ASTVผู้จัดการรายวัน - ซีไอเอ็มบีไทยตัดขายอาคารสำนักงานใหญ่ที่สาทร เผยมูลค่ากว่าพันล้าน ระบุเป็นไปตามแผนปรับโครงสร้างองค์กร-ลดต้นทุน พร้อมโอนย้ายพนักงาน-ธุรกรรมมาอาคารหลังสวนตั้งเป็นสำนักงานใหญ่เพียงแห่งเดียว คาดเสร็จสิ้นภายในต้นปีหน้า
ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน)(CIMBT) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2552 ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามในข้อตกลงซื้อขายอาคารสาทร ด้วยราคามูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งข้อตกลงในการขายอาคารครั้งนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนธันวาคม 2552
นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า การขายอาคารในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการเปลี่ยนแปลงธนาคารที่กำลังดำเนินอยู่ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานและลดต้นทุนค่าใช้จ่าย เพราะปัจจุบัน ธนาคารมีพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จำนวนมาก และพนักงานต้องปฏิบัติงานอยู่ในอาคารสำนักงานถึง 2 แห่ง คือ อาคารสาทรและอาคารหลังสวน ทั้งนี้ คาดว่าภายในต้นปีหน้า ธนาคารจะย้ายการปฏิบัติงานทั้งหมดไปที่อาคารหลังสวน
นายสุภัคกล่าวต่อว่า คณะกรรมการของธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทย มีมติอนุมัติการขายอาคารสาทรแล้วเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากผ่านขั้นตอนการประมูลที่ใช้ระยะเวลานานกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากมีผู้สนใจเข้าประมูลถึง 20 ราย ซึ่งธนาคารรู้สึกพึงพอใจกับราคาที่ได้ และเชื่อว่าได้สะท้อนถึงคุณค่าของอสังหาริมทรัพย์ที่เรามีอยู่ นอกจากนี้ การขายอาคารสาทรในครั้งนี้ ถือเป็นการดำเนินตามนโยบายของกลุ่มซีไอเอ็มบี ที่มุ่งเน้นการไม่ถือครองสินทรัพย์และการใช้เงินทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
ทั้งนี้ สำนักงานสาทร ประกอบด้วยตัวอาคารสูง 26 ชั้น และตัวอาคารสูง 3 ชั้น พร้อมที่ดิน ซึ่งมีพื้นที่รวมทั้งสิ้น 1 ไร่ 2 งาน และ 76.5 ตารางวา (หรือ 2,706 ตารางเมตร)
“ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการทางด้านการเงิน ควรจะบริหารงบดุลที่มีเพื่อใช้ในการปล่อยสินเชื่อและสร้างรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น แทนที่จะลงทุนไปกับสินทรัพย์ที่เป็นอสังหาริมทรัพย์” นายสุภัคกล่าวเพิ่มเติม
ปัจจุบัน มีพนักงานประมาณ 600 คนปฏิบัติงานอยู่ที่อาคารสาทร ซึ่งยังเป็นที่ตั้งของสาขา 1 แห่ง คือ สาขาสำนักสาทรด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับลูกค้าที่มีบัญชีอยู่ที่สาขาสำนักสาทรยังคงสามารถทำธุรกรรมต่างๆ ณ สาขาสำนักสาทรได้ต่อไปตามปกติ จนกว่าจะมีการแจ้งเพิ่มเติม โดยลูกค้าที่มีข้อสงสัย สามารถสอบถามได้ที่ CIMB Thai Care Centre หมายเลขโทรศัพท์ 0-2626-7777
สำหรับผลประกอบการของธนาคารล่าสุด ไตรมาส 3 ปี 2552 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 461 ล้านบาท ลดลง 549 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 54 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เติบโตเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1และไตรมาส 2 ที่มีการติดลบโดยรวมอยู่ที่ 500 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ธนาคารคาดการณ์ว่าในไตรมาส 4 ของปี 2552 นี้จะสามารถล้างขาดทุนสะสมได้ทั้งหมด โดยเฉพาะขณะนี้ที่ตัวเลขการขาดทุนสะสมเหลือประมาณ 40 ล้านบาท และมั่นใจว่าธนาคารจะสามารถถึงเป้าหมายจุดคุ้มทุนที่ตั้งไว้ได้ในปี 2552 นี้ ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพเพื่อทำเป้าหมายในปี 2553 ให้สำเร็จด้วยเช่นกัน หลังจากที่ธนาคารได้ขาดทุนติดต่อกัน 3 ปี ซึ่งเป็นการขาดทุนจากการกันสำรองหนี้จัดชั้น
