ASTVผู้จัดการรายวัน-“โสภณ” ชงครม.ช่วยหาทางออกปัญหาเสียงสุวรรณภูมิ หลังทอท.ต้องหยุดจ่ายค่าชดเชยตามคำสั่งศาลแพ่งสมุทรปราการ ขณะที่ชาวบ้านเริ่มกดดันให้เร่งจ่ายชดเชย รอผลครม.ขีดเส้น 7 วันคมนาคมต้องชัดเจนไร้ข้อสรุป เตรียมเพิ่มระดับการเคลื่อนไหวเรียกร้องค่าชดเชย
วานนี้ (9 พ.ย.) นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้หารือกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบทางเสียงจากการเปิดใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งเรียกร้องให้บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท.เร่งรัดการจ่ายเงินชดเชย โดยระบุว่า จะนำปัญหาเข้าหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (10 พ.ย.) เพื่อหาทางออก โดยเฉพาะประเด็นข้อกฎหมายที่ส่งผลให้ทอท.ต้องชะลอการจ่ายค่าชดเชนให้ผู้ได้รับผลกระทบ
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ที่ประชุมได้หารือกันถึงแนวทางการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบด้านเสียงจากการเปิดใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเด็นที่ ทอท. ต้องชะลอการจ่ายค่าชดเชย ซึ่งเป็นผลมาจากคำพิพากษาของศาลแขวง จ .สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2552 ที่ได้มีคำพิพากษายกฟ้องกรณีมีประชาชนยื่นฟ้อง ทอท. ฐานละเมิดเรียกค่าเสียหาย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยศาล เห็นว่าการที่ผู้ฟ้องร้องได้ก่อสร้างบ้านพักอาศัยในปี 2543 ถือเป็นการปลูกสร้างในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 59 แห่งพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 จึงเป็นเรื่องที่โจทก์ได้สมัครใจเข้าเสี่ยงภัยหรือยอมรับความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งในกรณีนี้ทำให้ ทอท. ไม่ต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหาย
ดังนั้น ทอท. ได้ทำเรื่องเข้าหารือกับสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อขอความคิดเห็นว่าหาก ทอท. มีนโยบายที่จะดำเนินการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้านเสียงตามแนวทางเดิม จะถือว่าเป็นการขัดต่อหลักกฎหมายที่ปรากฏ ในคำพิพากษาของศาลแขวงจังหวัดสมุทรปราการหรือไม่ ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุดได้มีหนังสือถึง ทอท. เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2552 ตอบข้อหารือว่า เป็นดุลยพินิจของ ทอท. ซึ่งเป็นคู่ความในคดีสามารถที่จะใช้แนวทางตามคำพิพากษาปรับเปลี่ยนนโยบายที่จะดำเนินการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้านเสียงจากการดำเนินงาน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้
“กระทรวงคมนาคมจะหารือในที่ประชุมครม.เพื่อหาแนวทางออกเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งการพิจารณาของศาลแพ่ง สมุทรปราการนั้น เป็นการตัดสินเฉพาะบุคคล ถือว่าเป็น บรรทัดฐานที่ต้องปฏิบัติกับรายต่อไป อย่างไรก็ตาม รมว.คมนาคมได้ให้นโยบาย ยึดหลักมนุษยธรรมในการดำเนินการ ซึ่งต้องพิจารณารายละเอียดขอกฎระเบียบและกฎหมาย ว่า แต่ละส่วนสามารถช่วยผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนได้หรือไม่ และแจ้งให้กลุ่มผู้เดือดร้อนรับทราบ ทั้งนี้ได้ขอให้ชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวส่งตัวแทนที่ได้รับผลกระทบจริงๆ มาหารือ”นายสุพจน์กล่าว
สำหรับ การจ่ายชดเชยและให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเสียงจากการเปิดใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้น ทางกระทรวงคมนาคมมีแนวคิดที่จะดำเนินการให้ความช่วยเหลืออยู่แล้ว เมื่อเร็วๆ นี้ครม.ได้อนุมัติงบประมาณในการดำเนินการพัฒนาศักยภาพท่าอากาศยานสุวรรณภูมิพร้อมด้วยงบประมาณที่ให้ทอท.จ่ายชดเชยแก่ชาวบ้านด้วยจำหนวนหนึ่ง
ด้านนายวันชาติ มานะธรรมสมบัติ แกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า กลุ่มชาวบ้านจะรอฟังผลที่ประชุมครม.ก่อนว่า จะมีแนวทางให้ความช่วยเหลือผู้เดือดร้อนอย่างไร ซึ่งที่ผ่านมาทางกลุ่มได้เรียกร้องให้มีการดำเนินการตามมติครม.วันที่ 29 พ.ค. 2550 ที่ให้จ่ายชดเชยให้กับกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ และมีการเรียกร้องให้ ทอท. แจ้งผลการดำเนินงานให้ทางผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนทราบ
ขณะเดียวกันขอให้จัดตั้งกองทุนชดเชยให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบด้านเสียงจากการดำเนินงานของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และขอให้ตั้งกองทุนประกันสุขภาพสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินงานของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วย
อย่างไรก็คาม สาเหตุที่ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องในช่วงนี้ เนื่องจากมีความกังวลกับกรณีที่ ทอท.หยุดดำเนินการ และยังมีชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนอีกกว่า 15,000 ราย ทั้งนี้นายวันชาติได้กำหนดกรอบเวลาในการเจรจาเรื่องดังกล่าวกับทางกระทรวงคมนาคมและ ทอท.ให้ได้ความชัดเจนภายใน 7 วัน หากไม่มีความคืบหน้าก็จะหารือกับชาวบ้านเพื่อเพิ่มมาตรการการเคลื่อนไหวเรียกร้องที่เข้มข้นมากขึ้นต่อไป
วานนี้ (9 พ.ย.) นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้หารือกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบทางเสียงจากการเปิดใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งเรียกร้องให้บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท.เร่งรัดการจ่ายเงินชดเชย โดยระบุว่า จะนำปัญหาเข้าหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (10 พ.ย.) เพื่อหาทางออก โดยเฉพาะประเด็นข้อกฎหมายที่ส่งผลให้ทอท.ต้องชะลอการจ่ายค่าชดเชนให้ผู้ได้รับผลกระทบ
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ที่ประชุมได้หารือกันถึงแนวทางการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบด้านเสียงจากการเปิดใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเด็นที่ ทอท. ต้องชะลอการจ่ายค่าชดเชย ซึ่งเป็นผลมาจากคำพิพากษาของศาลแขวง จ .สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2552 ที่ได้มีคำพิพากษายกฟ้องกรณีมีประชาชนยื่นฟ้อง ทอท. ฐานละเมิดเรียกค่าเสียหาย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยศาล เห็นว่าการที่ผู้ฟ้องร้องได้ก่อสร้างบ้านพักอาศัยในปี 2543 ถือเป็นการปลูกสร้างในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 59 แห่งพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 จึงเป็นเรื่องที่โจทก์ได้สมัครใจเข้าเสี่ยงภัยหรือยอมรับความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งในกรณีนี้ทำให้ ทอท. ไม่ต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหาย
ดังนั้น ทอท. ได้ทำเรื่องเข้าหารือกับสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อขอความคิดเห็นว่าหาก ทอท. มีนโยบายที่จะดำเนินการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้านเสียงตามแนวทางเดิม จะถือว่าเป็นการขัดต่อหลักกฎหมายที่ปรากฏ ในคำพิพากษาของศาลแขวงจังหวัดสมุทรปราการหรือไม่ ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุดได้มีหนังสือถึง ทอท. เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2552 ตอบข้อหารือว่า เป็นดุลยพินิจของ ทอท. ซึ่งเป็นคู่ความในคดีสามารถที่จะใช้แนวทางตามคำพิพากษาปรับเปลี่ยนนโยบายที่จะดำเนินการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้านเสียงจากการดำเนินงาน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้
“กระทรวงคมนาคมจะหารือในที่ประชุมครม.เพื่อหาแนวทางออกเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งการพิจารณาของศาลแพ่ง สมุทรปราการนั้น เป็นการตัดสินเฉพาะบุคคล ถือว่าเป็น บรรทัดฐานที่ต้องปฏิบัติกับรายต่อไป อย่างไรก็ตาม รมว.คมนาคมได้ให้นโยบาย ยึดหลักมนุษยธรรมในการดำเนินการ ซึ่งต้องพิจารณารายละเอียดขอกฎระเบียบและกฎหมาย ว่า แต่ละส่วนสามารถช่วยผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนได้หรือไม่ และแจ้งให้กลุ่มผู้เดือดร้อนรับทราบ ทั้งนี้ได้ขอให้ชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวส่งตัวแทนที่ได้รับผลกระทบจริงๆ มาหารือ”นายสุพจน์กล่าว
สำหรับ การจ่ายชดเชยและให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเสียงจากการเปิดใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้น ทางกระทรวงคมนาคมมีแนวคิดที่จะดำเนินการให้ความช่วยเหลืออยู่แล้ว เมื่อเร็วๆ นี้ครม.ได้อนุมัติงบประมาณในการดำเนินการพัฒนาศักยภาพท่าอากาศยานสุวรรณภูมิพร้อมด้วยงบประมาณที่ให้ทอท.จ่ายชดเชยแก่ชาวบ้านด้วยจำหนวนหนึ่ง
ด้านนายวันชาติ มานะธรรมสมบัติ แกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า กลุ่มชาวบ้านจะรอฟังผลที่ประชุมครม.ก่อนว่า จะมีแนวทางให้ความช่วยเหลือผู้เดือดร้อนอย่างไร ซึ่งที่ผ่านมาทางกลุ่มได้เรียกร้องให้มีการดำเนินการตามมติครม.วันที่ 29 พ.ค. 2550 ที่ให้จ่ายชดเชยให้กับกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ และมีการเรียกร้องให้ ทอท. แจ้งผลการดำเนินงานให้ทางผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนทราบ
ขณะเดียวกันขอให้จัดตั้งกองทุนชดเชยให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบด้านเสียงจากการดำเนินงานของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และขอให้ตั้งกองทุนประกันสุขภาพสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินงานของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วย
อย่างไรก็คาม สาเหตุที่ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องในช่วงนี้ เนื่องจากมีความกังวลกับกรณีที่ ทอท.หยุดดำเนินการ และยังมีชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนอีกกว่า 15,000 ราย ทั้งนี้นายวันชาติได้กำหนดกรอบเวลาในการเจรจาเรื่องดังกล่าวกับทางกระทรวงคมนาคมและ ทอท.ให้ได้ความชัดเจนภายใน 7 วัน หากไม่มีความคืบหน้าก็จะหารือกับชาวบ้านเพื่อเพิ่มมาตรการการเคลื่อนไหวเรียกร้องที่เข้มข้นมากขึ้นต่อไป