ASTVผู้จัดการรายวัน/ภูมิภาค- “มาร์ค”เผยได้เยี่ยมแล้ว"ศิวรักษ์" ยกหูคุย“แม่ศิวรักษ์” ชี้จนถึงขณะนี้ข้อหายังไม่ชัด ยันอยู่ระหว่างประสานข้อกม. หลังมีปัญหาเรื่องภาษา รอ “บัวแก้ว”รวบรวมข้อมูลทบทวนมาตรการแตกหัก “เขมร” “แม่หนุ่มวิศวกรไทย” ชาวโคราชสุดดีใจ อุปทูตไทยต่อสายให้คุยเป็นครั้งแรก กก.สิทธิฯเตรียมถกจะขอความช่วยเหลือจากองค์กรสิทธิสากล "เทพเทือก" เหน็บให้"จิ๋ว-แม้ว"แต่งตัวรอไปก่อน ยันรัฐบาลมีน้ำยาจัดการได้
นับจากที่นายศิวรักษ์ โชติพงษ์ วิศวกรชาวไทยของบริษัท กัมพูชา แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส(CATS) ในเครือบริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ถูกประเทศกัมพูชาจับกุม และยัดข้อหาลักลอบข้อมูลตารางบินของ ทักษิณ ชินวัตร หรือ นักโทษทักษิณ ที่หนีคดีของไทย โดยนายศิวรักษ์ ถูกจับกุมไปตั้งแต่วันศุกร์ที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา และรัฐบาลไทยพยายามประสานผ่านทางการทูต เพื่อขอเข้าพบคนไทย
ล่าสุด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วานนี้ (17 พ.ย.)ว่า เพิ่งได้โทรศัพท์จากมารดานายศิวรักษ์ (นางสิมารักษ์ ชุติพงษ์) โดยขณะนี้ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยมและมอบของใช้ ยา เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างประสานงานด้านข้อกฎหมายที่จะต้องมีเรื่องทนายความ ซึ่งถือว่ากัมพูชาได้ดำเนินการตามมาตรฐานที่เปิดโอกาสให้เข้าเยี่ยมได้ และพบว่าสุ่มเสียงนายศิวรักษ์ปกติ กำลังใจดี สุขภาพดี
ทั้งนี้ มารดาฝากรัฐบาลว่า อยากให้ลูกได้รับการปล่อยตัวโดยเร็วที่สุด ซึ่งเป็นแนวทางที่รัฐบาลพยายามดำเนินการอยู่ แต่ขณะนี้ต้องดำเนินการตามกฎหมายก่อน
“ ความชัดเจนเรื่องข้อหายังไม่มี เพราะอาจจะมีปัญหาเรื่องภาษาด้วย เท่าที่ฟังคำให้การ การสอบสวน คิดว่าไม่น่าจะเกินวันนี้ (18 พ.ย.)ในกระบวนการที่เกี่ยวข้องเรื่องข้อกฎหมาย และทนาย น่าจะมีความชัดเจน ส่วนเรื่องมาตรการต่างๆนั้น ทางกระทรวงการต่างประเทศจะรวบรวมต่อไป จากก่อนหน้าที่ยกเลิกเอ็มโอยูที่ทางรัฐบาลมีมติไป อยู่ในขั้นดำเนินการ โดยในการประชุมครม.ทางกระทรวงต่างประเทศ ไม่ได้เสนอให้มีการยกเลิกเอ็มโอยูฉบับอื่นๆ "
**อุปทูตไทยเยี่ยมวิศวกรต่อสายคุยกับแม่
ทั้งนี้ ที่วิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา อุปทูตไทยประจำกัมพูชา ได้ติดต่อทางโทรศัพท์มายังนางสิมารักษ์ ณ นครพนม โดยลูกชายได้พูดกับแม่ว่า สบายดี แม่ไม่ต้องเป็นห่วง ทางการกัมพูชาดูแลเป็นอย่างดี โดยได้พูดคุยกับแม่ประมาณ 2-3 นาที ก่อนวางสายโทรศัพท์
นางสิมารักษ์ เผยภายหลังว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้ยินเสียงลูกชาย ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้พูดคุยกันหลังจากลูกถูกจับตัวไป แต่ไม่กล้าสอบถามอะไรมาก เกรงว่าลูกจะได้รับอันตราย ได้ยินแค่เสียงก็ดีใจแล้ว
"ส่วนเรื่องยารักษาโรคภูมิแพ้หอบหืดของลูกชายนั้นก็คงต้องพึ่งแพทย์จัดให้ตัวเองคงไม่ได้ฝากกับเจ้าหน้าที่ไป อยากบอกลูกว่า แม่คิดถึง กลับประเทศไทยเราดีกว่า เมื่อได้กลับมาครั้งนี้แล้วหากทำงานที่บริษัทนี้ได้ ก็ให้หางานทำที่กรุงเทพฯ ไม่ให้กลับไปกัมพูชาอีกแล้ว เพราะลูกเป็นคนดีมีความสามารถ สมัครงานที่ไหนเขาก็คงจะรับ"
ในวันเดียวกัน (17 พ.ย.) ตัวแทนจากกระทรวงต่างประเทศนำโดย น.ส.มธุรพจนา อิทธะรงค์ รองอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ และนายธนพล หวังอ้อมกลาง หัวหน้าฝ่ายอำนวยการกองหนังสือเดินทาง กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ได้เดินทางเข้าพบนางสิมารักษ์ ณ นครพนม ที่ห้องประชุมสำนักงานผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปร่วมฟังแต่อย่างใด
**กก.สิทธิฯ ยันคนไทยต้องได้รับการคุ้มครอง
น.พ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุยชนแห่งชาติ กล่าวว่า ตามหลักสิทธิมนุษยชน นายศิวรักษ์ ต้องได้รับความคุ้มครอง ไม่ให้ถูกละเมิด ต้องได้รับการดูแลความเป็นอยู่ และต้องได้รับสิทธิพบทนายเพื่อแก้ต่างในคดี สำหรับการกระทำของรัฐบาลในขณะนี้คือ ต้องแจ้งให้คนไทยรับรู้ ถึงความคืบหน้าและพยายามช่วยเหลือซึ่งตอนนี้กระทรวงการต่างประเทศก็กำลังทำอยู่
“เรื่องนี้ต้องแยกว่า ต้องให้ความคุ้มครองสิทธิ เมื่อถูกกล่าวหา เรื่องนี้เป็นคนละเรื่องกับการเมืองแม้ว่าอาจจะมีการกระทำความผิดจริง แต่ก็ต้องทำให้กระบวนการเปิดเผย และทำให้สิทธิของผู้ต้องหาได้ต่อสู้คดี และเป็นเรื่องนี้มิใช่เรื่องการแทรกแซงการเมืองแต่อย่างใด” น.พ.นิรันดร์กล่าว และว่า ในวันนี้ (18 )
กรรมการสิทธิฯจะประชุมหารือกันจะขอความช่วยเหลือจากองค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศหรือไม่ นอกจากนี้ ต้องพิจารณาว่า จะใช้กลไกกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนอาเซียนที่เพิ่งถูกตั้งขึ้นมาหรือไม่ เพราะเรื่องนี้ถือเป็นวาระเร่งด่วน
**"เทพเทือก"ลั่น รบ.มีน้ำยาไม่พึ่ง นช.แม้ว
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราต้องหาทางที่จะช่วยเหลือนายศิวรักษ์ เพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ แต่ก็ต้องว่ากันไปตามกฎ เกณฑ์กติกา ไม่ไปก้าวล่วงกระบวนการยุติธรรม แต่ถ้ายังอยู่ในวิสัยที่จะเจรจาต่อรองกันได้ก็จะทำ อย่างไรก็ตาม การจะยกโทรศัพท์เพื่อพูดคุยกับนายฮุนเซน หรือให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หารือกับพล.อ.เตียบันห์ รมว.กลาโหมกัมพูชา ในฐานะที่สนิมสนมกัน คงไม่ได้ เพราะแต่ละคนก็ยังมีอารมณ์กันอยู่ แต่จะไม่ทอดทิ้ง
“ขณะนี้ได้ให้คนที่พอจะทำหน้าที่ติดต่อได้ช่วยอธิบายความ ซึ่งคนในรัฐบาลก็ยังพอมีที่จะช่วยอธิบายได้ และทั้งผมและพล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ ก็จะพยายามทำกันต่อไป ซึ่งเมื่อวานก็คุยกันตลอดถึงความพยายามที่จะเจรจากัน เพื่อช่วยแก้ปัญหานี้ให้ได้” นายสุเทพ กล่าวและยืนยันว่า การที่ทักษิณ ชินวัตร จะให้ความช่วยเหลือหากได้รับการร้องจากรัฐบาลนั้น " อ๋อ ไม่หรอกครับ จะไปร้องขอคุณทักษิณ ที่กำลังหนีคดีหัวซุก หัวซุนอยู่คงไม่ได้ ตอนนี้ก็ขอให้เขาทั้ง 2 คน (พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ และทักษิณ ชินวัตร )แต่งตัวรอต่อไป”รองนายกฯ กล่าว และว่า การที่ไทยจะจับกุมชาวเขมรที่เข้ามาในประเทศนั้น คงไม่ทำ เราเมืองพุทธ เรามีเมตตาธรรม เรามีธรรมะ เรามีจิตที่เคารพในกฎหมาย ในกฏเกณฑ์กติกา เราก็ต้องทำตามนั้น
**“ปลัดกลาโหม”ชี้จับกุมวิศวกรเกมการเมือง
ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวยืนยันอีกครั้งว่า แผนการบิน และเส้นทางการบินเป็นข้อมูลที่เปิดเผย คงไม่ใช่ประเด็นปัญหา อาจจะมีเรื่องการเมืองเข้ามาแทรกมากกว่า ส่วนกองทัพจะเข้ามาช่วยประสานปัญหาความไม่เข้าใจกันระหว่างไทย และ กัมพูชาหรือไม่นั้น ทางรัฐบาลยังไม่ได้ขอให้กองทัพเข้าไปดูแล กองทัพก็คงเฝ้าติดตามดู ทั้งนี้ สิ่งที่รัฐบาลการอยู่ จะเป็นวิธีการทูตที่ดำเนินการอยู่ ยังไม่ได้ผ่านกระทรวงกลาโหมให้ช่วยความสัมพันธ์ในส่วนของกองทัพทั้งสองประเทศ มีความใกล้ชิดกันอยู่แล้ว ก็คงพูดจากันได้อยู่
เมื่อถามว่า ประเด็นปัญหาเรื่องนี้ (จับกุมนายศิวรักษ์ โชติพงษ์ ) จะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวหรือไม่นั้น ก็คงต้องระมัดระวัง ต้องอดทน อดกลั้น เพราะ เป็นเรื่องของความรักชาติ รักศักดิ์ศรีของประเทศชาติ และพยายามไม่ให้มีผลกระทบหรือทำให้เกิดจุดอ่อนขึ้นมาได้
**'เติ้ง'หนุนมาร์คตอบโตทางการทูต
ด้านนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า เป็นห่วงความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา ไม่อยากให้บานปลาย เพราะมีผลกระทบหลายด้าน สิ่งที่สำคัญขอฝากไปยังทหารทุกคนต้องนิ่งและเงียบ และผู้นำระดับนายทหารควรประสานงานไปยังกัมพูชาด้วยว่า การเมืองก็ปล่อยไป แต่ระดับทหารไม่ยุ่งเกี่ยว โดยเฉพาะในเขตชายแดนระวังอย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ส่วนเรื่องการเมืองก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ หรือนายกฯคงจะไปดูว่าจะทำอย่างไร ทั้งนี้ตนเห็นว่าถ้าสามารถสร้างความเข้าใจกันได้ก็จะดี ซึ่งตนไม่อยากจะพูดมาก เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
**นศ.เขมรในไทยวอน 2 ปท.เจรจาปัญหา
ด้าน รศ.โกวิท เชื่อมกลาง อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า โครงการความร่วมมือเพื่อการศึกษาระหว่างไทย-กัมพูชา 2 โครงการ คือ โครงการนักเรียนทุนพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานทุนให้นักศึกษามหาวิทยาลัยกัมปงเชอร์เตียนและโครงการระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์กับมหาวิทยาลัยในพนมเปญ รวมถึงโครงการครู อาจารย์ในประเทศกัมพูชาที่มาศึกษาเพิ่มเติมในหลายสาขาวิชาในช่วงปิดภาคเรียน และมาพักที่หอพักในมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ขณะนี้ยังดำเนินไปด้วยดี แม้รัฐบาลทั้งสองประเทศลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต และนักศึกษาชาวกัมพูชาไม่มีความหวาดวิตกจนถึงกับต้องเดินทางกลับประเทศ
นายดุล เฉิน นักศึกษาชาวกัมพูชา ที่เดินทางเข้ามาศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ระบุว่า การมาศึกษาในไทยตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ได้รับความอบอุ่นเป็นกันเองจากคณะครู อาจารย์ และเพื่อนนักศึกษาไทยในทุกด้านเป็นอย่างดี เปรียบเหมือนญาติพี่น้อง และอยากให้ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์เป็นบ้านพี่เมืองน้องกันไปตลอด อยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายเจรจากันด้วยเหตุผล
นับจากที่นายศิวรักษ์ โชติพงษ์ วิศวกรชาวไทยของบริษัท กัมพูชา แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส(CATS) ในเครือบริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ถูกประเทศกัมพูชาจับกุม และยัดข้อหาลักลอบข้อมูลตารางบินของ ทักษิณ ชินวัตร หรือ นักโทษทักษิณ ที่หนีคดีของไทย โดยนายศิวรักษ์ ถูกจับกุมไปตั้งแต่วันศุกร์ที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา และรัฐบาลไทยพยายามประสานผ่านทางการทูต เพื่อขอเข้าพบคนไทย
ล่าสุด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วานนี้ (17 พ.ย.)ว่า เพิ่งได้โทรศัพท์จากมารดานายศิวรักษ์ (นางสิมารักษ์ ชุติพงษ์) โดยขณะนี้ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยมและมอบของใช้ ยา เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างประสานงานด้านข้อกฎหมายที่จะต้องมีเรื่องทนายความ ซึ่งถือว่ากัมพูชาได้ดำเนินการตามมาตรฐานที่เปิดโอกาสให้เข้าเยี่ยมได้ และพบว่าสุ่มเสียงนายศิวรักษ์ปกติ กำลังใจดี สุขภาพดี
ทั้งนี้ มารดาฝากรัฐบาลว่า อยากให้ลูกได้รับการปล่อยตัวโดยเร็วที่สุด ซึ่งเป็นแนวทางที่รัฐบาลพยายามดำเนินการอยู่ แต่ขณะนี้ต้องดำเนินการตามกฎหมายก่อน
“ ความชัดเจนเรื่องข้อหายังไม่มี เพราะอาจจะมีปัญหาเรื่องภาษาด้วย เท่าที่ฟังคำให้การ การสอบสวน คิดว่าไม่น่าจะเกินวันนี้ (18 พ.ย.)ในกระบวนการที่เกี่ยวข้องเรื่องข้อกฎหมาย และทนาย น่าจะมีความชัดเจน ส่วนเรื่องมาตรการต่างๆนั้น ทางกระทรวงการต่างประเทศจะรวบรวมต่อไป จากก่อนหน้าที่ยกเลิกเอ็มโอยูที่ทางรัฐบาลมีมติไป อยู่ในขั้นดำเนินการ โดยในการประชุมครม.ทางกระทรวงต่างประเทศ ไม่ได้เสนอให้มีการยกเลิกเอ็มโอยูฉบับอื่นๆ "
**อุปทูตไทยเยี่ยมวิศวกรต่อสายคุยกับแม่
ทั้งนี้ ที่วิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา อุปทูตไทยประจำกัมพูชา ได้ติดต่อทางโทรศัพท์มายังนางสิมารักษ์ ณ นครพนม โดยลูกชายได้พูดกับแม่ว่า สบายดี แม่ไม่ต้องเป็นห่วง ทางการกัมพูชาดูแลเป็นอย่างดี โดยได้พูดคุยกับแม่ประมาณ 2-3 นาที ก่อนวางสายโทรศัพท์
นางสิมารักษ์ เผยภายหลังว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้ยินเสียงลูกชาย ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้พูดคุยกันหลังจากลูกถูกจับตัวไป แต่ไม่กล้าสอบถามอะไรมาก เกรงว่าลูกจะได้รับอันตราย ได้ยินแค่เสียงก็ดีใจแล้ว
"ส่วนเรื่องยารักษาโรคภูมิแพ้หอบหืดของลูกชายนั้นก็คงต้องพึ่งแพทย์จัดให้ตัวเองคงไม่ได้ฝากกับเจ้าหน้าที่ไป อยากบอกลูกว่า แม่คิดถึง กลับประเทศไทยเราดีกว่า เมื่อได้กลับมาครั้งนี้แล้วหากทำงานที่บริษัทนี้ได้ ก็ให้หางานทำที่กรุงเทพฯ ไม่ให้กลับไปกัมพูชาอีกแล้ว เพราะลูกเป็นคนดีมีความสามารถ สมัครงานที่ไหนเขาก็คงจะรับ"
ในวันเดียวกัน (17 พ.ย.) ตัวแทนจากกระทรวงต่างประเทศนำโดย น.ส.มธุรพจนา อิทธะรงค์ รองอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ และนายธนพล หวังอ้อมกลาง หัวหน้าฝ่ายอำนวยการกองหนังสือเดินทาง กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ได้เดินทางเข้าพบนางสิมารักษ์ ณ นครพนม ที่ห้องประชุมสำนักงานผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปร่วมฟังแต่อย่างใด
**กก.สิทธิฯ ยันคนไทยต้องได้รับการคุ้มครอง
น.พ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุยชนแห่งชาติ กล่าวว่า ตามหลักสิทธิมนุษยชน นายศิวรักษ์ ต้องได้รับความคุ้มครอง ไม่ให้ถูกละเมิด ต้องได้รับการดูแลความเป็นอยู่ และต้องได้รับสิทธิพบทนายเพื่อแก้ต่างในคดี สำหรับการกระทำของรัฐบาลในขณะนี้คือ ต้องแจ้งให้คนไทยรับรู้ ถึงความคืบหน้าและพยายามช่วยเหลือซึ่งตอนนี้กระทรวงการต่างประเทศก็กำลังทำอยู่
“เรื่องนี้ต้องแยกว่า ต้องให้ความคุ้มครองสิทธิ เมื่อถูกกล่าวหา เรื่องนี้เป็นคนละเรื่องกับการเมืองแม้ว่าอาจจะมีการกระทำความผิดจริง แต่ก็ต้องทำให้กระบวนการเปิดเผย และทำให้สิทธิของผู้ต้องหาได้ต่อสู้คดี และเป็นเรื่องนี้มิใช่เรื่องการแทรกแซงการเมืองแต่อย่างใด” น.พ.นิรันดร์กล่าว และว่า ในวันนี้ (18 )
กรรมการสิทธิฯจะประชุมหารือกันจะขอความช่วยเหลือจากองค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศหรือไม่ นอกจากนี้ ต้องพิจารณาว่า จะใช้กลไกกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนอาเซียนที่เพิ่งถูกตั้งขึ้นมาหรือไม่ เพราะเรื่องนี้ถือเป็นวาระเร่งด่วน
**"เทพเทือก"ลั่น รบ.มีน้ำยาไม่พึ่ง นช.แม้ว
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราต้องหาทางที่จะช่วยเหลือนายศิวรักษ์ เพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ แต่ก็ต้องว่ากันไปตามกฎ เกณฑ์กติกา ไม่ไปก้าวล่วงกระบวนการยุติธรรม แต่ถ้ายังอยู่ในวิสัยที่จะเจรจาต่อรองกันได้ก็จะทำ อย่างไรก็ตาม การจะยกโทรศัพท์เพื่อพูดคุยกับนายฮุนเซน หรือให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หารือกับพล.อ.เตียบันห์ รมว.กลาโหมกัมพูชา ในฐานะที่สนิมสนมกัน คงไม่ได้ เพราะแต่ละคนก็ยังมีอารมณ์กันอยู่ แต่จะไม่ทอดทิ้ง
“ขณะนี้ได้ให้คนที่พอจะทำหน้าที่ติดต่อได้ช่วยอธิบายความ ซึ่งคนในรัฐบาลก็ยังพอมีที่จะช่วยอธิบายได้ และทั้งผมและพล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ ก็จะพยายามทำกันต่อไป ซึ่งเมื่อวานก็คุยกันตลอดถึงความพยายามที่จะเจรจากัน เพื่อช่วยแก้ปัญหานี้ให้ได้” นายสุเทพ กล่าวและยืนยันว่า การที่ทักษิณ ชินวัตร จะให้ความช่วยเหลือหากได้รับการร้องจากรัฐบาลนั้น " อ๋อ ไม่หรอกครับ จะไปร้องขอคุณทักษิณ ที่กำลังหนีคดีหัวซุก หัวซุนอยู่คงไม่ได้ ตอนนี้ก็ขอให้เขาทั้ง 2 คน (พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ และทักษิณ ชินวัตร )แต่งตัวรอต่อไป”รองนายกฯ กล่าว และว่า การที่ไทยจะจับกุมชาวเขมรที่เข้ามาในประเทศนั้น คงไม่ทำ เราเมืองพุทธ เรามีเมตตาธรรม เรามีธรรมะ เรามีจิตที่เคารพในกฎหมาย ในกฏเกณฑ์กติกา เราก็ต้องทำตามนั้น
**“ปลัดกลาโหม”ชี้จับกุมวิศวกรเกมการเมือง
ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวยืนยันอีกครั้งว่า แผนการบิน และเส้นทางการบินเป็นข้อมูลที่เปิดเผย คงไม่ใช่ประเด็นปัญหา อาจจะมีเรื่องการเมืองเข้ามาแทรกมากกว่า ส่วนกองทัพจะเข้ามาช่วยประสานปัญหาความไม่เข้าใจกันระหว่างไทย และ กัมพูชาหรือไม่นั้น ทางรัฐบาลยังไม่ได้ขอให้กองทัพเข้าไปดูแล กองทัพก็คงเฝ้าติดตามดู ทั้งนี้ สิ่งที่รัฐบาลการอยู่ จะเป็นวิธีการทูตที่ดำเนินการอยู่ ยังไม่ได้ผ่านกระทรวงกลาโหมให้ช่วยความสัมพันธ์ในส่วนของกองทัพทั้งสองประเทศ มีความใกล้ชิดกันอยู่แล้ว ก็คงพูดจากันได้อยู่
เมื่อถามว่า ประเด็นปัญหาเรื่องนี้ (จับกุมนายศิวรักษ์ โชติพงษ์ ) จะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวหรือไม่นั้น ก็คงต้องระมัดระวัง ต้องอดทน อดกลั้น เพราะ เป็นเรื่องของความรักชาติ รักศักดิ์ศรีของประเทศชาติ และพยายามไม่ให้มีผลกระทบหรือทำให้เกิดจุดอ่อนขึ้นมาได้
**'เติ้ง'หนุนมาร์คตอบโตทางการทูต
ด้านนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า เป็นห่วงความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา ไม่อยากให้บานปลาย เพราะมีผลกระทบหลายด้าน สิ่งที่สำคัญขอฝากไปยังทหารทุกคนต้องนิ่งและเงียบ และผู้นำระดับนายทหารควรประสานงานไปยังกัมพูชาด้วยว่า การเมืองก็ปล่อยไป แต่ระดับทหารไม่ยุ่งเกี่ยว โดยเฉพาะในเขตชายแดนระวังอย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ส่วนเรื่องการเมืองก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ หรือนายกฯคงจะไปดูว่าจะทำอย่างไร ทั้งนี้ตนเห็นว่าถ้าสามารถสร้างความเข้าใจกันได้ก็จะดี ซึ่งตนไม่อยากจะพูดมาก เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
**นศ.เขมรในไทยวอน 2 ปท.เจรจาปัญหา
ด้าน รศ.โกวิท เชื่อมกลาง อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า โครงการความร่วมมือเพื่อการศึกษาระหว่างไทย-กัมพูชา 2 โครงการ คือ โครงการนักเรียนทุนพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานทุนให้นักศึกษามหาวิทยาลัยกัมปงเชอร์เตียนและโครงการระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์กับมหาวิทยาลัยในพนมเปญ รวมถึงโครงการครู อาจารย์ในประเทศกัมพูชาที่มาศึกษาเพิ่มเติมในหลายสาขาวิชาในช่วงปิดภาคเรียน และมาพักที่หอพักในมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ขณะนี้ยังดำเนินไปด้วยดี แม้รัฐบาลทั้งสองประเทศลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต และนักศึกษาชาวกัมพูชาไม่มีความหวาดวิตกจนถึงกับต้องเดินทางกลับประเทศ
นายดุล เฉิน นักศึกษาชาวกัมพูชา ที่เดินทางเข้ามาศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ระบุว่า การมาศึกษาในไทยตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ได้รับความอบอุ่นเป็นกันเองจากคณะครู อาจารย์ และเพื่อนนักศึกษาไทยในทุกด้านเป็นอย่างดี เปรียบเหมือนญาติพี่น้อง และอยากให้ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์เป็นบ้านพี่เมืองน้องกันไปตลอด อยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายเจรจากันด้วยเหตุผล