังกล่าวยังคงมีอยู่และหลังจากมีการปรับราคาขึ้นมา 1 อาทิตย์นั้น พบว่าไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ชม โดยยังคงมียอดการซื้อบัตรเข้าชมอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้มองว่า สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น เนื่องจากช่วงไตรมาสสี่ มีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ทำเงินเข้าฉายอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ภาพยนตร์ไทย อย่าง รถไฟฟ้ามาหานะเธอ ซึ่งทำรายได้ไปได้กว่า 150 ล้านบาท รวมถึง เรื่อง2010 ที่กำลังเข้าฉายในปัจจุบัน คาดว่าจะมีรายได้ไปไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท

นอกจากนี้ที่กำลังจะเข้าโรงฉาย ยังมีอีกหลายเรื่อง เช่น แหยม ยโสธร ภาค2, นิวมูน และ อวตาร ส่งผลให้ภาพรวมของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในช่วงไตรมาสสี่ปีนี้ น่าจะมียอดรายได้เติบโตสูงขึ้นถึง 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน โดยทั้งปีมองว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมภาพยนตร์น่าจะโตขึ้น 10% คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 3,500 ล้านบาท ถึงแม้ว่าในช่วงกลางปีจะเจอผลกระทบจากปัญหาไข้หวัด 2009 บ้างก็ตาม

สำหรับรายได้ของเอสเอฟนั้น ในช่วง 9 เดือนปี 2552 พบว่า มียอดการเติบโตสูงขึ้น 15% โดยถึงสิ้นปีคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มเป็น 20% คิดเป็นมูลค่ารายได้ไม่ต่ำกว่า 2,100 ล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ 1,800 ล้านบาท มาจากรายได้จากโรงภาพยนตร์ 80% และโบว์ลิ่ง คาราโอเกะอีก 20% โดยการเติบโตนี้ มองว่ามาจากการขยายสาขาใหม่เป็นหลัก ซึ่งในปีนี้ขยายสาขาสูงถึง 6 สาขา จำนวนกว่า 43 โรง ยอดการลงทุนที่ 1,200 ล้านบาท รวมถึงการทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย ในแง่ของการร่วมมือกับพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด บริษัทได้ร่วมกับ บริษัท กรีนสปอต (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายนมถั่วเหลืองไวตามิ้ลค์ โลว์ชูการ์ ทุ่มงบกว่า 10 ล้านบาท จัดโปรโมชั่นพิเศษรับส่วนลดตั๋วหนัง พร้อมลุ้นรับโทรศัพท์มือถือ Black berry CURVE จำนวน 4 เครื่อง และรางวัลใหญ่ ส่งท้ายปี

นายสุวิทย์ กล่าวต่อว่า ในปีหน้า บริษัทยังเน้นกลยุทธ์ร่วมกับพันธมิตร ในการทำแคมเปญส่งเสริมการขายร่วมกันอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังจะมุ่งเน้นในเรื่องของการรีโนเวทสาขาเดิม มากกว่าการขยายสาขาใหม่ซึ่งคาดว่า จะขยายน้อยกว่าในปีนี้ โดยมองว่าปีหน้าจะเป็นปีของภาพยนตร์ไทยด้วย ทั้ง ตำนานสมเด็จพระนเรศวร มหาราช อีก 2 ภาค องค์บาก3 รวมถึงภาพยนตร์ต่างประเทศอย่าง แฮร์รี่ พอตเตอร์ 7
กำลังโหลดความคิดเห็น