ASTVผู้จัดการรายวัน-“มาร์ค”ชงครม.เศรษฐกิจวันนี้ ตั้ง “อานันท์” เป็นประธาน 4 ฝ่ายแก้ปัญหามาบตาพุด
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ วันนี้ (11 พ.ย.) จะเสนอให้ที่ประชุมเห็นชอบแต่งตั้งให้นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการ 4 ฝ่าย เพื่อแก้ไขปัญหามาบตาพุด หลังจากที่ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาผลกระทบมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมจากประชาชนในพื้นที่มาบตาพุด โดยยืนยันว่าภายใน 3 เดือนจากนี้ประชาชนในพื้นที่จะได้รับการเยียวยาที่ดีขึ้น ซึ่งในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก หรืออีสเทิร์นซีบอร์ด จะเร่งแก้ไขปัญหามลภาวะของมาบตาพุดอย่างเร่งด่วน โดยจะเสนอขออนุมัติวงเงิน และขออนุมัติวิธีการดำเนินโครงการ ที่คณะทำงานจังหวัดระยองนำเสนอ
สำหรับคณะกรรมการ 4 ฝ่าย ภาคประชาชน ประกอบด้วยนายสุทธิ อัฌชาศัย พร้อมพวกอีก 2 คน ภาครัฐ ประกอบด้วยนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ เป็นกรรมการ ภาคอุตสาหกรรม ประกอบด้วยนายสุวิทย์ ชื่นปิยะวาจา ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง และนายชายน้อย เผื่อนโกสุม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) สำหรับภาคผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วยนายไพโรจน์ พลเพ็ชร ด้านกฎหมาย , ดร.สมฤดี นิโครวัฒนยิ่งยง ด้านสิ่งแวดล้อม และ ดร.เดชรัตน์ สุขกำเนิด ด้านสุขภาพ
สำหรับปัญหาที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนมี 3 เรื่อง คือ จัดหาน้ำดื่มและน้ำประปาสำหรับประชาชนที่ยังไม่มีใช้ในพื้นที่อุตสาหกรรม ดูแลปัญหาสุขภาพการเจ็บป่วยของประชาชน รวมทั้งแก้ปัญหาขยะและมลพิษ โดยจะเดินทางลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าทุก 2 สัปดาห์ และตั้งคณะทำงาน 1 ชุด รวม 8 คน ดำเนินงานร่วมกับคณะทำงานของจังหวัด แบ่งการทำงานเป็น 2 ขั้นตอน คือ กำหนดหัวข้อโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วน และจัดลำดับตามความสำคัญ เพื่อนำเสนอครม.พิจารณาทั้งในส่วนของงบประมาณและวิธีดำเนินงาน โดยใช้วิธีพิเศษโดยอาศัยมติครม.เพื่อให้รวดเร็ว
นายสันติ วิลาศสักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดีที่นายอานันท์ ได้เข้ามารับหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการ 4 ฝ่ายเพื่อแก้ไขปัญหามาบตาพุด ซึ่งเห็นว่าเมื่อมีเจ้าภาพที่ชัดเจน และเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงมีความรู้ความสามารถมีความเป็นกลางกับทุกฝ่ายแล้ว ก็ต้องการให้ทุกฝ่ายรับฟังแนวทางของนายอานันท์ด้วย ไม่เช่นนั้นปัญหาก็ยังไม่ยุติได้โดยง่าย ขณะเดียวกันก็ต้องรับฟังแนวทางการอ่านคำวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุดในวันที่ 12 พ.ย.นี้ ด้วย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ วันนี้ (11 พ.ย.) จะเสนอให้ที่ประชุมเห็นชอบแต่งตั้งให้นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการ 4 ฝ่าย เพื่อแก้ไขปัญหามาบตาพุด หลังจากที่ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาผลกระทบมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมจากประชาชนในพื้นที่มาบตาพุด โดยยืนยันว่าภายใน 3 เดือนจากนี้ประชาชนในพื้นที่จะได้รับการเยียวยาที่ดีขึ้น ซึ่งในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก หรืออีสเทิร์นซีบอร์ด จะเร่งแก้ไขปัญหามลภาวะของมาบตาพุดอย่างเร่งด่วน โดยจะเสนอขออนุมัติวงเงิน และขออนุมัติวิธีการดำเนินโครงการ ที่คณะทำงานจังหวัดระยองนำเสนอ
สำหรับคณะกรรมการ 4 ฝ่าย ภาคประชาชน ประกอบด้วยนายสุทธิ อัฌชาศัย พร้อมพวกอีก 2 คน ภาครัฐ ประกอบด้วยนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ เป็นกรรมการ ภาคอุตสาหกรรม ประกอบด้วยนายสุวิทย์ ชื่นปิยะวาจา ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง และนายชายน้อย เผื่อนโกสุม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) สำหรับภาคผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วยนายไพโรจน์ พลเพ็ชร ด้านกฎหมาย , ดร.สมฤดี นิโครวัฒนยิ่งยง ด้านสิ่งแวดล้อม และ ดร.เดชรัตน์ สุขกำเนิด ด้านสุขภาพ
สำหรับปัญหาที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนมี 3 เรื่อง คือ จัดหาน้ำดื่มและน้ำประปาสำหรับประชาชนที่ยังไม่มีใช้ในพื้นที่อุตสาหกรรม ดูแลปัญหาสุขภาพการเจ็บป่วยของประชาชน รวมทั้งแก้ปัญหาขยะและมลพิษ โดยจะเดินทางลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าทุก 2 สัปดาห์ และตั้งคณะทำงาน 1 ชุด รวม 8 คน ดำเนินงานร่วมกับคณะทำงานของจังหวัด แบ่งการทำงานเป็น 2 ขั้นตอน คือ กำหนดหัวข้อโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วน และจัดลำดับตามความสำคัญ เพื่อนำเสนอครม.พิจารณาทั้งในส่วนของงบประมาณและวิธีดำเนินงาน โดยใช้วิธีพิเศษโดยอาศัยมติครม.เพื่อให้รวดเร็ว
นายสันติ วิลาศสักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดีที่นายอานันท์ ได้เข้ามารับหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการ 4 ฝ่ายเพื่อแก้ไขปัญหามาบตาพุด ซึ่งเห็นว่าเมื่อมีเจ้าภาพที่ชัดเจน และเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงมีความรู้ความสามารถมีความเป็นกลางกับทุกฝ่ายแล้ว ก็ต้องการให้ทุกฝ่ายรับฟังแนวทางของนายอานันท์ด้วย ไม่เช่นนั้นปัญหาก็ยังไม่ยุติได้โดยง่าย ขณะเดียวกันก็ต้องรับฟังแนวทางการอ่านคำวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุดในวันที่ 12 พ.ย.นี้ ด้วย
