ASTVผู้จัดการรายวัน-"วิทยา” ไฟเขียวจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์-ก่อสร้าง ไทยเข้มแข็งฯ ที่มั่นใจว่าไม่มีทุจริต ยืนยันไม่มีฝันค้างแน่ ระบุใครเห็นค้านควรเปลี่ยนรายการครุภัณฑ์ให้เสนอคณะกรรมการแก้ปัญหาไทยเข้มแข็ง ส่วนรายการที่มีการแก้ไขต้องแจ้งคลังทราบก่อน เพื่อให้ครม.เห็นชอบ
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวในการประชุมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปว่า ขณะนี้การจัดซื้อจัดจ้างโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 (แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2) หรือเอสพี 2 ให้ดำเนินการตามข้อสรุปของคณะกรรมการพิจารณาความเหมาะสมและแก้ไขปัญหาโครงการไทยเข้มแข็งของ สธ. ชุดที่มี นพ.สถาพร วงษ์เจริญ รองปลัด สธ.เป็นประธาน ซึ่งในส่วนของ พรก.ซึ่งรัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณแล้ว หากคณะกรรมการฯ พิจารณาแล้วเสร็จไม่มีปัญหาติดขัดใดให้ดำเนินการได้ทันที ส่วน พ.ร.บ.ที่ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร จะพยายามให้เสร็จในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยให้ทบทวนรายการครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างต่างๆ ควบคู่กันไป
“ขอยืนยันว่ารายการครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างที่มีการเสนอขอไปจะได้รับการบรรจุอยู่ในเอสพี 2 ไม่มีฝันค้างอย่างแน่นอน เพียงแต่ให้พิจารณาตั้งวงเงินการจัดซื้อในราคาที่เป็นจริง และพื้นที่ใดได้รายการครุภัณฑ์หรือสิ่งก่อสร้างที่ไม่จำเป็น ส่วนพื้นที่ไหนมีความจำเป็น ซึ่งมั่นใจแล้วว่าไม่มีการทุจริตก็ให้เดินหน้าต่อได้ทันที”นายวิทยากล่าว
ส่วนที่สมาคมวิชาชีพสาธารณสุข คัดค้านให้มีการเปลี่ยนแปลงรายการครุภัณฑ์ 46 รายการของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) ขณะที่คณะกรรมการฯ มีมติให้คงเดิมนั้น นายวิทยา กล่าวว่า คงต้องยึดมติของคณะกรรมการฯ ชุดนี้เป็นหลักหากใครยังคงไม่พอใจให้แจ้งกับคณะกรรมการฯ โดยตรง ส่วนเครื่องมือในการป้องกันและส่งเสริมสุขภาพ คือ ความรู้ในการใช้ป้องกันโรคมากกว่าเป็นเครื่องมือแพทย์ อีกทั้งหากคณะกรรมการฯ สรุปจบแล้วแต่ยังไม่พอใจไม่จบก็จะทำอะไรต่อไม่ได้เลย
ด้าน นพ.สถาพร วงศ์เจริญ รองปลัด สธ. ในฐาะประธานคณะกรรมการพิจารณาความเหมาะสมและแก้ไขปัญหาโครงการไทยเข้มแข็งของ สธ. กล่าวว่า จากการพิจารณางบประมาณในส่วน พ.ร.ก.คณะกรรมการฯ มีมติไฟเขียวให้มีการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างในรายการที่ไม่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงทั้งราคากลาง สถานที่ ได้ทันที โดยจะเสนอให้ ปลัด สธ.และ รมว.สาธารณสุข อนุมัติต่อไป ในส่วนที่พิจารณาทบทวนแล้วจะต้องมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงราคากลาง หรือสถานที่นั้น จะต้องส่งเรื่องไปยังสำนักบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลังรับทราบ จากนั้นจะต้องมีกระบวนการขั้นตอนเสนอเข้าคณะกรรมการกลั่นกรองและให้ครม.มีมติเห็นชอบจึงจะสามารถจัดซื้อจัดจ้างได้
ด้าน นพ.วิชัย โชควิวัฒน เลขานุการและกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการไทยเข้มแข็งของสธ.ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ว่า วานนี้(11 พ.ย.)คณะกรรมการฯ ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องในส่วนของบริษัทเอกชนขายเครื่องมือทางการแพทย์ในโครงการไทยเข้มแข็ง มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดของคุณสมบัติเครื่องมือแพทย์ที่มีข้อร้องเรียน
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวในการประชุมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปว่า ขณะนี้การจัดซื้อจัดจ้างโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 (แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2) หรือเอสพี 2 ให้ดำเนินการตามข้อสรุปของคณะกรรมการพิจารณาความเหมาะสมและแก้ไขปัญหาโครงการไทยเข้มแข็งของ สธ. ชุดที่มี นพ.สถาพร วงษ์เจริญ รองปลัด สธ.เป็นประธาน ซึ่งในส่วนของ พรก.ซึ่งรัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณแล้ว หากคณะกรรมการฯ พิจารณาแล้วเสร็จไม่มีปัญหาติดขัดใดให้ดำเนินการได้ทันที ส่วน พ.ร.บ.ที่ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร จะพยายามให้เสร็จในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยให้ทบทวนรายการครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างต่างๆ ควบคู่กันไป
“ขอยืนยันว่ารายการครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างที่มีการเสนอขอไปจะได้รับการบรรจุอยู่ในเอสพี 2 ไม่มีฝันค้างอย่างแน่นอน เพียงแต่ให้พิจารณาตั้งวงเงินการจัดซื้อในราคาที่เป็นจริง และพื้นที่ใดได้รายการครุภัณฑ์หรือสิ่งก่อสร้างที่ไม่จำเป็น ส่วนพื้นที่ไหนมีความจำเป็น ซึ่งมั่นใจแล้วว่าไม่มีการทุจริตก็ให้เดินหน้าต่อได้ทันที”นายวิทยากล่าว
ส่วนที่สมาคมวิชาชีพสาธารณสุข คัดค้านให้มีการเปลี่ยนแปลงรายการครุภัณฑ์ 46 รายการของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) ขณะที่คณะกรรมการฯ มีมติให้คงเดิมนั้น นายวิทยา กล่าวว่า คงต้องยึดมติของคณะกรรมการฯ ชุดนี้เป็นหลักหากใครยังคงไม่พอใจให้แจ้งกับคณะกรรมการฯ โดยตรง ส่วนเครื่องมือในการป้องกันและส่งเสริมสุขภาพ คือ ความรู้ในการใช้ป้องกันโรคมากกว่าเป็นเครื่องมือแพทย์ อีกทั้งหากคณะกรรมการฯ สรุปจบแล้วแต่ยังไม่พอใจไม่จบก็จะทำอะไรต่อไม่ได้เลย
ด้าน นพ.สถาพร วงศ์เจริญ รองปลัด สธ. ในฐาะประธานคณะกรรมการพิจารณาความเหมาะสมและแก้ไขปัญหาโครงการไทยเข้มแข็งของ สธ. กล่าวว่า จากการพิจารณางบประมาณในส่วน พ.ร.ก.คณะกรรมการฯ มีมติไฟเขียวให้มีการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างในรายการที่ไม่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงทั้งราคากลาง สถานที่ ได้ทันที โดยจะเสนอให้ ปลัด สธ.และ รมว.สาธารณสุข อนุมัติต่อไป ในส่วนที่พิจารณาทบทวนแล้วจะต้องมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงราคากลาง หรือสถานที่นั้น จะต้องส่งเรื่องไปยังสำนักบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลังรับทราบ จากนั้นจะต้องมีกระบวนการขั้นตอนเสนอเข้าคณะกรรมการกลั่นกรองและให้ครม.มีมติเห็นชอบจึงจะสามารถจัดซื้อจัดจ้างได้
ด้าน นพ.วิชัย โชควิวัฒน เลขานุการและกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการไทยเข้มแข็งของสธ.ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ว่า วานนี้(11 พ.ย.)คณะกรรมการฯ ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องในส่วนของบริษัทเอกชนขายเครื่องมือทางการแพทย์ในโครงการไทยเข้มแข็ง มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดของคุณสมบัติเครื่องมือแพทย์ที่มีข้อร้องเรียน