xs
xsm
sm
md
lg

เชียงรายตั้งเป้าดึงจีนเข้าปีละล้าน เชื่อแผนจับมือ“หยุนหนัน”บูมท่องเที่ยวน้ำโขงได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมเกียรติ ชื่นธีระวงษ์
เชียงราย – เครือข่ายผู้ประกอบการนำเที่ยวเมืองพ่อขุนฯ ตั้งเป้าโกยนักท่องเที่ยวจีนปีละล้าน ย้ำผ่าน จนท.กระทรวงท่องเที่ยวฯทั่วไทย 76 จังหวัด ต้องระดมพลังทุกส่วนร่วมพัฒนาท่องเที่ยวไทย ให้รัฐเป็น “แบ็ก” – นักวิชาการทำหน้าที่ “บุ๋น” – ผู้ประกอบการเดินหน้า “บู๊” บุกตลาดเต็มที่ เชื่อโครงการลงนามเอ็มโอยูเชื่อมท่องเที่ยวหยุนหนัน จะทำให้การท่องเที่ยวภูมิภาคลุ่มน้ำโขงบูม

รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้จัดการประชุมใหญ่ประจำปี 2553 ครั้งที่ 1 ขึ้น ที่ห้องประชุมดอยตุง โรงแรมดุสิตไอส์แลนด์รีสอร์ท อ.เมือง จ.เชียงราย เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยมีท่องเที่ยวและกีฬาพร้อมเจ้าหน้าที่จากทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศเข้าร่วม เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจกับหน่วยงานในกระทรวงในหลากหลายเรื่อง รวมทั้งเปิดโอกาสให้ซักถามข้อสงสัยเกี่ยวกับการดำเนินการด้านต่างๆ ก่อนที่ ดร.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะมอบนโยบายในการปฏิบัติราชการแก่ผู้เข้าร่วมการประชุมทั้งหมด

นอกจากนี้ได้มีการจัดให้นายสมเกียรติ ชื่นธีระวงษ์ นายกสมาคมท่องเที่ยวเชียงรายและประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จ.เชียงราย ได้บรรยายเรื่องการทำงานร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกันด้วย

นายสมเกียรติ ระบุว่า แม้สมาคมท่องเที่ยวเชียงรายจะก่อตั้งมานานกว่า 23 ปีแต่กว่าจะเกิดความร่วมมือภายในภาคเอกชนและร่วมกับภาครัฐก็ใช้เวลานานมาก เพราะที่ผ่านมาต่างฝ่ายต่างทำงานโดยเฉพาะภาคเอกชนจะเน้นการค้าขายไม่ค่อยสนใจเรื่องการรวมตัวกันมากนัก และแม้ในปัจจุบันจะมีการรวมตัวกันเหนียวแน่นมากขึ้นแต่ก็มีประมาณ 200-300 ราย หรือประมาณ 90% ของผู้ประกอบการในพื้นที่ทั้งหมด ส่วนที่เหลืออีกราว 5% ไม่สนใจใดๆ และอีก 5% ทำตัวเป็นปัญหาและอุปสรรคของการพัฒนาในภาพรวม

ขณะที่ ยังมีเอกชนที่อยู่นอกระบบ คือ พวกที่ไม่จดทะเบียนธุรกิจใดๆ และทำธุรกิจท่องเที่ยวเอารัดเอาเปรียบคนที่ทำถูกต้องตามกฎหมายอีกนับร้อยราย

นายสมเกียรติ ได้บรรยายถึงแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวตามมุมมองของภาคเอกชนในสมาคมท่องเที่ยวเชียงรายและสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จ.เชียงราย ว่า ใช้สูตร 3:5:5 โดย 3 แรกคือมีแบ็ก บุ๋นและบู๊ โดยแบ็ก คือหน่วยงานสนับสนุนได้แก่ภาครัฐที่เกี่ยวข้อง บุ๋นคือกลุ่มนักวิชาการ และบู๊คือผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว หากจังหวัดใดมีครบทั้ง 3 สิ่งและร่วมมือกันเหนียวแน่นการพัฒนาการท่องเที่ยวจะประสบความสำเร็จ แต่หากขาดข้อใดข้อหนึ่งไปการพัฒนาก็ไม่บรรลุผลสำเร็จ

ขณะที่ 5 แรกคือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือเจ้าของสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งสำคัญมากเพราะหากไม่เข้ามามีส่วนร่วมผลประโยชน์ก็จะตกอยู่กับกลุ่มธุรกิจนำเที่ยวเพียงฝ่ายเดียว หากธุรกิจกลุ่มนี้ไม่นำนักท่องเที่ยวไปเยือนก็จะได้รับผลกระทบกันหมด

นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีชุมชนในพื้นที่ ผู้ประกอบการในพื้นที่ กลุ่มนักวิชาการ กลุ่มข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ส่วน 5 สุดท้ายคือบันได 5 ขั้น คือ ขั้นแรกสร้างกองทัพคือรวมกลุ่มทั้งภาครัฐและเอกชนทั้งหมดให้ได้ ขั้นที่สองคือแบ่งกลุ่มหรือ Cluster สร้างสินค้า ทดสอบสินค้า และสุดท้ายคือนำสินค้าที่ได้ทำการตลาดร่วมกัน ซึ่งตนอยากให้ทุกจังหวัดดำเนินการตามนี้ โดยมีหน่วยงานภาครัฐคือสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเป็นผู้ผลักดัน เพื่อให้เกิดการพัฒนาร่วมกันในทุกๆ จังหวัดทั่วประเทศ เพราะหลายๆ จังหวัดมีศักยภาพด้านพื้นที่ แต่เสียดายที่ไม่มีการร่วมมือกัน

สำหรับ จ.เชียงราย ในปัจจุบันได้มีการพัฒนามาถึงขั้นการตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดแล้ว โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานและมีกรรมการฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น หอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด สมาคมท่องเที่ยวจังหวัด สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัด ฯลฯ เป้าหมายในปัจจุบันคือการร่วมมือกับมณฑลหยุนหนัน จีนตอนใต้ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกัน แต่ที่ผ่านมาติดขัดปัญหาเรื่องเจ้าภาพหรือคณะกรรมการฝ่ายจีนตอนใต้ แต่ได้รับแจ้งว่าจะมีความพร้อมในการลงนามความร่วมมือหรือ MOU เชียงราย-จีนตอนใต้ โดยในส่วนของ จ.เชียงราย จะมีสมาคมท่องเที่ยวเป็นผู้ลงนามในปลายเดือนพฤศจิกายนนี้

“ปัญหาของเราคือเรายังไม่เคยทราบเลยว่าปัจจุบันมีคนจีนมาเยือนประเทศไทยผ่าน จ.เชียงราย กี่คน แต่มีตัวเลขว่าคนไทยไปเยือนจีนตอนใต้ผ่านเชียงรายปีละกว่า 60,000 คน ขณะที่มณฑลหยุนหนัน มีประชากรราว 42 ล้านคน และมีนักท่องเที่ยวจากมณฑลต่างๆ ทั่วประเทศจีนไปเยือนปีละกว่า 25 ล้านคน เราขอเพียงปีละ 1 ล้านคนให้มาเยือนเชียงรายก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว" นายสมเกียรติ กล่าวและว่า มีคนถามว่าเหตุใดจึงตั้งเป้าเอาไว้สูงถึง 1 ล้านคนเพราะเราเริ่มต้นจาก 0% ดังนั้นไม่ว่าตัวเลขที่ได้จะถึงระดับใดก็ถือว่าเราประสบความสำเร็จแล้ว

เขาบอกว่า การดำเนินการร่วมกันระหว่างเชียงราย-จีนตอนใต้ ก็ใช้หลักการเดียวกันคือต้องมีการรวมตัวกันและจัดหาเจ้าภาพร่วมกันก่อนจะแบ่งกลุ่มต่างๆ เพื่อจัดทำเป็นผลิตภัณฑ์ คือ สถานที่ท่องเที่ยว เส้นทางท่องเที่ยว ฯลฯ เพราะหากว่าต่างฝ่ายต่างทำก็สามารถทำได้แต่ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรต่อพื้นที่เชียงราย แต่กลุ่มทุนใหญ่ๆ ที่มีความพร้อมจะได้ประโยชน์มากกว่า แต่หากว่าเชียงรายและจีนตอนใต้ร่วมมือกัน เราก็จะมีผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอขายไปยังกลุ่มลูกค้าได้เอง ซึ่งเราตั้งเป้าเอาไว้ว่าไม่ใช่แค่การดึงนักท่องเที่ยวชาวจีนมาเยือนเชียงราย แต่หมายถึงการท่องเที่ยวในกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง( GMS )คือไทย จีน สปป.ลาว พม่า ก่อนในอนาคตจึงค่อยขยายไปยังเวียดนาม กัมพูชา ประโยชน์ก็จะเกิดกับทุกประเทศโดยมีกลุ่มเป้าหมายคือชาวจีน คนไทย และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกโดยเฉพาะจากตะวันตก
กำลังโหลดความคิดเห็น