ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – ประธานหอฯสงขลา ประกาศดันตั้งกาสิโน ในรูปแบบเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แห่งแรกของไทย ที่สงขลา เผยผลสำรวจความเห็นคนในพื้นที่ ตอบรับ มั่นใจจะเรียกความเชื่อมั่นจากภาคการลงทุน การท่องเที่ยว และสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินคืนมา ขณะที่กลุ่มธุรกิจน้ำมันสนใจร่วมลงทุน กว่า 2 พันล้าน
เมื่อครั้งที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางมาพบปะผู้นำภาคธุรกิจในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในคราวนั้น ภาคเอกชนได้มีการเสนอขอให้เปิดกาสิโน หรือบ่อนการพนันที่ถูกกฎหมายในพื้นที่ ซึ่งจนถึงเวลานี้ รัฐบาลยังไม่ได้ให้คำตอบว่า จะไฟเขียวในการดำเนินโครงการนี้หรือไม่ แต่หอการค้าจ.สงขลา ภายใต้การนำของนายสุรชัย จิตภักดีบดินทร์ ยังยืนยันที่จะเดินหน้าโครงการนี้ต่อไป
ดร.สุรชัย จิตภักดีบดินทร์ ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า เรื่องการพนันทั้งหวยและบ่อน แม้เป็นเรื่องผิดกฎหมาย และเป็นหนึ่งในข้อห้ามที่พุทธศาสนิกชนควรปฏิบัติ ทว่ากลับคู่กับสังคมเมืองพุทธมานานและไม่สามารถห้ามปรามได้ เฉพาะตามแนวพรมแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านก็มีกาสิโนเกิดขึ้นประมาณ 20 แห่ง
ส่วนด้านที่ติดกับมาเลเซียและสิงคโปร์ ก็กำลังจะมีกาสิโนแห่งใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกในเร็วๆ นี้ ซึ่งยังไม่รวมบ่อนผิดกฎหมายภายในประเทศไทยเราที่มีอยู่ทุกจังหวัด การแก้ปัญหานั้นต้องนำขึ้นมาในที่สว่าง แล้วออกกติกาควบคุม ซึ่งรัฐจะได้ประโยชน์จากมาตรการภาษี เฉพาะที่เกาะมาเก๊าและฮ่องกงก็สามารถสร้างรายได้เลี้ยงประเทศจีนได้ถึง 5%
ดร.สุรชัย กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันต้องยอมรับว่าการท่องเที่ยวของเมืองหาดใหญ่หมดยุคของการเป็นแหล่งชอปปิ้งสินค้าราคาถูกไปนานแล้ว โดยเฉพาะความเป็นตลาดใหญ่ของสินค้าหนีภาษีที่เป็นที่รู้กันทั่วประเทศ เพราะในเวลานี้มีการทำลายกำแพงภาษีกันไปแล้ว ทำให้ทิศทางการท่องเที่ยวของหาดใหญ่จึงผูกยึดไว้กับธุรกิจสถานบันเทิงกลางคืน ซึ่งไม่มีความยั่งยืน ปัจจุบันนักลงทุนสถานบันเทิงก็ถอยทัพย้ายฐานไปบริเวณด่านนอก ใน อ.สะเดา จ.สงขลา อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบ และแม้จะมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ แต่ก็ไม่ได้รับพัฒนาและสร้างความแปลกใหม่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ในยามวิกฤต
สำหรับการผลักดันให้กาสิโนแห่งแรกของประเทศไทยให้เกิดขึ้นที่ จ.สงขลา เชื่อว่า จะสร้างแรงฉุดมหาศาลให้ระบบเศรษฐกิจของพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง โดยเฉพาะ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ดีขึ้น หลังจากที่ต้องซบเซาด้วยผลกระทบจากวิกฤตไฟใต้มานมนาน ให้กลายมาเป็นพื้นที่ปลอดภัย และเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางอากาศ
“ต่อไปกาสิโนจะเป็นจุดขายใหม่การท่องเที่ยวของ จ.สงขลา ที่จะรองรับลูกค้ากำลังซื้อสูงทั้งมาเลย์และสิงคโปร์ ต่อไปสงขลาซึ่งเป็นหัวเมืองชายแดน จะแตกต่างจากเมืองชายแดนในภาคตะวันตก ภาคอีสานและภาคเหนืออย่างสิ้นเชิง”
นอกจากนี้ ยังผนวกสร้างมิติใหม่ของการท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายใหม่ ด้วยการเป็นคอมเพล็กซ์แห่งความบันเทิงเสริมเพิ่มมูลค่า ทั้งสวนสนุก เปิดเอาต์เล็ตจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนม ซึ่งเป็นจุดบอดที่ภาคใต้ไม่เคยมี และส่งเสริมตลาดสินค้าโอทอปจากชุมชน ซึ่งจะเน้นคุณภาพและบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม สปา ร้านอาหารนานาชาติ ขณะที่ในตัวเมืองหาดใหญ่เป็นตัวเลือกหนึ่งที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการชอปปิ้ง โรงแรม รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในการพักค้างแรมด้านอื่นๆ ได้ควบคู่กันไปด้วย
ดร.สุรชัยเพิ่มเติมด้วยว่า ในเบื้องต้นได้มีการคิดถึงรูปแบบการดูแลผู้ที่จะเข้าไปเล่นกาสิโนว่า หากเป็นคนไทยก็จะต้องซื้อพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 200,000 บาท โดยไม่มีดอกเบี้ยเพื่อนำไปใช้เป็นหลักประกัน ส่วนคนต่างชาติใช้พาสปอร์ต และภายในจะให้แลกชิป ส่วนกำไรนำไปเสียภาษีให้รัฐบาล และก็จะมีการจ้างงานจำนวนมากซึ่งจะเน้นให้เป็นคนในพื้นที่และกลุ่มคนว่างงานเป็นอันดับต้นๆ
ในส่วนของพื้นที่ใน จ.สงขลาที่จะรองรับโครงการกาสิโน ที่ผ่านมามีการมองไว้ 3 แห่ง โดยเน้นพื้นที่ที่ถูกกันออกจากย่านตัวเมืองใหญ่คือ 1. บนเกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา แต่ติดขัดกับศักยภาพของพื้นที่ ซึ่งเหมาะสำหรับการเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม 2.บริเวณเขาคอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่สามารถสร้างกระเช้าลอยฟ้าควบคู่ไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ที่หลายฝ่ายเห็นว่ามีโอกาสเป็นไปได้สูงคือแห่งที่ 3. ที่ดินกรรมสิทธิ์ของเทศบาลนครหาดใหญ่ในเขตของ อบต.ทุ่งขมิ้น อ.นาหม่อม จ.สงขลา จำนวน517 ไร่ ซึ่งเทศบาลนครหาดใหญ่ซื้อไว้เพื่อเป็นสถานที่จัดเก็บและคัดแยกขยะมูลฝอย แต่เมื่อถูกชาวบ้านทุ่งขมิ้นต่อต้านจึงใช้ดำเนินโครงการเศรษฐกิจพอเพียงชั่วคราว
“ผมยังบอกรายละเอียดอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ ตอนนี้บอกได้แต่เพียงว่ามีกลุ่มทุนที่สนใจลงทุนทำกาสิโนในสงขลาแล้วคือ บริษัทน้ำมันของคนไทยแห่งหนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เม็ดเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท” ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลาเน้นย้ำและเสริมว่า
ที่ผ่านมาเคยมีรัฐบาลทำการสอบถามสังคม โดยเสนอให้ทำประชาพิจารณ์คนทั่วประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรม เพราะความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเฉพาะพื้นที่ ตนจึงไม่อยากให้คนอื่นที่ไม่เข้าใจมาคัดค้าน ดังนั้นหอการค้าจังหวัดสงขลาจึงได้มอบให้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ (มอ.หาดใหญ่) วิจัยเรื่องการสร้างกาสิโนและเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์แล้ว ซึ่งพบว่า คนในพื้นที่โดยเฉพาะในระดับผู้บริหารและนักธุรกิจให้การสนับสนุนถึง 80%
“เรื่องนี้ผมตั้งใจจะผลักดันให้ถึงที่สุด หรือจนกว่าผมเองจะหมดวาระในตำแหน่งประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา ซึ่งก็เหลือระยะเวลาอีกเพียงปีกว่าๆ เท่านั้น แต่หากผมยังได้ทำหน้าที่ประธานหอการค้าเขตของพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างต่อไป ผมก็จะเดินทางทำในเรื่องนี้อีกแน่นอน” ดร.สุรชัยกล่าวทิ้งท้าย
