วานนี้ (16พ.ย.) นายโลมิรันดร์ บุตรจันทร์ ที่ปรึกษาเครือข่ายทนายความต่อต้านคอร์รัปชันแห่งชาติ ในฐานะศิษเก่าคณะนิติศาสตร์รามคำแหง เข้ายื่นหนังสือกับนายวัชระ เพรชทอง ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ที่รัฐสภา เพื่อยื่นต่อให้นายชัย ชิดชอบ ประสภาผู้แทนราษฎร ดำเนินการกับสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่เดินทางไปต้อนรับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่กัมพูชา ในช่วงสมัยประชุมที่ผ่านมา เป็นสาเหตุให้การประชุมสภาล่ม ซึ่งการกระทำของสมาชิกพรรคเพื่อไทยดังกล่าวไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้แถลงไว้ก่อนเข้าดำรงตำแหน่ง ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ที่สมาชิกสภามีหน้าที่นิติบัญญัติ ไม่ใช่เดินทางออกนอกประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้หนังสือเดินทางของราชการแสดงตนว่าไปราชการ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 145 และ พ.ร.บ.ป.ป.ช.มาตรา 123 และการส่งเสริมสนับสนุนนักโทษหนีอาญาแผ่นดิน มีความผิดตามมาตรา 189 และเป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญปี 2550
นายโลมิรันดร์ กล่าวด้วยว่า การยื่นหนังสือครั้งนี้ ต้องการให้ประธานรัฐสภาดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป โดยส่งเรื่องให้ ผบ.ตร. ดำเนินคดีตรวจสอบการเดินทางออกนอกประเทศของสมาชิกพรรคเพื่อไทย อย่างเร่งด่วนภายใน 7 วัน หากยังเพิกเฉย เครือข่ายทนายความต่อต้านคอร์รัปชันแห่งชาติ จะดำเนินการกับประธานสภาในข้อหาสนับสนุนผู้กระทำความผิดต่อไป
ด้านนายวัชระ กล่าวว่าจะนำข้อร้องเรียนดังกล่าวยื่นต่อประธานสภาผู้แทนภายในวันนี้ แม้ว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทยจะอ้างว่าได้ส่งหนังสือลาราชการแจ้งให้ประธานสภาทราบแล้วก็ตาม แต่เหตุใดไม่ใช้หนังสือเดินทางส่วนตัวที่เป็นเล่มสีแดง แต่กลับใช้หนังสือเดินทางเล่มสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นหนังสือที่แสดงว่า ไปปฏิบัติหน้าที่ราชการต่างประเทศ ทั้งนี้ ตนจะขอให้ประธานสภาตรวจสอบ ส.ส.ทุกพรรคที่เดินทางไปต่างประเทศในช่วงสมัยประชุมสภาที่ผ่านมาจนทำให้สภาล่ม
นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า ส.ส.ประชาธิปัตย์ เอาส่วนไหนคิด ที่ว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทย โดดการประชุมสภาฯไปเยี่ยม พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ว่ามีความผิดทางอาญา มาตรา 157 ว่า วันที่มีการประชุมสภาร่วม พวกเขาไม่มาประชุม เขาไม่ทำหน้าที่ ก็ถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยใช้เวลาราชการ และไม่มีการลาประชุม หนำซ้ำยังเดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ขออนุญาตจากประธานรัฐสภาด้วย ก็ถือว่าเป็นเหตุทำให้ทางราชการได้รับความเสียหายชัดเจน ตามมาตรา 157 คือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และตนรู้มาว่า วันนี้นายสุรพงษ์ กำลังอกสั่นขวัญหายเพราะโดดการประชุมสภาจริง เพราะเป็นอาการของคนทำชั่วแล้วยังมาแก้ตัวข้างๆ คูๆ เพราะที่ผ่านมานายสุรพงษ์ เองได้ใช้กระบวนการยุติธรรมฟ้องร้องคนอื่นมามากมาย พอตัวเองทำผิด ก็มาตะแบง
"เราใช้สมองส่วนที่มีต่อม คุณธรรม จริยธรรม คิดว่า เป็นส.ส.ต้องทำหน้าที่แทนประชาชน และชาวบ้านที่เขาเลือกเรามาเป็นปากเสียงแทนเขา และขอฝากถามไปยังนายใหญ่ของนายสุรพงษ์ ที่ดูไบด้วยว่า สมัยเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เพราะพระยาจักรีเป็นไส้ศึก เปิดประตูเมืองให้พม่าปล้นบ้านเผาเมืองตัวเอง จนวอดวาย แต่สุดท้ายพม่าก็สั่งฆ่าคนทรยศต่อชาติบ้านเมืองของตัวเอง ทั้งหมดเป็นเรื่องจริงมีจารึกในประวัติศาสตร์ชาติไทย ขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ดูเองว่าคนที่มีพฤติกรรมอย่างนายสุรพงษ์ ที่วันหนึ่งเมื่ออยู่พรรคประชาธิปัตย์ เคยด่าพ.ต.ท.ทักษิณชนิดไม่เผาผี แต่พอย้ายไป ก็ยื่นเรื่องร้องให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ว่า คนอย่างนี้หรือที่จะเอาไว้ใกล้ตัว หรือเพราะพฤติกรรมของทั้งสองคนใกล้เคียงกัน เพียงแต่ต่างกรรมต่างวาระที่ทำกับชาติบ้านเมือง จึงอยู่ด้วยกันได้" นายสมบูรณ์กล่าว
นายโลมิรันดร์ กล่าวด้วยว่า การยื่นหนังสือครั้งนี้ ต้องการให้ประธานรัฐสภาดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป โดยส่งเรื่องให้ ผบ.ตร. ดำเนินคดีตรวจสอบการเดินทางออกนอกประเทศของสมาชิกพรรคเพื่อไทย อย่างเร่งด่วนภายใน 7 วัน หากยังเพิกเฉย เครือข่ายทนายความต่อต้านคอร์รัปชันแห่งชาติ จะดำเนินการกับประธานสภาในข้อหาสนับสนุนผู้กระทำความผิดต่อไป
ด้านนายวัชระ กล่าวว่าจะนำข้อร้องเรียนดังกล่าวยื่นต่อประธานสภาผู้แทนภายในวันนี้ แม้ว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทยจะอ้างว่าได้ส่งหนังสือลาราชการแจ้งให้ประธานสภาทราบแล้วก็ตาม แต่เหตุใดไม่ใช้หนังสือเดินทางส่วนตัวที่เป็นเล่มสีแดง แต่กลับใช้หนังสือเดินทางเล่มสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นหนังสือที่แสดงว่า ไปปฏิบัติหน้าที่ราชการต่างประเทศ ทั้งนี้ ตนจะขอให้ประธานสภาตรวจสอบ ส.ส.ทุกพรรคที่เดินทางไปต่างประเทศในช่วงสมัยประชุมสภาที่ผ่านมาจนทำให้สภาล่ม
นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า ส.ส.ประชาธิปัตย์ เอาส่วนไหนคิด ที่ว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทย โดดการประชุมสภาฯไปเยี่ยม พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ว่ามีความผิดทางอาญา มาตรา 157 ว่า วันที่มีการประชุมสภาร่วม พวกเขาไม่มาประชุม เขาไม่ทำหน้าที่ ก็ถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยใช้เวลาราชการ และไม่มีการลาประชุม หนำซ้ำยังเดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ขออนุญาตจากประธานรัฐสภาด้วย ก็ถือว่าเป็นเหตุทำให้ทางราชการได้รับความเสียหายชัดเจน ตามมาตรา 157 คือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และตนรู้มาว่า วันนี้นายสุรพงษ์ กำลังอกสั่นขวัญหายเพราะโดดการประชุมสภาจริง เพราะเป็นอาการของคนทำชั่วแล้วยังมาแก้ตัวข้างๆ คูๆ เพราะที่ผ่านมานายสุรพงษ์ เองได้ใช้กระบวนการยุติธรรมฟ้องร้องคนอื่นมามากมาย พอตัวเองทำผิด ก็มาตะแบง
"เราใช้สมองส่วนที่มีต่อม คุณธรรม จริยธรรม คิดว่า เป็นส.ส.ต้องทำหน้าที่แทนประชาชน และชาวบ้านที่เขาเลือกเรามาเป็นปากเสียงแทนเขา และขอฝากถามไปยังนายใหญ่ของนายสุรพงษ์ ที่ดูไบด้วยว่า สมัยเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เพราะพระยาจักรีเป็นไส้ศึก เปิดประตูเมืองให้พม่าปล้นบ้านเผาเมืองตัวเอง จนวอดวาย แต่สุดท้ายพม่าก็สั่งฆ่าคนทรยศต่อชาติบ้านเมืองของตัวเอง ทั้งหมดเป็นเรื่องจริงมีจารึกในประวัติศาสตร์ชาติไทย ขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ดูเองว่าคนที่มีพฤติกรรมอย่างนายสุรพงษ์ ที่วันหนึ่งเมื่ออยู่พรรคประชาธิปัตย์ เคยด่าพ.ต.ท.ทักษิณชนิดไม่เผาผี แต่พอย้ายไป ก็ยื่นเรื่องร้องให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ว่า คนอย่างนี้หรือที่จะเอาไว้ใกล้ตัว หรือเพราะพฤติกรรมของทั้งสองคนใกล้เคียงกัน เพียงแต่ต่างกรรมต่างวาระที่ทำกับชาติบ้านเมือง จึงอยู่ด้วยกันได้" นายสมบูรณ์กล่าว