เศรษฐกิจทรงตัว ทำเหตุอสังหาริมทรัพย์ และโรงแรมชะลอแผนการลงทุน “เมกกาแมน” ปรับแผนชูไดเร็กเซล ตรงสู่นักออกแบบ หวังช่วยปั๊มยอดรายได้สิ้นปีทรงตัวที่ 40 ล้านบาท เท่าปีก่อน
นายกฤษณ์ เพชราภิรัชต์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เมกกาแมน (ไทยแลนด์) จำกัด นำเข้าและจัดจำหน่ายหลอดไฟและอุปกรณ์ให้แสงสว่าง แบรนด์ เมกกาแมน จากประเทศ เยอรมนี เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทปรับแผนการดำเนินธุรกิจสู่การเป็นพรีเมี่ยมแบรนด์ และเป็นสินค้าประหยัดพลังงาน เจาะกลุ่มลูกค้าโครงการเป็นหลัก ตั้งแต่ปลายปี 2552 ที่ผ่านมา พบว่า ตัวเลขผลการดำเนินการในช่วง 8 เดือนของปีนี้ ค่อนข้างต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ถึง 10% โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากลูกค้าหลักอย่างโครงการอสังหาริมทรัพย์ และโรงแรม ได้ชะลอแผนการดำเนินการ รวมไปถึงชะลอการรีโนเวทลงไปกว่า 15% จากตัวเลขลูกค้าทั้งหมด หลังจากที่สภาพเศรษฐกิจของปีนี้เกิดการชะลอตัวลง
ส่งผลให้บริษัทต้องมีการปรับแผนรับมือในช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นมา ไม่ว่าจะเป็นการปรับกลยุทธ์จากเดิมที่เข้าหาลูกค้าโครงการโดยตรง เปลี่ยนมาเป็นทำไดเร็กเซล สู่กลุ่มดีไซเนอร์อินทีเรีย นักออกแบบ หรือมัณฑนากรแทน เพราะกลุ่มเป้าหมายนี้ เป็นกลุ่มที่จะช่วยลูกค้าโครงการในการตัดสินใจใช้หลอดไฟ เมกกาแมนต่อไปได้ มากกว่าที่จะเข้าโครงการเอง
อย่างไรก็ตาม ลูกค้าในกลุ่มโมเดิรน์เทรด หรือช่องทางขายในส่วนรีเทล ถือเป็นกลุ่มรายได้ที่ยังไปได้อยู่ โดยมีสัดส่วนที่ 40% ขณะที่ลูกค้าโครงการอยู่ที่ 60% ซึ่งมองว่าในไตรมาสสี่กลุ่มลูกค้าโครงการจะมีรายได้เข้ามามากขึ้น และสามารถทบกับรายได้ในครึ่งปีแรกที่ต่ำกว่าเป้าได้ เชื่อว่า สัดส่วนลูกค้าโครงการยังอยู่ที่ 60% เช่นเดิม ในสิ้นปีนี้ ภายใต้งบการตลาดที่ใช้น้อยกว่าปีก่อน 5% จาก 2 ล้านบาท โดยมุ่งในเรื่องของการทำไดเร็กเซล และตัดงบในส่วนของโฆษณาและประชาสัมพันธ์ลง
ทั้งนี้ แนวโน้มลูกค้าโครงการช่วงไตรมาสสุดท้าย ถือว่ามีแนวโน้มที่ดี เพราะเริ่มเห็นสัญญาณในการใช้เงินการลงทุนบ้างแล้ว โดยทางบริษัทยังคงเดินหน้าเปิดตัวสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยเดือนละ 1 ไอเท็ม พร้อมทั้งเปิดตัวสินค้าใหม่ สำหรับเจาะกลุ่มลูกค้าเฉพาะทางมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มป้ายโฆษณาบิลบอร์ดขนาดใหญ่ หรือกลุ่มห้างสรรพสินค้า กับหลอดไฟที่ใช้สำหรับจัดวางสินค้า เชื่อว่า สิ้นปีบริษัทจะสามารถรักษาระดับรายได้ไว้ที่ 40 ล้านบาท ทรงตัวเท่าปีที่ผ่านมาได้
นายกฤษณ์ เพชราภิรัชต์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เมกกาแมน (ไทยแลนด์) จำกัด นำเข้าและจัดจำหน่ายหลอดไฟและอุปกรณ์ให้แสงสว่าง แบรนด์ เมกกาแมน จากประเทศ เยอรมนี เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทปรับแผนการดำเนินธุรกิจสู่การเป็นพรีเมี่ยมแบรนด์ และเป็นสินค้าประหยัดพลังงาน เจาะกลุ่มลูกค้าโครงการเป็นหลัก ตั้งแต่ปลายปี 2552 ที่ผ่านมา พบว่า ตัวเลขผลการดำเนินการในช่วง 8 เดือนของปีนี้ ค่อนข้างต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ถึง 10% โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากลูกค้าหลักอย่างโครงการอสังหาริมทรัพย์ และโรงแรม ได้ชะลอแผนการดำเนินการ รวมไปถึงชะลอการรีโนเวทลงไปกว่า 15% จากตัวเลขลูกค้าทั้งหมด หลังจากที่สภาพเศรษฐกิจของปีนี้เกิดการชะลอตัวลง
ส่งผลให้บริษัทต้องมีการปรับแผนรับมือในช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นมา ไม่ว่าจะเป็นการปรับกลยุทธ์จากเดิมที่เข้าหาลูกค้าโครงการโดยตรง เปลี่ยนมาเป็นทำไดเร็กเซล สู่กลุ่มดีไซเนอร์อินทีเรีย นักออกแบบ หรือมัณฑนากรแทน เพราะกลุ่มเป้าหมายนี้ เป็นกลุ่มที่จะช่วยลูกค้าโครงการในการตัดสินใจใช้หลอดไฟ เมกกาแมนต่อไปได้ มากกว่าที่จะเข้าโครงการเอง
อย่างไรก็ตาม ลูกค้าในกลุ่มโมเดิรน์เทรด หรือช่องทางขายในส่วนรีเทล ถือเป็นกลุ่มรายได้ที่ยังไปได้อยู่ โดยมีสัดส่วนที่ 40% ขณะที่ลูกค้าโครงการอยู่ที่ 60% ซึ่งมองว่าในไตรมาสสี่กลุ่มลูกค้าโครงการจะมีรายได้เข้ามามากขึ้น และสามารถทบกับรายได้ในครึ่งปีแรกที่ต่ำกว่าเป้าได้ เชื่อว่า สัดส่วนลูกค้าโครงการยังอยู่ที่ 60% เช่นเดิม ในสิ้นปีนี้ ภายใต้งบการตลาดที่ใช้น้อยกว่าปีก่อน 5% จาก 2 ล้านบาท โดยมุ่งในเรื่องของการทำไดเร็กเซล และตัดงบในส่วนของโฆษณาและประชาสัมพันธ์ลง
ทั้งนี้ แนวโน้มลูกค้าโครงการช่วงไตรมาสสุดท้าย ถือว่ามีแนวโน้มที่ดี เพราะเริ่มเห็นสัญญาณในการใช้เงินการลงทุนบ้างแล้ว โดยทางบริษัทยังคงเดินหน้าเปิดตัวสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยเดือนละ 1 ไอเท็ม พร้อมทั้งเปิดตัวสินค้าใหม่ สำหรับเจาะกลุ่มลูกค้าเฉพาะทางมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มป้ายโฆษณาบิลบอร์ดขนาดใหญ่ หรือกลุ่มห้างสรรพสินค้า กับหลอดไฟที่ใช้สำหรับจัดวางสินค้า เชื่อว่า สิ้นปีบริษัทจะสามารถรักษาระดับรายได้ไว้ที่ 40 ล้านบาท ทรงตัวเท่าปีที่ผ่านมาได้