xs
xsm
sm
md
lg

เจ้ามูลเมืองเหยียบเขมร ผนึกคู่หูทรราชโค่น”มาร์ค”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


และแล้ว นช.ทักษิณ ชินวัตร ก็ใช้เครื่องบินเจ็ทส่วนตัวเดินทางเหยียบแผ่นดินกัมพูชาของ “สมเด็จฯ ฮุนเซน” จริงๆ อย่างที่เคยประกาศเอาไว้เมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา ท่ามกลางการอารักขาอย่างเข้มงวดของทหารหน่วยพิเศษตลอดเส้นทางเข้าสู่กรุงพนมเปญ

การเหยียบแผ่นดินกัมพูชาของนช.ทักษิณคือสิ่งที่เขาต้องการประกาศต่อรัฐบาลไทยว่า “กระผมนายทักษิณไม่กลัวคุณ” หรือไม่ก็ต้องการบอกว่า “กระผม นายทักษิณมาอยู่ที่เขมรแล้ว คุณอภิสิทธิ์มีปัญญาลากคอกลับไปดำเนินคดีไหม” เพราะเขารู้อยู่แล้วว่า รัฐบาลของสมเด็จฯ ฮุนเซน ไม่มีวันที่จะส่งตัวกลับไปรับโทษตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่มีต่อกัน ซึ่งในที่สุดก็เป็นไปตามนั้น เพราะเมื่อกระทรวงการต่างประเทศส่งหนังสือขอตัวนายใหญ่แห่งดูไบ รัฐบาลกัมพูชาก็ปฏิเสธอย่างทันควัน

การเหยียบแผ่นดินกัมพูชาของนช.ทักษิณเป็นยุทธศาสตร์และการเคลื่อนไหวทางการเมืองตามแผนโลกล้อมประเทศ เพื่อต้องการประกาศให้โลกเห็นว่า ขณะที่ประเทศไทยไม่ต้องการเขา คนกัมพูชากลับต้องการให้เขาเข้ามาช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

ขณะที่ “กุ๊ยการเมือง” อย่างฮุนเซน ก็เล่นสมบทบาทด้วยการขนวงศ์วานว่านเครือมาให้การต้อนรับอย่างสมเกียรติ ยิ่ง “นางบุญ รานี” ภริยาของฮุนเซนด้วยแล้วยิ่งชัดเจน เพราะเธอลงทุนใส่เสื้อสีแดงมาให้การต้อนรับเลยทีเดียว

ก่อนที่ นช.ทักษิณจะเหยียบแผ่นดินกัมพูชาเพียง 1 วัน ฮุนเซนได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่ห้องรับรองพิเศษท่าอากาศยานนานาชาติกรุงพนมเปญภายหลังเดินทางกลับจากการเข้าร่วมประชุมกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขงที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นโจมตีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทยด้วยถ้อยคำที่รุนแรงว่า “....การแก้เรื่องนี้ต้องแก้ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของเรื่อง ในเมื่อเรื่องนี้เกี่ยวขอ้งกับทักษิณ ก็ต้องไล่แก้ตั้งแต่ทักษิณมาเลย ตั้งแต่เรื่องการปฏิวัติเมื่อ 19 กันยายน 2549 ถ้าอภิสิทธิ์เก่งจริงก็ขอให้เลือกตั้งใหม่สิ ท่านกลัวอะไรหรือ หรือว่ากลัวที่จะไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีหรืออย่างไร หรือว่ากลัวพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้ง ผมเองเป็นนายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้รับเสียงสนับสนุนถึง 2/3 ของสภากัมพูชา แล้ว “ท่านอภิสิทธิ์” ได้รับเท่าไหร่กันหรือ ขโมยเก้าอี้เขามานั่ง ขโมยของของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง จะให้เคารพได้อย่างไร...”

“การตั้งทักษิณเพียงคนเดียว ไม่เกี่ยวกับไทย ผมเคยบอกอภิสิทธิ์ในการพบกันแล้วว่า ทักษิณเป็นเพื่อนของผม เพื่อนไม่สามารถหักหลังเพื่อนได้ ไม่สามารถโยนเพื่อนให้เสือกินได้หรอก ดังนั้น อยากฉีกอะไรทิ้งก็ฉีกไปเลย อยากปิดอะไรก็ปิดไปเถิด เพราะถ้าปิดคงจะไม่สะดวก แล้วเห็นทีต้องถอนกำลังทหาร 911(หน่วยรบพิเศษ) ของกัมพูชาออกภายในหนึ่งสัปดาห์ดีกว่า เพราะว่าใช้กำลังเพียงนิดๆ หน่อยก็พอ(ที่จะสู้กับไทย) แล้ว

ฮุน เซน ทำตัวราวกับว่าตนเองดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ท้าทายให้นายอภิสิทธิ์ ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ทิ่มแทงถึงขนาดว่าอภิสิทธิ์ไปขโมยเก้าอี้เขามานั่ง วาจาสามหาวกร้าวร้าวข้ามประเทศของ ฮุน เซน ไม่เพียงเหยียดหยามนายกฯ อภิสิทธิ์ เท่านั้น เขายังแต่เหยียบย่ำศักดิ์ศรีของประเทศไทย และกระบวนการศาลของไทยซึ่งพิพากษาคดีภายใต้พระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ อีกด้วย

“เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมของไทยนั้นไม่ได้มีคุณค่าอะไรนักหนาที่ควรแก่การให้ความเคารพเลย” คำพูดของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวพาดพิงสถาบันตุลาการของไทย ซ้ำยังยกเรื่องอดีตมากล่าวหาว่าไทยละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศที่ลงนามไม่สนับสนุนเขมรแดง ลงนามสันติภาพ แต่ให้ที่พำนักในไทยแก่ เขียว สัมพัน และ นวน เจีย ผู้นำเขมรแดง

“ถ้า ทักษิณ ตั้งกองกำลังอยู่ในดินแดนกัมพูชา จะว่าอย่างไรบ้างล่ะ แต่เราไม่ทำเช่นนั้นหรอกแค่ให้เป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจเท่านั้น...ขอให้คนไทยดูไว้ กฎหมายระหว่างประเทศยังไม่เคารพเลย จะให้เราเคารพกฎหมายไทยได้อย่างไร”

ฮุน เซน ยังกระหน่ำซ้ำ อภิสิทธิ์ ว่ามีปัญหาท่วมหัว อาจตายได้ มีปัญหากับเพื่อนบ้านทั้งหมด มีปัญหาภาคใต้ ปัญหาเสื้อเหลือง เสื้อแดง เสื้อน้ำเงิน เสื้อขาว “กัมพูชาจะต้องเคารพอะไรไทยหรือ การแต่งตั้งทักษิณ (เป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจของกัมพูชา) เพียงคนเดียว ไม่เกี่ยวกับไทย…..”

การแสดงออกถึงความคั่งแค้นของฮุน เซน ที่ยกเรื่องราวตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมาโจมตีไทยอย่างรุนแรง โดยไม่ได้คำนึงถึงแนวปฏิบัติของนานาอารยประเทศที่ผู้นำไม่ควรปฏิบัติต่อมิตรประเทศนั้น เป็นการป่าวประกาศให้โลกได้รู้อย่างชัดแจ้งโดยไม่ปิดบังอำพรางต่อไปแล้วว่า ไม่มีวันที่กัมพูชาและไทย จะญาติดีกันได้ตราบใดที่ผู้นำรัฐบาลไทยยังชื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

ฮุนเซนคือแนวร่วมคนเสื้อแดงที่ต้องการล้มรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์

หรือถ้าจะพูดให้ตรงๆ ชัดๆ ก็คือ ฮุน เซน ไม่สามารถเจรจาแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ใดๆ กับรัฐบาลไทยภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์เหมือนกับสมัยรัฐบาลทักษิณ ดังนั้นการร่วมมือกับทักษิณโค่นล้มรัฐบาลประชาธิปัตย์ จึงเป็นหนทางเดียวที่ผู้นำกัมพูชาเลือกเดินโดยไม่สนว่าจะเกิดอะไรขึ้นดังคำให้สัมภาษณ์ของเขาที่ว่า “….เราจะไม่หยุดเช่นกัน ไม่ยอมอย่างเด็ดขาด” จะว่าไปแล้ว อาการเกรี้ยวกราดทั้งหลายทั้งปวงของ ฮุน เซน อาจกล่าวได้ว่าเป็นผลมาจากการถูก “ทุบหม้อข้าว” ใบใหญ่ ที่คู่หูทรราช ร่วมหวังตักตวงโดยแท้ ไม่ว่าจะเป็นกรณีปราสาทพระวิหาร หรือ การพัฒนาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา

สังเกตจากอาการเบรกแตกของ ฮุน เซน เกิดขึ้นทันทีที่ อภิสิทธิ์ สั่งให้ยกเลิกบันทึกความเข้าใจไทย-กัมพูชาว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน ฉบับวันที่ 18 มิถุนายน 2544 (MOU) ขณะที่มีปัญหาปราสาทพระวิหารคุกรุ่นอยู่ก่อนแล้ว เพราะถึงเวลานี้เป็นที่ชัดแจ้งว่า อย่างไรเสีย ฮุน เซน คงไม่สามารถจัดทำรายละเอียดขอบเขตพื้นที่พัฒนารอบปราสาทพระวิหารส่งให้ยูเนสโกพิจารณาได้ทันตามกำหนดภายในเดือนก.พ.ปี 2553 เป็นแน่แท้ ทหารยังคงตรึงกำลังกันอยู่ และต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่พิพาท 4.6 ตร.กม. โอกาสที่ปราสาทพระวิหารจะเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์แน่แท้ ยิ่งห่างไกล ความขุ่นเคืองนายอภิสิทธิ์ ของฮุน เซน ยิ่งสุมแน่นหัวอก

ขณะที่ตัว นช.ทักษิณเองก็ร่วมผสมโรงทำลายชาติ ทำลายแผ่นดินเกิดของตนเองอย่างไม่สำนึกในข้าวแดงแกงร้อน ในการปาฐกถาที่กระทรวงเศรษฐกิจและการคลังกัมพูชาเมื่อวันที่ 12 พ.ย. ผู้ร้ายหนีคดีผู้นี้ได้ประนามกระแสการรักชาติของคนไทยที่เพิ่มสูงขึ้นในขณะนี้ว่า “ผมได้เห็นความประสานกลมกลืนกันอย่างมากมาย ระหว่างประเทศของคุณกับประเทศของผม สิ่งไหนที่ดีต่อประเทศของคุณก็ดีกับประเทศของผมด้วย แน่นอนไม่ใช่ว่าเพื่อนร่วมชาติทุกคนจะมองเห็นไปในทางเดียวกันขณะนี้ ผมไม่เชื่อว่าพวกที่ไม่เห็นด้วยกับวิสัยทัศน์ของเราขณะนี้เป็นพวกสายตาสั้น พลังขับดันทางการเมืองภายในของพวกเขา ทำให้พวกเขาเกิดการรักชาติแบบผิดๆ ขอให้ช่วยกันสวดมนต์อ้อนวอนให้พวกเขา หวังว่าสักวันหนึ่งจะทราบซึ้งในการเป็นหุ้นส่วนเพื่อสิ่งที่ดีที่สุด”

เวลานี้ นช.ทักษิณคงกระหยิ่มยิ้มย่องที่เข้ากัมพูชาได้สำเร็จโดยที่รัฐบาลไทยไม่สามารถลากคอมาดำเนินคดีได้

ขณะที่ฮุนเซนเองก็คงกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจว่า ประเทศเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความยากจนและการคอรัปชั่นอย่างกัมพูชาสามารถเขย่าเสถียรภาพของรัฐบาลไทยที่ครั้งหนึ่งเคยเหนือกว่าในทุกๆ ด้านได้เป็นผลสำเร็จ

ศึกโค่นล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ ของคู่หูทรราช จะมีจุดจบลงเอยเช่นใด เมื่อต่างฝ่ายต่างมีเดิมพันสูงทั้งคู่ โปรดติดตาม !!
กำลังโหลดความคิดเห็น