xs
xsm
sm
md
lg

สุดชั่ว! แม้วจาบจ้วงในหลวง ยืมมือสื่ออังกฤษ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

TimesOnline/ASTVผู้จัดการรายวัน – สุดจะทนไหว “ทักษิณ” เปิดเผยตัวตนที่แท้จริง ยืมมือสื่ออังกฤษ "ไทมส์ออนไลน์" ให้สัมภาษณ์ล่วงละเมิดในหลวงและสถาบันกษัตริย์ "อย่างรุนแรง" มีการกล่าวอ้างถึงสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชด้วย ชี้พฤติกรรมแม้วพิสูจน์การต่อสู้ของพันธมิตรฯ เปิดเโปงแผนล้มสถาบันฯ เป็นจริง อนาถแม้ว พอโดนด่ายับทำทีโวยไทมส์ฯ บิดเบือน สุดท้ายไทมส์ฯ ลงคำต่อคำประจานเต็มๆ


กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคดีทุจริตที่ดินรัชดา ให้สัมภาษณ์ http://www.timesonline.co.uk ซึ่งเป็นสื่อของประเทศอังกฤษ เรื่อง Ousted Thai leader Thaksin Shinawatra calls for ‘shining’ new age after King’s death "ผู้นำทักษิณเรียกร้องให้มียุคใหม่ที่จะจรัสแสงภายหลังการสิ้นพระชนม์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"(http://www.timesonline.co.uk/tol/news/world/asia/article6908493.ece) เขียนโดยนายริชาร์ด ลอยด์ แพร์รี ผู้สื่อข่าวของเดอะ ไทมส์ เมื่อวานนี้ (9 พ.ย.) ซึ่งเดินทางไปสัมภาษณ์ถึงดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นการรายงานคำให้สัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ เกี่ยวกับสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ในฐานะองค์รัชทายาท มีข้อความที่พาดพิงและคลาดเคลื่อนโดยมิบังควรถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย และการสืบราชสันตติวงศ์อีกด้วย

พาดหัวข่าวเป็นข้อความที่ พ.ต.ท.ทักษิณระบุการสัมภาษณ์ให้ร้าย และล่วงละเมิดองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงประทับรักษาพระวรกายอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราชตั้งแต่เดือนกันยายน 2552 ที่ผ่านมา "อย่างรุนแรง" พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์พาดพิงและล่วงละเมิดองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมถึงสถาบันกษัตริย์ของไทยอย่างรุนแรง มีการกล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์แต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาส่วนตัวของสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา รวมถึงดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจรัฐบาลกัมพูชาอย่างเป็นทางการด้วย

พ.ต.ท.ทักษิณพยายามที่จะให้ข้อมูลกับสื่ออังกฤษอย่างผิดๆ ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีส่วนรับรู้ต่อเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ซึ่งทำให้เขาต้องหลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมกับกล่าวโจมตีบุคคลที่อยู่ “แวดวงในวัง” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บรรดาองคมนตรีว่าจับมือกับนายพลระดับสูงเพื่อทำการรัฐประหารรัฐบาลของเขา

“ในหลวงทรงยอมรับการรัฐประหารอย่างรวดเร็ว และปฏิเสธคำถวายฎีกาที่กลุ่มคนเสื้อแดง 3.5 ล้านคน ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ” เดอะ ไทมส์ระบุ อย่างไรก็ตาม สื่ออังกฤษกลับไม่กล่าวอธิบายแต่อย่างใดว่าการยื่นฎีกาดังกล่าวของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นไม่สามารถกระทำได้เพราะผิดทั้งธรรมเนียมปฏิบัติและไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

ส่วนในกรณีที่มีกระแสข่าวที่ระบุว่าเขาจะเดินทางไปยังประเทศกัมพูชาในวันที่ 12 พ.ย. ตามคำเชิญของฮุนเซน พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า เขาจะเดินทางไปจริง โดยจะไปถึงกัมพูชาในวันนี้ (10 พ.ย.) อย่างไรก็ตาม เขาปฏิเสธว่าไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนไปอยู่อาศัยที่กัมพูชาเป็นการถาวรแต่อย่างใด

วันเดียวกันช่วงบ่าย หลังการออกมาปฏิเสธคำสัมภาษณ์และโจมตีว่าเว็บไซต์ไทมส์ ออนไลน์ บิดเบือนข้อเท็จจริง เว็บไซต์ไทมส์ ออนไลน์ได้เผยแพร่ บทสัมภาษณ์ฉบับเต็ม Thaksin Shinawatra: the full transcript of his interview with The Times ความยาวประมาณ 12 หน้า (http://www.timesonline.co.uk/tol/news/world/asia/article6909258.ece)

**ชี้ชัดพฤติกรรมแม้วล้มเจ้า

เมื่อวานนี้ (9 พ.ย.) ถือเป็นครั้งแรกที่ พ.ต.ท.ทักษิณพูดถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างไม่อ้อมค้อม เหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณมักจะใช้คำว่า "ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ" ครั้งล่าสุดนี้ พ.ต.ท.ทักษิณยังอาจหาญบอกด้วยว่า เขาจะได้รับการพระราชทานอภัยโทษ หากพระมหากษัตริย์องค์ต่อไปไม่ใช่องค์ปัจจุบัน พฤติกรรมดังกล่าวสอดคล้องและยืนยันการตั้งข้อสังเกตของนายสนธิ ลิ้มทองกุล หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ต่อสู้กับ พ.ต.ท.ทักษิณและขบวนการล้มเจ้าอย่างรู้เท่าทัน โดยการต่อสู้ของพันธมิตรฯ ในห้วงที่ผ่านมาพยายามชี้ให้สังคมเป็นว่ามีขบวนการทำลายองคมนตรี ดูหมิ่นจาบจ้วง เป้าหมายหลักอยู่ที่สถาบันพระมหากษัตริย์ โดยการสนับสนุนของคนในตระกูลและคนรอบข้าง พ.ต.ท.ทักษิณอย่างต่อเนื่อง

ไม่เว้น ปรากฏการณ์ที่เพื่อนร่วมรุ่นนายร้อยเตรียมทหาร และตำรวจรุ่นที่ 10 รวมถึงทหารตำรวจอาวุโส ที่ย้ายเข้าพรรคเพื่อแผ่นดินเมื่อเดือนที่ผ่านมา คนกลุ่มนี้เสมือนได้รับสัญญาณจาก พ.ต.ท.ทักษิณว่าถึงเวลาแล้วที่จะเปลี่ยนแปลงพระมหากษัตริย์องค์ใหม่ จึงสั่งให้เหล่านี้เลือกข้าง ไม่นับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่ร่วมขบวนการไปล่วงหน้า การแฉขบวนการดังกล่าวส่งผลให้นายสนธิถูกดำเนินคดีอยู่จนถึงปัจจุบันเพราะถูก พ.ต.ท.ทักษิณและพวกกลั่นแกล้งในข้อหาหมิ่นประมาท

หากย้อนกลับไปดูการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อต่างประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณเริ่มชัดเจนเมื่อปลายปี 49 สมัยรัฐบาลสุรยุทธ์ จุลานนท์ มีการใช้สื่อต่างประเทศโจมตีสถาบันฯ ทั้งที่สิงคโปร์กับสถานีโทรทัศน์ CNN หรือการให้สัมภาษณ์นิตยสาร The Asian Wall Street Journal, The Economist และ Newsweek ก่อนจะใช้ญี่ปุ่นเป็นฐานให้ข่าวผ่านนิตยสารไทม์เมื่อเดือน ก.พ.ปี 50 เป็นบทความ ชื่อ Thailand: Thaksin's Giant Shadow และ “I'm Calling It Quits” แต่ละคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณมีการพาดพิงสถาบันฯ

***เล่ห์โจรอ้าง “ไทมส์” บิดเบือน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.15 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 7 กรณีการเสนอข่าวของไทมส์ออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ www.thaksinlive.com ระบุว่า ตามที่มีการเสนอข่าวใน www.timesonline.co.uk วันที่ 9 พ.ย. 2552 พาดหัวข่าวว่า “Ousted Thai leader Thaksin Shinawatra calls for ‘shining’ new age after King’s death” เป็นการบิดเบือนคำให้สัมภาษณ์ของผมโดยสิ้นเชิง และ การเสนอข่าวที่เป็นความเท็จดังกล่าวก่อให้เกิดความสับสนเข้าใจผิดในหมู่ผู้อ่านข่าว และในหมู่คนไทยตามมา จึงขอกราบเรียนข้อเท็จจริงดังนี้

1.ผมไม่เคยให้สัมภาษณ์ตามเนื้อความที่ว่า “calls for ‘shining’ new age after King’s death” การพาดหัวข่าวดังกล่าวเป็นการกระทำของ timesonline ที่เป็นเท็จทั้งสิ้น ผมไม่เคยให้สัมภาษณ์เช่นนั้น 2.ผมไม่เคยให้สัมภาษณ์ไปตามที่มีข้อความว่า “called for reform of the country’s revered monarchy and spoken of a “shining” new age after the era of the ailing King, Bhumibol Adulyadej.” การเขียนข่าวดังกล่าวเป็นการกระทำของ timesonline ที่เป็นเท็จทั้งสิ้น ผมไม่เคยให้สัมภาษณ์เช่นนั้น

3.ผมไม่เคยให้สัมภาษณ์ที่ไปกระทบสถาบันใดๆเลยแต่ในทางตรงกันข้ามระหว่างการสัมภาษณ์นั้นได้ปกป้องสถาบันว่าอยู่เหนือการเมืองและเทิดทูนสถาบันว่าเป็นที่เทิดทูนของคนไทยทั้งปวงและคนหนึ่งคนใดไม่ควรดึงสถาบันให้มาเกี่ยวข้องกับการเมือง 4.ผมได้สัมภาษณ์เทิดทูนพระเกียรติและพระปรีชาสามารถของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร

ผมรู้สึกเสียใจต่อการนำเสนอข่าวของ timesonline ในครั้งนี้ ทั้งๆที่ผมได้กำชับผู้สัมภาษณ์ว่าเรื่องสถาบันเป็นเรื่องสูงและละเอียดอ่อน ต้องนำเสนอข่าวให้ตรงกับสิ่งที่ผมพูด ผมจึงขอประณาม timesonline ที่เสนอข้อความเท็จและสร้างความสับสนในเรื่องนี้ ผมยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่าครอบครัวผมและตัวผมมีความจงรักภักดีต่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ และพร้อมสละชีวิตเพื่อปกป้องสถาบันเช่นเดียวกับคนไทยทุกคน.
กำลังโหลดความคิดเห็น