“นศ.เขมร” มรภ.บุรีรัมย์วอนอย่าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว เร่งสางวิกฤต 2 ประเทศกลับมาเหมือนเดิม

บุรีรัมย์ - เผยโครงการความร่วมมือการศึกษาไทย-กัมพูชา มรภ.บุรีรัมย์ยังดำเนินไปด้วยดี ไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาล 2 ประเทศ ขณะที่นักศึกษาชาวกัมพูชาขอให้ความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้องกลับคืนมาเหมือนเดิม วอนทั้ง 2 ฝ่ายเจรจากันด้วยเหตุผลไม่ยึดผลประโยชน์ส่วนตนเป็นที่ตั้ง ควรคำนึงถึงประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ

วันนี้ (17 พ.ย.) รศ.โกวิท เชื่อมกลาง อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า กรณีรัฐบาลไทยกับกัมพูชา ได้ลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันจนเกิดสถานการณ์ตึงเครียดอยู่ในขณะนี้ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อโครงการความร่วมมือเพื่อการศึกษา ทั้ง 2 โครงการ คือ โครงการนักเรียนทุนพระราชทาน จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ได้ทรงพระราชทานทุนให้แก่นักศึกษาวิทยาลัยกัมปงเชอร์เตียน จ.กัมปงทม และ โครงการความร่วมมือทางด้านการศึกษาระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ กับวิทยาลัยในพนมเปญ ประเทศกัมพูชา

โดยได้ส่งนักศึกษาเข้ามาศึกษาในภาควิชาต่างๆ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ โครงการละ 10 คนต่อปี เพื่อให้นักศึกษาชาวกัมพูชาได้รับความรู้ด้านสาขาวิชาที่ขาดแคลน เช่น สาขาคอมพิวเตอร์ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ สาธารณสุขชุมชน และสาขาบรรณรักษ์ศาสตร์ หรือ สาขาสารสนเทศศาสตร์เป็นต้น เพื่อจะได้นำความรู้ไปปฏิบัติภารกิจหรือรับราชการในท้องถิ่นจังหวัดของตัวเอง ที่ประเทศกัมพูชาต่อไป

นอกจากนั้นยังมีครู อาจารย์จากมหาวิทยาลัยกัมปงเชอร์เตียน ประเทศกัมพูชา จำนวน 8 คน เดินทางมาศึกษาเพิ่มเติมในสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ในช่วงปิดภาคเรียน เพื่อนำทักษะความรู้ไปจัดการเรียนการสอนที่วิทยาลัยกัมปงเชอร์เตียนอีกด้วย

ทั้งนี้ครู อาจารย์ และนักศึกษาชาวกัมพูชา ที่มาศึกษายังได้มาพักอาศัยอยู่ที่หอพักในมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ดังกล่าวอีกด้วย และขณะนี้ก็ยังดำเนินชีวิตไปตามปกติ ทั้งด้านการศึกษาก็ยังดำเนินไปด้วยดี ไม่ได้มีผลกระทบ หรือเกิดความหวาดวิตก เดินทางกลับประเทศจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด

รศ.โกวิท กล่าวอีกว่า นักศึกษากัมพูชาที่มาศึกษาตามโครงการดังกล่าว างมหาวิทยาลัยฯ ให้สิทธิ์ทัดเทียมกับนักศึกษาไทยทุกคน โดยเฉพาะเรื่องการสมัครเป็นนายกองค์การนักศึกษา และคณะกรรมการการศึกษา ไม่ได้มีการแบ่งแยกแต่อย่างใด และในปีหน้าทางมหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ ยังได้แจ้งทางวิทยาลัยกัมปงเชอร์เตียน จะรับนักศึกษากัมพูชา 10 คน ใน 3 สาขา มีสาขาบริหารธุรกิจ สาขาสาธารณสุขชุมชน และสาขาภาษาอังกฤษ

“ที่ผ่านมาทางมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ได้ให้การศึกษากับนักศึกษาชาวกัมพูชาประสบผลสำเร็จ ไปประกอบอาชีพ และเป็นอาจารย์สอนในวิทยาลัยต่างๆ ในกัมพูชามาหลายรุ่นแล้ว ถือว่าเป็นความสำเร็จความของการร่วมมือทางด้านการศึกษาระหว่างทั้ง 2 ประเทศ” รศ.โกวิท กล่าว

ด้าน นายดุล เฉิน นักศึกษาชาวกัมพูชาที่เดินทางมาศึกษาสาขาภาควิชาภาษาอังกฤษ ศิลปศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ เปิดเผยระหว่างเดินทางมาซ้อมเตรียมรับปริญญาว่า การมาศึกษาในไทยตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ได้รับความอบอุ่นเป็นกันเองจากคณะครู อาจารย์ และเพื่อนนักศึกษาไทยในทุกด้านเป็นอย่างดี เปรียบเสมือนญาติพี่น้องกัน และอยากให้ทั้ง 2 ประเทศมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันอย่างบ้านพี่เมืองน้องเหมือนที่ผ่านมา

นายดุล เฉิน ยังกล่าวอีกว่า ได้สำเร็จการศึกษาที่มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์เมื่อปีที่ผ่านมา และปัจจุบันรับราชการอยู่ที่สถานทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ส่วนเรื่องการเมืองตนไม่ขอแสดงความคิดเห็น แต่สำหรับความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลไทยกับประเทศกัมพูชาที่เกิดขึ้นอยู่ในระหว่างนี้ ตนอยากให้ทั้ง 2 ประเทศได้เร่งเจรจาเพื่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ประเทศกลับคืนมาแน่นแฟ้นเหมือนอย่างที่ผ่านมา และไม่อยากให้มีการปิดด่านชายแดน ซึ่งจะส่งผลกระทบกับประชาชนทั้ง 2 ประเทศที่เคยเป็นบ้านพี่เมืองน้อย และค้าขายร่วมกันมาตลอด

“พร้อมขอเรียกร้องให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้เจรจากันด้วยเหตุและผล ไม่ควรยึดเอาผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่ตั้ง ควรคำนึงถึงประเทศชาติ และประชาชนเป็นสำคัญ” นายดุล เฉิน กล่าว