xs
xsm
sm
md
lg

ได้เวลากระทืบแม้ว

เผยแพร่:   โดย: อัญชะลี ไพรีรัก

ยังจำกันได้ไหมเมื่อคราวที่ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ประกาศติดดาบปลายปืน ที่หอประชุมสวนลุมพินี เมื่อคราวชุมนุมครั้งแรก วันนั้นคุณสนธิได้แฉแนวความคิดของทักษิณในหัวข้อปฏิญญาฟินแลนด์ และเร่งเร้าให้ประชาชนเลือกข้างระหว่างระบอบทักษิณ ที่เป็นประชาธิปไตยในคราบเผด็จการโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นเพียงสัญลักษณ์ กับระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ตอนนั้นสื่อมวลชนและนักวิชาการโจมตีพันธมิตรฯ และคุณสนธิ ราวคมหอกคมดาบพุ่งเข้าใส่ไม่ยั้ง จากนักสื่อสารมวลชนคนกู้ชาติกลายเป็นหัวหน้าเสื้อเหลืองผู้นำมาซึ่งความแตกแยกแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ไม่มีใครรู้...คุณสนธิ และแกนนำทั้งหมดรวมถึงพันธมิตรฯ ได้แต่หวานอมขมกลืน เก็บความชอกช้ำเป็นพลัง และเดินหน้าโค่นล้มระบอบทักษิณกินชาติต่อไปไม่ย่อท้อ

แต่แล้วกาลเวลาก็ทำหน้าที่เทวดาแห่งความจริง เมื่อความกระจ่างถูกเปิดเผยตัวตน โดยคนลิ้นสองแฉก “ทักษิณ” ซึ่งคราวนี้มาในมาดที่ปรึกษาฮุนเซน และรัฐบาลกัมพูชา พร้อมๆ กับบทสัมภาษณ์ที่ตั้งใจจาบจ้วงสถาบันสูงสุด ราวผีเจาะปาก พูดไม่พูดเปล่ายังเล่นลิ้นกะลาวน พอจนตรอกบอก “ขอพระราชทานอภัยโทษ” ไม่ตั้งใจ ภาษาอังกฤษไม่ดีพอ....คนตอแหลใจทรามอย่างนี้ปล่อยไว้ได้หรือพี่น้องที่เคารพ

หลัง Timesonline เผยแพร่ไม่นาน เห็นชัดว่าคนไทยโกรธเกรี้ยวกับวาจาสามหาว และท่าทีเหิมเกริมไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำของทักษิณยิ่งนัก

ไปดูสิ...คนมีชื่อเสียงใหญ่โตจากทุกภาคส่วนของสังคมไทย และคนไทยจากทั่วโลกแห่กันเข้าไปในเว็บไซต์ของไทมส์ ออนไลน์หนาแน่น เพื่อแสดงความคิดเห็นตอบโต้กับทักษิณนับไม่ถ้วนทีเดียว เป็นปรากฏการณ์ชนิดที่กองบรรณาธิการของไทมส์ก็ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน

หนึ่งในจำนวนความคิดเห็นที่แหลมคมจากใจคนไทยผู้จงรักภักดีเหล่านั้น มีข้อความหนึ่งน่าประทับใจมาก จากชายคนหนึ่งที่เขียนว่า “พระเจ้าอยู่หัวของประเทศไทย ไม่เพียงเป็นพระประมุขของชาติเท่านั้น แต่พระองค์ยังทำหน้าที่เป็นพ่อของแผ่นดินด้วย ท่านคือพ่อของเราคนไทยทั้งปวง The King is father” อ่านแล้วน้ำตาซึม ถ้าคุณหญิงหมัดหมา หายเมาเมื่อไร ลองเข้าไปอ่านดูแล้วจะรู้ว่า กตัญญูเขียนอย่างไร และอกตัญญูหน้าตาเป็นอย่างไรให้ส่องกระจกดูเอาเอง

ลองเข้าไปอ่านดูเถิดแล้วจะรู้ว่า ทักษิณ...เอ็งไม่ตายดีแน่ โดยไม่ต้องออกตัวชักชวนให้ใครมากระทืบเลย อารมณ์คุกรุ่นของคนไทยยามนี้ ดีไม่ดีต้องเตือนไปถึงคุณหญิงพจมาน และลูกทั้งสามด้วยว่า อย่าล้อเล่นกับพวกเราในเรื่องแบบนี้ พวกคุณไม่มีวันทำได้สำเร็จ แม้รวยล้นฟ้าสักเพียงใดก็ตาม สู้เก็บเงินของพวกคุณไว้ซื้อกระเป๋าหลุยส์ให้ ใหม่ เจริญปุระ มิดีกว่าหรือ?

เรื่องราวของไทมส์ ออนไลน์ กับก้าวแรกของข่าวสารที่ปรากฏให้คนไทยได้เห็น มาจากคุณอุษณีย์ เอกอุษณีษ์ ที่นั่งเฝ้าข่าวต่างประเทศอยู่ เธอเห็นข่าวนี้ขึ้นมา และนาทีนั้นเองก็ตัดสินใจส่งข่าวนั้นทั้งดุ้นมาที่โต๊ะข่าวของรายการสภาท่าพระอาทิตย์

เมื่อข่าวมาถึงมือได้หารือกันเร่งด่วนในช่วงโฆษณา คุณชัชวาลย์เสนอให้ถ่ายทอดด้วยความระมัดระวัง หลังจากนั้นประชาชนก็แห่เข้าไปดูบทสัมภาษณ์นี้ในเว็บไซต์หนาแน่น

ต่อมาเทพไท เสนพงศ์ ประชาธิปัตย์ก็นำไปแถลงข่าว และกลายเป็นข่าวใหญ่โตในเวลาต่อมา จนทักษิณแก้เกี้ยวว่า ไทมส์บิดเบือน และไทมส์โต้กลับด้วยการลงฉบับเต็มๆ 12 หน้า

เมื่อดิ้นไม่หลุดทักษิณก็โทษว่า ไทมส์พาดหัวไม่ดี และตัวเองอ่อนภาษาอังกฤษ พร้อมตอกย้ำความจงรักภักดีด้วยตรรกะแปลกๆ ตลบตะแลง ปลิ้นปล้อน สุดท้ายก็สาบานและยินดีให้คนไทย “กระทืบ” ได้หากไม่จงรักภักดี....เตรียมตัวโดนกระทืบได้แล้วไอ้แม้วเอ๋ย

พูดถึงทักษิณกับพนมเปญ วันก่อนได้ยินพวกทูตต่างประเทศเขาบ่นกันพึม เรื่อง ความอ่อนแอของรัฐบาลอภิสิทธิ์ และความไม่เอาไหนของกองทัพไทยที่ปล่อยให้ทักษิณลอยนวลป่วนบ้านป่วนเมืองป่นปี้ไปรอบโลก เขาบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ถ้าเป็นบ้านเรา คนอย่างนี้เสร็จแล้ว”...จะเสร็จแบบไหนก็ไม่กล้าถาม กลัวรู้แล้วเก็บความดีใจไม่มิด

เห็นทีช่วงนี้...คงได้เวลากระทืบใครบางคนแล้ว หรือจะหลายคนก็ย่อมได้ เมื่อเห็นสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และเยาวภา พร้อมพวก ส.ส.เพื่อไทยหลายคนยกโขยงไปรับทักษิณถึงพนมเปญ ท่ามกลางการอารักขาเข้มงวด เห็นหน้าค่าตาครอบครัวคนทรยศชาติกันแล้วใช่ไหม ไม่ต้องเชื่อก็ต้องเชื่อ ไม่คิดก็ต้องคิด อดีตนายกฯ สองคนอยู่กับฝ่ายเขมร อย่างนี้ความลับของเมืองไทยก็รั่วไหลแน่นอน

บัดนี้ความแค้นเคืองของทักษิณกำลังเผาไหม้ตัวเขาและครอบครัวให้กลายเป็นจุล โดยมีเสียงเล่าลือกันหนาหูว่า ทักษิณกับอดีตเมียยังติดต่อโทร.ไปมาหาสู่กันตลอดเวลา

ถ้าผัวคิดกับสถาบันสูงสุดอย่างนี้ ปล้นคนไทยขนาดนี้ เมียแม้วจะคิดเป็นอื่นได้อย่างไร บางทีคนไทยจำต้องใคร่ครวญ และถามตัวเองว่าถึงเวลาหรือยังที่จะขจัดคนในครอบครัวนี้ให้หมดสิ้นไป เพื่อนำความสงบสุขคืนกลับมาเสียที

เรื่องราวระหว่างทักษิณ-ฮุนเซน และรัฐบาลไทยปล่อยให้ อภิสิทธิ์และพรรคร่วมเหลวไหลของเขาจัดการกันไป ส่วนเรื่องราวระหว่างทักษิณกับสถาบันสูงสุดนั้น คนไทยใต้พระบรมโพธิสมภารต้องลุกขึ้นมา “สู้เพื่อในหลวง” อย่างจริงจังเสียที ไม่ใช่รักในหลวงแต่ปาก หรือมัวแต่ยืนร้องเพลงชาติถ่ายทอดสด อย่างนั้นมันน่าอเนจอนาถจนเกินไป

ขณะที่ทักษิณกำลังสู้ไม่ถอย และเปิดหน้าชกกับสถาบันสูงสุดอย่างไม่ยำเกรงแล้ว อีกด้านหนึ่งของพรรคเพื่อไทยก็เกิดความระส่ำระสาย เมื่อสมาชิกพรรคหลายคนที่เอาแต่ได้ แต่ใจขี้ขลาดก็เริ่มตีกรรเชียงหนีตาย วงแตก หลายคนพูดว่า “ถ้าถึงขนาดนี้กูไม่อยู่กับมันแล้ว ชิ่งหนีดีกว่า เพราะยังไงก็รักในหลวง” พวกนี้เลยโดดเกาะเสี่ยเนวินกันเป็นเทือกเพราะรายนี้ชู พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวน้าพรรคและนายกฯ คนต่อไป

พูดถึงทหารกับการเมือง ต้องหยิบเรื่องนี้มาเล่าให้ฟัง คือ เรื่องพลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน อดีตบิ๊ก คมช. ที่กำลังจะรั้งหัวน้าพรรคมาตุภูมิ วันหนึ่งพลเอกสนธิไปหาหมอที่โรงพยาบาลพระมงกุฎ เกิดไปจ๊ะเอ๋กับพลเอกปรีชา เอี่ยมสุวรรณ หรือลุงปรีชาของพี่น้องพันธมิตรฯ

เจอกันจังๆ เลยจับเข่าคุยกันตามประสาพี่ทหารน้องทหาร ความว่า พลเอกสนธิจำต้องทำพรรคการเมืองเพราะความจำเป็นบนสถานการณ์ที่ “ประชาธิปัตย์อ่อนแอเกินไป เอาไม่อยู่” ลุงปรีชาได้ฟังก็หัวร่อ และอวยพรขอให้โชคดี

คนพันธมิตรฯ ย่อมซาบซึ้งดีกับความเจ็บปวดของอาการเสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าพันธมิตรฯ ได้ฟังเรื่องนี้ก็นึกสมเพชพลเอกสนธิเป็นกำลัง ยามมีอำนาจกลับไม่ใช้ มาใช้เอาตอนสิ้นอำนาจ อย่างนี้จะไหวหรือ?

ส่วนคนนี้สิไหวแน่พลเอกจิรเดช คชรัตน์ ยังไงเล่า เพราะอดีตแม่ทัพภาค 3 น้องรักเด็กปั้นพี่สะพรั่งของเรา เกิดอาการหูหนวกตาบอด ดื้อตาใสไพล่ไปเข้ากับพรรคเพื่อไทย เพราะเชื่อมั่นทักษิณ คนนี้เก็บอาการไม่อยู่มาตั้งนานแล้ว ใส่เครื่องแบบทหารทับเสื้อแดงอยู่ได้เป็นนานสองนาน

พอเกษียณเท่านั้นละความจริงก็ปรากฏว่า จิรเดชเพื่อนรักบรรณพจน์ ดามาพงศ์ และเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ก็กระโจนเข้าพรรคเพื่อไทยทันที โดยถูกวางไว้ให้ควบคุมกองทัพหลังทักษิณเผด็จศึกประชาธิปัตย์และกลับมาเป็นใหญ่อีกรอบ

หลังจิรเดชถูกสังคมตั้งคำถามถึงความจงรักภักดี ให้ปรากฏว่า ทหารคนนี้ปรี่ไปพบพี่สะพรั่งของเขาทันที ใน 3 ชั่วโมงที่คุยกัน เขาพร่ำบอกแต่ความดีของทักษิณ และ ความจงรักภักดีที่เปี่ยมล้น จนเจ้าบ้านรำคาญไล่เปิดตัดพี่ตัดน้อง

พอบทสัมภาษณ์ทักษิณล่าสุดออกมา ปรากฏว่า จิรเดชหน้ามืน และทหารเตรียม 10 หลายคนสั่งเมียเอาเงินสดที่รับมาไปคืน...เผ่นแล้วโว้ย

คนที่กำลังเผ่นอีกคนเพราะถูกสังคมคว่ำบาตรคือ นางเอกคนสวย ที่ต้องมาม้วยก่อนถึงวัยอันควรด้วยเรื่องกฐินพายับเยิน ความว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงออกหน้าอี๋อ๋อกับผัวชาวบ้านจนหน้าบานหุบไม่ลง โดยคุณเมียของเขาเฝ้าร้องไห้เช้าเย็นที่ลอนดอน

ตอนนี้นางเอกอายแทบแทรกแผ่นดินที่ไปจู๋จี๋กับครอบครัวคนขายชาติ จาบจ้วง ลูกเต้าก็เดือดร้อน แม่เลยหอบลูกไปหลบที่สวิตเซอร์แลนด์แดนเก๋ และกะว่าจะส่งลูกไปเรียนต่อนิวซีแลนด์ แว่วกลับมาเที่ยวนี้จะชิ่ง... เผ่นอีกคนแล้วโว้ย

แต่พี่เรือน้อย ร้อยวิก ของเราสิเลวได้ใจจริงๆ ขนาดเรื่องราวเปิดเผยตัวตนคนจัญไร จาบจ้วงองค์ราชัญกันถึงเพียงนี้แล้ว ยังยืนยันจะอกตัญญูต่อราชวงศ์ที่ตัวเคยอาศัยพึ่งบุญมาแต่น้อยคุ้มใหญ่ไม่เลิกรา

ล่าสุดโชว์ความปากเสีย ใช้สรรพนามเรียกขาน โดยไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำว่า fatty และช่วงนี้หน้าบานกลับมาจากดูไบ พร้อมนักกฎหมายและอดีตพิธีกรคนดัง ...มิน่าขี้กลากขึ้นกบาลจนผมร่วงกราวหมดหัว..เตือนไว้ก่อนว่าหมอศัลยกรรมเมืองไทยไม่รับดึงหน้าให้อีคนขายชาติ ทรยศเจ้านายนะตัวเอง

ล่าสุดได้ยินเรื่องเล่าจากสายพ่อกำนันแล้วใจชื้น ความว่าเอกชนไทยและสายเขมรที่ลงทุนในเกาะกงเสียประโยชน์จากแม้วเหยียบเมือง เลยเปลี่ยนจากลงทุนเป็นลงขัน เพื่อจัดการแม้วให้หมอบก่อนสายเกินแก้

เจ้าประคุนเอ้ย... ขอให้เป็นจริงเสียทีเถิด ลูกช้างจะแก้บนด้วยการกระทืบคนที่เหลือให้ดู
กำลังโหลดความคิดเห็น