ASTVผู้จัดการรายวัน-กนศ.กำหนดท่าทีไทยเจรจาฟิลิปปินส์ชดเชยเปิดเสรีข้าว ขีดเส้นต้องให้โควตาไทยไม่ต่ำกว่า 4 แสนตัน หากไม่ได้ตามนี้ไม่ยอม พร้อมตั้งคณะทำงานศึกษาชะลอการเปิดเสรีลงทุน 3 กิจการ การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การทำไม้จากป่าปลูก และการเพาะขยายหรือปรับปรุงพันธุ์พืช
+++แหล่งข่าวจากคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) เปิดเผยว่า กนศ. ได้มีมติกำหนดท่าทีให้กับไทยในการเจรจากับฟิลิปปินส์ เพื่อขอชดเชยกรณีที่ฟิลิปปินส์ไม่ยอดลดภาษีนำเข้าข้าวภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) โดยยืนยันว่าหากจะให้ไทยยอมรับกับการชะลอการปฏิบัติตามพันธกรณีดังกล่าว
ฟิลิปปินส์จะต้องชดเชยโดยกำหนดโควตานำเข้าข้าวให้กับไทยปีละไม่ต่ำกว่า 4 แสนตัน ซึ่งถือเป็นปริมาณที่เหมาะสม โดยเป็นการคำนวนจากปริมาณการส่งออกเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง หากได้ต่ำกว่านี้ ไทยก็จะไม่ยอม
+++ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์ได้ขอชะลอการลดภาษีข้าวภายใต้ AFTA โดยไม่ยอมลดภาษีข้าวที่ปัจจุบันเรียกเก็บอยู่ที่ 40% ลงเหลือ 20-25% ในปี 2558 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ทำให้ไทยซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ต้องเจรจาเพื่อให้ฟิลิปปินส์ชดเชยให้กับไทย โดยหลังจากที่กนศ. มีมติกำหนดท่าทีไทยออกมา นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์
ได้มีกำหนดการเดินทางไปฟิลิปปินส์เพื่อเจรจากับฟิลิปปินส์ในเร็วๆ นี้
+++นายเกียรติ สิทธีอมร ประธานผู้แทนการค้าไทย กล่าวว่า กนศ. ยังได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 คณะ มีสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เป็นเจ้าภาพ เพื่อพิจารณาทบทวนการเปิดเสรีการลงทุนใน 3 กิจการ ได้แก่ การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การทำไม้จากป่าปลูก และการเพาะขยายหรือปรับปรุงพันธุ์พืช ที่จะมีการเปิดเสรีตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2553
ตามพันธกรณีความตกลงว่าด้วยการลงทุนอาเซียน (AIA)
+++“กนศ. เห็นว่าควรจะชะลอการเปิดเสรีการลงทุน ใน 3 กิจการที่ไทยยังไม่พร้อมออกไปก่อน แต่จะชะลอออกไปได้มากน้อยแค่ไหน คณะทำงานที่ตั้งขึ้นจะเป็นผู้กำหนดรายละเอียดออกมา และเท่าที่ทราบหลายๆ ประเทศก็มีความไม่พร้อมในการเปิดเสรีด้านการลงทุน ซึ่งเมื่อไทยได้ท่าทีและเหตุผลที่ชัดเจนแล้ว ก็คงต้องกลับไปนั่งโต๊ะเจรจากันใหม่ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ หลายๆ องค์กรที่มีความเป็นห่วง ก็สบายใจได้”นายเกียรติกล่าว.
+++แหล่งข่าวจากคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) เปิดเผยว่า กนศ. ได้มีมติกำหนดท่าทีให้กับไทยในการเจรจากับฟิลิปปินส์ เพื่อขอชดเชยกรณีที่ฟิลิปปินส์ไม่ยอดลดภาษีนำเข้าข้าวภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) โดยยืนยันว่าหากจะให้ไทยยอมรับกับการชะลอการปฏิบัติตามพันธกรณีดังกล่าว
ฟิลิปปินส์จะต้องชดเชยโดยกำหนดโควตานำเข้าข้าวให้กับไทยปีละไม่ต่ำกว่า 4 แสนตัน ซึ่งถือเป็นปริมาณที่เหมาะสม โดยเป็นการคำนวนจากปริมาณการส่งออกเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง หากได้ต่ำกว่านี้ ไทยก็จะไม่ยอม
+++ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์ได้ขอชะลอการลดภาษีข้าวภายใต้ AFTA โดยไม่ยอมลดภาษีข้าวที่ปัจจุบันเรียกเก็บอยู่ที่ 40% ลงเหลือ 20-25% ในปี 2558 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ทำให้ไทยซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ต้องเจรจาเพื่อให้ฟิลิปปินส์ชดเชยให้กับไทย โดยหลังจากที่กนศ. มีมติกำหนดท่าทีไทยออกมา นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์
ได้มีกำหนดการเดินทางไปฟิลิปปินส์เพื่อเจรจากับฟิลิปปินส์ในเร็วๆ นี้
+++นายเกียรติ สิทธีอมร ประธานผู้แทนการค้าไทย กล่าวว่า กนศ. ยังได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 คณะ มีสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เป็นเจ้าภาพ เพื่อพิจารณาทบทวนการเปิดเสรีการลงทุนใน 3 กิจการ ได้แก่ การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การทำไม้จากป่าปลูก และการเพาะขยายหรือปรับปรุงพันธุ์พืช ที่จะมีการเปิดเสรีตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2553
ตามพันธกรณีความตกลงว่าด้วยการลงทุนอาเซียน (AIA)
+++“กนศ. เห็นว่าควรจะชะลอการเปิดเสรีการลงทุน ใน 3 กิจการที่ไทยยังไม่พร้อมออกไปก่อน แต่จะชะลอออกไปได้มากน้อยแค่ไหน คณะทำงานที่ตั้งขึ้นจะเป็นผู้กำหนดรายละเอียดออกมา และเท่าที่ทราบหลายๆ ประเทศก็มีความไม่พร้อมในการเปิดเสรีด้านการลงทุน ซึ่งเมื่อไทยได้ท่าทีและเหตุผลที่ชัดเจนแล้ว ก็คงต้องกลับไปนั่งโต๊ะเจรจากันใหม่ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ หลายๆ องค์กรที่มีความเป็นห่วง ก็สบายใจได้”นายเกียรติกล่าว.