นายภิญโญ ทองชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ท.) และพ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผอ.สำนักปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 กล่าวถึงการตรวจสอบความไม่โปร่งใสในการลงทุนของสำนักงานกองทุนประกันสังคม (สปส.) ว่า เบื้องต้นตรวจพบความผิดปกติในการลงทุนซื้อหุ้นไทยธนาคาร ( BT ) ของ สปส. โดยฝ่ายที่ปรึกษา สปส. ทั้งฝ่ายข้าราชการประจำ และผู้เชี่ยวชาญที่สปส.ว่าจ้าง เข้ามาต่างลงความเห็นพร้อมให้ข้อแนะนำเชิงคัดค้านว่า ว่าหุ้นไทยธนาคาร มีราคาหุ้นละ 7.9 บาท ถือว่าแพงเกินไป
อีกทั้งเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องต่ำ ตลาดแคบ ซื้อขายกันเพียง 8 ล้านบาทต่อวัน จึงไม่เหมาะที่สปส.ซึ่งเป็นกองทุนขนาดใหญ่จะเข้าไปลงทุน เพราะการทุ่มซื้อ อาจมีความผิดในแง่ของการปั่นหุ้นได้ ซึ่งต้องตรวจสอบว่าเหตุใด สปส.จึงตัดสินใจ ซื้อหุ้นที่มีความเสี่ยง จนทำให้ สปส.ขาดทุนจากการซื้อหุ้นไทยธนาคารกว่า 300 ล้านบาท
นายภิญโญ กล่าวว่า การลงทุนที่มีความผิดปกติ เกิดขึ้นในปี 2549 ไม่เกี่ยวกับผู้บริหาร สปส.ชุดปัจจุบัน โดยในขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น หรือไม่ ป.ป.ท.จึงต้องเดินหน้าตรวจสอบต่อไป โดยจะเทียบเคียงกับกรณีของ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) หากพบเป็นความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐในระดับ 8 ขึ้นไป ป.ป.ท.จะส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับไปดำเนินการ
ด้านพ.ต.ท.สมบูรณ์ กล่าวว่า ข้อมูลเบื้องต้นที่ตรวจสอบพบ คือ มีการซื้อหุ้น ไทยธนาคารติดต่อกันทุกวัน ในราคาเฉลี่ย 7.90 บาท เป็นเวลา 3 เดือน คือตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม-วันที่ 27 เมษายน 2549 รวมเป็นหุ้นทั้งสิ้น 68 ล้านหุ้น เป็นเงินกว่า 521 ล้านบาท
หลังจากนั้น ต้นปี 2552 ไทยธนาคารต้องขายกิจการให้เป็นธนาคารของประเทศมาเลเซีย กลายเป็นธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ทั้งนี้รูปแบบการบริหารของ สปส. บอร์ดได้กระอำนาจให้ผู้บริหารระดับสูง อาทิ เลขาธิการ สปส. รองเลขาธิการสปส. และฟันเมเนเจอร์ หรือผู้จัดการกองทุน มีอำนาจสั่งซื้อหุ้นในกลุ่มที่ สปส.คัดเลือกไว้ โดยการสั่งซื้อหุ้นของแต่ละบุคคลจะมีพาสเวิร์สเพื่อสั่งซื้อขายหุ้นของ สปส.ในชื่อของตัวเอง แต่จะต้องซื้อขายตามคำแนะนำจากที่ปรึกษา
พ.ต.ท.สมบูรณ์ กล่าวว่า คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย ยังได้ร้องขอให้ ป.ป.ท.ตรวจสอบการลงทุนซื้อหุ้นของสปส.ในกลุ่มทียูโดม และบริษัท เลห์แมนบาร์เธอร์ โฮลดิ้ง แต่ป.ป.ท.ยังไม่ได้เริ่มตรวจสอบ เพราะพบความผิดปกติในหุ้นไทยธนาคารเสียก่อน
อีกทั้งเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องต่ำ ตลาดแคบ ซื้อขายกันเพียง 8 ล้านบาทต่อวัน จึงไม่เหมาะที่สปส.ซึ่งเป็นกองทุนขนาดใหญ่จะเข้าไปลงทุน เพราะการทุ่มซื้อ อาจมีความผิดในแง่ของการปั่นหุ้นได้ ซึ่งต้องตรวจสอบว่าเหตุใด สปส.จึงตัดสินใจ ซื้อหุ้นที่มีความเสี่ยง จนทำให้ สปส.ขาดทุนจากการซื้อหุ้นไทยธนาคารกว่า 300 ล้านบาท
นายภิญโญ กล่าวว่า การลงทุนที่มีความผิดปกติ เกิดขึ้นในปี 2549 ไม่เกี่ยวกับผู้บริหาร สปส.ชุดปัจจุบัน โดยในขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น หรือไม่ ป.ป.ท.จึงต้องเดินหน้าตรวจสอบต่อไป โดยจะเทียบเคียงกับกรณีของ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) หากพบเป็นความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐในระดับ 8 ขึ้นไป ป.ป.ท.จะส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับไปดำเนินการ
ด้านพ.ต.ท.สมบูรณ์ กล่าวว่า ข้อมูลเบื้องต้นที่ตรวจสอบพบ คือ มีการซื้อหุ้น ไทยธนาคารติดต่อกันทุกวัน ในราคาเฉลี่ย 7.90 บาท เป็นเวลา 3 เดือน คือตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม-วันที่ 27 เมษายน 2549 รวมเป็นหุ้นทั้งสิ้น 68 ล้านหุ้น เป็นเงินกว่า 521 ล้านบาท
หลังจากนั้น ต้นปี 2552 ไทยธนาคารต้องขายกิจการให้เป็นธนาคารของประเทศมาเลเซีย กลายเป็นธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ทั้งนี้รูปแบบการบริหารของ สปส. บอร์ดได้กระอำนาจให้ผู้บริหารระดับสูง อาทิ เลขาธิการ สปส. รองเลขาธิการสปส. และฟันเมเนเจอร์ หรือผู้จัดการกองทุน มีอำนาจสั่งซื้อหุ้นในกลุ่มที่ สปส.คัดเลือกไว้ โดยการสั่งซื้อหุ้นของแต่ละบุคคลจะมีพาสเวิร์สเพื่อสั่งซื้อขายหุ้นของ สปส.ในชื่อของตัวเอง แต่จะต้องซื้อขายตามคำแนะนำจากที่ปรึกษา
พ.ต.ท.สมบูรณ์ กล่าวว่า คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย ยังได้ร้องขอให้ ป.ป.ท.ตรวจสอบการลงทุนซื้อหุ้นของสปส.ในกลุ่มทียูโดม และบริษัท เลห์แมนบาร์เธอร์ โฮลดิ้ง แต่ป.ป.ท.ยังไม่ได้เริ่มตรวจสอบ เพราะพบความผิดปกติในหุ้นไทยธนาคารเสียก่อน
