ระยอง - เครือข่าย ปชช.ทำบุญเลี้ยงพระ สืบชะตาสิ่งแวดล้อม ผู้ว่าฯระยอง และ ส.ว.ร่วมในพิธี
วันนี้ (22 ต.ค.) ที่บริเวณหาดแสงจันทร์ ต.ปากน้ำ อ.เมืองระยอง นายสยุมพร ลิ่มไทย ผวจ.ระยอง พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบก.ภ.จ.ระยอง นายประสาร มฤคพิทักษ์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.สรรหา) คณะกรรมาธิการศึกษาและตรวจสอบการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล นายสุรจิต ชิรเวทย์ ส.ว.จังหวัดสมุทรสงคราม เดินทางมาร่วมในพิธีทำบุญเลี้ยงพระสืบชะตาให้สิ่งแวดล้อม จัดทำพิธีโดย นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก พร้อมด้วย นายน้อย ใจตั้ง นายเจริญ เดชคุ้ม และชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบมลพิษสิ่งแวดล้อมมาบตาพุด กว่า 100 คน ร่วมในพิธี
นายสุทธิ กล่าวว่า พิธีทำบุญเลี้ยงพระครั้งนี้ เพื่อให้ชาวบ้านหันมาสนใจในเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และในวันนี้จะทำพิธีลอยกระทงจำลองนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งเป็นความชั่วช้าหรือพวกทำลายสิ่งแวดล้อม ออกไปจากผืนแผ่นดินระยอง และอย่าไปสร้างความเดือดร้อนให้กับแผ่นดินอื่นอีก ที่สำคัญเราใช้สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรมามาก แต่ไม่เคยให้ความสนใจ วันนี้จะเป็นวันทำบุญเพื่อปลุกจิตสำนึกคนระยองให้กลับมาใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมอีกครั้ง
นายสุรจิต ส.ว.สมุทรสงคราม กล่าวตอนหนึ่งว่า ยิ่งพัฒนาแหล่งอุตสาหกรรมมาบตาพุดและนิคมอุตสาหกรรมอื่น ยิ่งทำให้คนระยอง อยู่ร้อนนอนทุกข์ เกิดการวิบัติอย่างชัดเจน อาทิเกิดการกัดเซาะชายหาด ทำให้ชายหาดระยองไม่มีเสถียรภาพอีกต่อไป ไม่ว่าจะเรื่องน้ำ เรื่องไฟฟ้านับวันจะประสบปัญหามากขึ้น เนื่องจากแหล่งน้ำและไฟฟ้านำไปป้อนให้กับโรงงานอุตสาหกรรม ส่วนมลภาวะปล่อยให้ให้คนระยองรับไป
นายประสาร ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ป้ายนิทรรศการเขียนไว้ว่าคนมาบตาพุด น้ำฟ้าไม่ได้กิน น้ำดินไม่ได้ใช้ นี่เป็นปัญหามลภาวะโรงงานอุตสาหกรรม ที่ทำให้คนมาบตาพุดต้องอยู่ร้อน นอนทุกข์ น้ำฟ้าไม่ได้กิน น้ำดินไม่ได้ใช้ ในความเห็นส่วนตัวสิ่งที่จะช่วยเหลือประชาชน เรื่องกฎหมายสิ่งแวดล้อมต้องใช้เวลานาน แต่สิ่งที่ทำได้ทันทีคือคณะกรรมการอิสระที่จะเข้ามาดูแลปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อมคนมาบตาพุดเป็นกรณีพิเศษ เรื่องนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี สามารถใช้อำนาจแต่งตั้งและดำเนินการหาจุดลงตัว อุตสาหกรรมก็อยู่ได้ แต่ต้องเป็นอุตสาหกรรมที่เกื้อกูลต่อชีวิต เป็นอุตสาหกรรมที่ไม่มีมลพิษ
นายสยุมพร ผวจ.ระยอง กล่าวว่า ปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อมนี้สะสมมานานกว่า 25 ปี ที่ผ่านมารัฐมุ่งแต่จะขยายภาคอุตสาหกรรม ไม่ค่อยให้ความสนใจปัญหาเรื่องสุขภาพ สิ่งแวดล้อมและมลภาวะ ทำให้เกิดการสะสมปัญหา และเกิดการเคลื่อนไหวของกลุ่มเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก ผมมองว่าเป็นเรื่องดี ไม่ได้มองว่าการเคลื่อนไหวของประชาชนจะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องทุกเรื่อง การเคลื่อนไหวของนายสุทธิ อัชฌาศัย แกนนำ เป็นการเคลื่อนไหวที่มีเหตุมีผล การต่อสู้เรื่องมลภาวะและสิ่งแวดล้อม เป็นกลุ่มที่ต่อสู้ด้วยเหตุผล เพราะเป็นผู้ที่รับปัญหาโดยตรง
นายสยุมพร กล่าวว่า ที่ผ่านมา ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ค่อยตอบสนองปัญหาของ จ.ระยองเท่าที่ควร แต่ขณะนี้ได้รับการตอบสนองดีมาก ผมเข้าใจว่าถ้าไม่มีการเคลื่อนไหวภาคประชาชน ก็คงไม่ได้รับการตอบสนองเท่าที่ควร และต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่เคลื่อนไหวและไม่ได้ทำผิดกฎหมาย และไม่ได้ทำให้ประชาชนที่สัญจรไปมาเดือดร้อน ก็ได้รับความร่วมมือด้วยดี
อย่างน้อยก็มีส่วนทำให้ผลประโยชน์ส่วนหนึ่งเริ่มกลับคืนสู่ จ.ระยอง เช่นการปรับปรุงโรงพยาบาลมาบตาพุด โรงพยาบาลระยอง โรงพยาบาลบ้านฉาง แกลง ปลวกแดง และนิคมพัฒนา งบประมาณที่จะลงมาใน 4-5 ปี ไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท ถ้าประชาชนไม่แสดงความเข็มแข็งในการเคลื่อนไหวออกไปก็คงไม่มีสิ่งเหล่านี้กลับมามากเท่าที่ควร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก ร่วมกับ นายน้อย ใจตั้ง นายเจริญ เดชคุ้ม และผู้ที่ได้รับผลกระทบมลพิษร่วมกันปล่อยกระทงจำลองโรงงานอุตสาหกรรมมาบตาพุด ลงแม่น้ำระยองโดยมีเรือประมงลากออกสู่ทะเล เป็นการเชื่อว่าเป็นการปล่อยความชั่วช้าที่ทำลายสิ่งแวดล้อม อกจากผืนแผ่นดินระยอง และนายสยุมพร ลิ่มไทย ผวจ.ระยอง ร่วมกับชาวบ้านทำพิธีปล่อยนก ปล่อยปลา
