ASTVผู้จัดการรายวัน - ไลฟ์ทีวี รุกหนัก สยายปีก อีก 7 ช่องปีหน้า ผ่านโมเดลร่วมพันธมิตรต่างประเทศ ล่าสุดส่งท้ายปลายปี เปิดตัวอย่างเป็นทางการอีก 4ช่อง มั่นใจเพิ่มสัดส่วนรายได้ เป็น 70% ให้ ไลฟ์ อิงค์ จากเดิมทำได้ 60% ในปีหน้า หรือดันให้มีรายได้ฟื้นตัวเกือบเท่าตัวแตะ 500 ล้านบาท พร้อมโกยกำไรเข้ากระเป๋า
นายวิชัย เบญจพลาพร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาพรวมธุรกิจเคเบิลทีวีของกลุ่มไลฟ์ อิงค์ เปิดให้บริการทั้งสิ้น 8ช่อง สร้างรายได้ให้กลุ่มเป็นสัดส่วนกว่า 60% โดยมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เห็นจากลูกค้าเอเจนซี่ที่ให้ความสนใจมาลงโฆษณาเพิ่มขึ้น
ดังนั้นทางบริษัทได้มีการศึกษาแนวทางการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยตามแผนการลงทุน ปีหน้าเตรียมที่จะเปิดให้บริการอีก 7ช่อง ส่งผลให้ในปี 2553 จะมีจำนวนช่องที่เปิดให้บริการทั้งสิ้น 15 ช่อง โดยโมเดลในการเพิ่มช่องครั้งนี้ จะเน้นเปิดช่องร่วมกับพันธมิตรหรือเจ้าของคอนเทนท์ เป็นการร่วมทุนทั้งกับผู้ประกอบการไทยและต่างประเทศ ซึ่งการขยายช่องรายการของไลฟ์ทีวีครั้งนี้ เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มสัดส่วนสร้างรายได้ให้ไลฟ์ อิงค์ เป็น 70% ในปีหน้า หรือช่วยให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกเกือบเท่าตัว จาก 300 ล้านบาทในสิ้นปีนี้ เป็น 500 ล้านบาทในปี 2553 ซึ่งถือเป็นปีที่บริษัทจะกลับมามีกำไรอีกครั้ง
นายกุลพงษ์ บุนนาค กรรมการผู้จัดการ บริษัทไลฟ์ ทีวี จำกัด กล่าวต่อว่า แนวทางการเปิดช่องรายการใหม่นี้ สำหรับไลฟ์ทีวีจะวางตัวเป็น คอนเทนท์ พาร์ทเนอร์ ร่วมกับเจ้าของคอนเทนท์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยจะเน้นพาร์ทเนอร์ต่างประเทศเป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางไลฟ์ทีวี ได้ทดลองเปิดตัวช่องใหม่ไปแล้วอีก 4ช่อง ซึ่งเป็นการลงทุนร่วมกับพาร์เนอร์ ส่งผลให้ปัจจุบัน ไลฟ์ทีวีมีทั้งสิ้น 8 ช่อง โดย ทั้ง 4ช่อง ได้แก่ 1.ช่อง มิราเคิล ร่วมกับบริษัทกันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) นำเสนอเรื่องเหลือเชื่อ ลึกลับ หลังจากออกอากาศ 1 เดือน มีเรทติ้งเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มผู้ชมอายุ 15 ปีขึ้นไป 2.ช่อง ฟุตบอล พลัส ร่วมกับ Yes TV บริษัทที่ได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลดิวิชั่น1 อังกฤษ พร้อมการถ่ายทอดสดการแข่งขันรายการ เดอะ แชมป์เปี้ยนชิพ และลีกเอิง ฝรั่งเศส
3.ช่อง เอิร์ธ (Earth) รายการสารคดี และ 4.ช่อง คลิกเอเชีย (Click Asia) นำเสนอซีรีย์ยอดนิยมจากเอเชีย ทั้งเกาหลี จีน ฮ่องกง และไต้หวัน โดยทั้ง2ช่องนี้ เป็นการร่วมทุนกับ บริษัท เอสทีจี มัลติมีเดีย จำกัด นอกจากนี้ในช่วงต้นปี 2553 ไลฟ์ทีวี จะเปิดช่องใหม่อีก 3ช่องด้วย ซึ่งรายละเอียดแต่ละช่องนั้น จะเป็นรายการเด็ก ,รายการทำอาหาร และรายการบันเทิง
นายกุลพงษ์ กล่าวด้วยว่า ภาพรวมเคเบิลทีวี ถือเป็นสื่อใหม่ หรือสื่อทางเลือกที่มีการเติบโตสูง ทั้งในแง่ของรายได้ที่มาจากโฆษณา ที่กลุ่มเอเจนซี่กำลังให้ความสนใจ เนื่องจากเป็นสื่อที่เข้าถึงกลุ่มผู้ชมได้มาก โดยมีฐานผู้ชมกว่า 3ล้านครัวเรือน อีกทั้งยังมีราคาถูก ซึ่งภาพรวมสื่อโฆษณาบนเคเบิลทีวีปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท ปีหน้าคาดว่าจะเพิ่มอีกเท่าตัว หรือกว่า 1,000 ล้านบาท
นายวิชัย เบญจพลาพร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาพรวมธุรกิจเคเบิลทีวีของกลุ่มไลฟ์ อิงค์ เปิดให้บริการทั้งสิ้น 8ช่อง สร้างรายได้ให้กลุ่มเป็นสัดส่วนกว่า 60% โดยมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เห็นจากลูกค้าเอเจนซี่ที่ให้ความสนใจมาลงโฆษณาเพิ่มขึ้น
ดังนั้นทางบริษัทได้มีการศึกษาแนวทางการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยตามแผนการลงทุน ปีหน้าเตรียมที่จะเปิดให้บริการอีก 7ช่อง ส่งผลให้ในปี 2553 จะมีจำนวนช่องที่เปิดให้บริการทั้งสิ้น 15 ช่อง โดยโมเดลในการเพิ่มช่องครั้งนี้ จะเน้นเปิดช่องร่วมกับพันธมิตรหรือเจ้าของคอนเทนท์ เป็นการร่วมทุนทั้งกับผู้ประกอบการไทยและต่างประเทศ ซึ่งการขยายช่องรายการของไลฟ์ทีวีครั้งนี้ เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มสัดส่วนสร้างรายได้ให้ไลฟ์ อิงค์ เป็น 70% ในปีหน้า หรือช่วยให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกเกือบเท่าตัว จาก 300 ล้านบาทในสิ้นปีนี้ เป็น 500 ล้านบาทในปี 2553 ซึ่งถือเป็นปีที่บริษัทจะกลับมามีกำไรอีกครั้ง
นายกุลพงษ์ บุนนาค กรรมการผู้จัดการ บริษัทไลฟ์ ทีวี จำกัด กล่าวต่อว่า แนวทางการเปิดช่องรายการใหม่นี้ สำหรับไลฟ์ทีวีจะวางตัวเป็น คอนเทนท์ พาร์ทเนอร์ ร่วมกับเจ้าของคอนเทนท์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยจะเน้นพาร์ทเนอร์ต่างประเทศเป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางไลฟ์ทีวี ได้ทดลองเปิดตัวช่องใหม่ไปแล้วอีก 4ช่อง ซึ่งเป็นการลงทุนร่วมกับพาร์เนอร์ ส่งผลให้ปัจจุบัน ไลฟ์ทีวีมีทั้งสิ้น 8 ช่อง โดย ทั้ง 4ช่อง ได้แก่ 1.ช่อง มิราเคิล ร่วมกับบริษัทกันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) นำเสนอเรื่องเหลือเชื่อ ลึกลับ หลังจากออกอากาศ 1 เดือน มีเรทติ้งเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มผู้ชมอายุ 15 ปีขึ้นไป 2.ช่อง ฟุตบอล พลัส ร่วมกับ Yes TV บริษัทที่ได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลดิวิชั่น1 อังกฤษ พร้อมการถ่ายทอดสดการแข่งขันรายการ เดอะ แชมป์เปี้ยนชิพ และลีกเอิง ฝรั่งเศส
3.ช่อง เอิร์ธ (Earth) รายการสารคดี และ 4.ช่อง คลิกเอเชีย (Click Asia) นำเสนอซีรีย์ยอดนิยมจากเอเชีย ทั้งเกาหลี จีน ฮ่องกง และไต้หวัน โดยทั้ง2ช่องนี้ เป็นการร่วมทุนกับ บริษัท เอสทีจี มัลติมีเดีย จำกัด นอกจากนี้ในช่วงต้นปี 2553 ไลฟ์ทีวี จะเปิดช่องใหม่อีก 3ช่องด้วย ซึ่งรายละเอียดแต่ละช่องนั้น จะเป็นรายการเด็ก ,รายการทำอาหาร และรายการบันเทิง
นายกุลพงษ์ กล่าวด้วยว่า ภาพรวมเคเบิลทีวี ถือเป็นสื่อใหม่ หรือสื่อทางเลือกที่มีการเติบโตสูง ทั้งในแง่ของรายได้ที่มาจากโฆษณา ที่กลุ่มเอเจนซี่กำลังให้ความสนใจ เนื่องจากเป็นสื่อที่เข้าถึงกลุ่มผู้ชมได้มาก โดยมีฐานผู้ชมกว่า 3ล้านครัวเรือน อีกทั้งยังมีราคาถูก ซึ่งภาพรวมสื่อโฆษณาบนเคเบิลทีวีปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท ปีหน้าคาดว่าจะเพิ่มอีกเท่าตัว หรือกว่า 1,000 ล้านบาท