“เด็ดดอกไม้รายทาง”
โดย...อัญชะลี ไพรีรัก
สุดสัปดาห์นี้ขอเล่าเรื่อง แม่ยกพันธมิตรฯที่กำลังเขยิบวิทยฐานะ กลายเป็นดอกไม้ประชาธิปไตย ในโครงการ “ร้อยบุปผาบานสะพรั่ง ร้อยพลังผู้หญิงไทยสู่การเมืองใหม่ ”
กิจกรรมแรกของพรรคการเมืองใหม่ ที่ริเริ่มโดยผู้หญิง เพื่อสังคมที่ดีกว่า สำหรับลูกหลานของเราในอนาคต
โครงการร้อยบุปผาบานสะพรั่ง ฯ มีที่มาจากกลุ่มเพื่อนหญิงพลังหญิงทั่วทุกสารทิศ ที่รวมตัวกันเหนียวแน่นจากการชุมนุมของพันธมิตรฯทั้งสองครั้ง ในนาม แม่ยกพันธมิตรฯ
สุภาพสตรีเหล่านี้มีอายุอานามแตกต่าง และ คละเคล้าอาชีพกันไป ส่วนใหญ่มีครอบครัวแล้ว บางคนลูกเล็ก บางคนลูกเติบใหญ่มั่นคง แต่ทุกคนมีความเชื่อเดียวกันว่า ถ้าผู้หญิงสร้างครอบครัวให้อิ่ม –ให้อุ่นได้ฉันใด ผู้หญิงย่อมสร้างประเทศซึ่งเป็นเสมือนครอบครัวใหญ่ให้อิ่ม และ อุ่นได้ฉันนั้น
เดิมทีอดีตนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชดำเนินเหล่านี้ มักใช้วันว่างจากครอบครัวและงานการ พบปะพูดคุยกันเป็นประจำอยู่แล้ว อันเป็นความสัมพันธ์แนบแน่นมาแต่ครั้งมีการชุมนุม
แน่นอนเรื่องที่เธอๆเหล่านี้คุยกันย่อมไม่ใช่นิยายปรัมปรา หรือ ละครน้ำเน่าหลังข่าวเหมือนใครเขา หากแต่พวกเธอมักหยิบเรื่องชาติบ้านเมืองมาคุยกันเสมอๆ และ หลายครั้งที่การรวมตัวกันเพื่อประกอบกิจกรรมการเมืองภาคประชาชน ไปโน่นมานี่เพื่อเพิ่มเติมกำลังวังชาและความรู้การเมืองให้ก้าวหน้าไม่หยุดหย่อน
จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์บ้านเมืองแปรเปลี่ยนไปในทางเลวร้ายลงเรื่อยๆ และ รัฐบาลพลิกขั้วโดยนายกฯรูปหล่อไม่เข้มแข็ง เด็ดขาดอย่างใจนึก ในสายตาของผู้หญิงพันธมิตรฯกลับมองว่า รัฐบาลชุดนี้มีการบริหาราชการแผ่นดินเหมือน “ตัดไม้ไว้หน่อ” มัวแต่เกรงใจคนโน้น เอาใจคนนี้ ท่ามกลางพรรคร่วมรัฐบาลเสือหิว จนเสียท่าตกอยู่ในเกมของทักษิณอยู่บ่อยๆ
เมื่อปัญหาคาราคาซังเริ่มทับถมบ้านเมืองให้ร้อนรุ่ม กอปรกับการโจมตีสถาบันสูงสุดของวิทยุเสื้อแดงและสื่ออื่นๆของฝากโน้นที่ยังมีไม่หยุดหย่อน โดยที่รัฐบาลเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ทำให้ปัญหาต่างๆที่เริ่มมาตั้งแต่ระบอบทักษิณกินเมือง ทำท่ากลับคืนฟื้นขึ้นมาใหม่ หนักหนาสาหัสก็เรื่อง “ข่าวอัปมงคลทุบหุ้นหาทุนเผาบ้านเมือง” นั่นละจึงถึงจุด “ยอมกันไมได้แล้ว”
เมื่อจุดดีถึงคราวเดือด ผู้หญิงพันธมิตรฯกลุ่มนี้ จึงชักชวนกันตั้งกลุ่มผู้หญิงกับการเมืองใหม่อย่างจริงจัง และ ปะติดปะต่อตบแต่งแนวความคิดร่วมกันจนลงตัวในนาม “ร้อยบุปผาบานสะพรั่ง ร้อยพลังสู่การเมืองใหม่” โดยเริ่มกิจกรรมแรก ด้วยการเสวนาหานโยบายเพื่อพัฒนาสังคม การเมือง และเศรษฐกิจ พร้อมคำประกาศสั้น และ ง่ายว่า “ จะอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือสังคมไทย โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ ในกรอบการเมืองใหม่”
ทั้งนี้เพื่อให้เกิดอานิสงส์ของการเปลี่ยนแปลงที่จะตกอยู่กับ ลูก และ หลานของแผ่นดิน
หลังจากตกผลึกทางความคิดกับการเมืองใหม่เรียบร้อย แม่ยกพันธมิตรฯผู้มากน้ำใจจึงจัดแจงส่งข่าวนี้ออกไปเพื่อระดมผู้หญิงพันธมิตรฯในเครือข่าย เข้าร่วมโครงการ “ร้อยบุปผาบานสะพรั่ง ร้อยพลังผู้หญิงไทยสู่การเมืองใหม่” กับ กิจกรรมแรกคือ การระดมทุน และ ระดมพลจากผู้หญิงเพื่อสร้างพรรคให้เข้มแข็ง และ สร้างคนการเมืองที่ดีให้กับบ้านเมือง
แม่ยกพันธมิตรฯใจเด็ด จึงเริ่มเรียกขานตัวเองใหม่ในนาม “ร้อยบุปผา” และเคลื่อนไหวการเมืองของผู้หญิงคนดี ภายใต้สัญลักษณ์ “โบว์สีเหลือง” กลัดที่หน้าอก เพื่อรำลึกถึง “น้องโบว์” ของเรา 2 คนที่สละชีพเพื่อชาติเป็นราชพลีในเหตุการณ์ 193 วัน
บัตรเข้าร่วมเสวนานโยบายการเมืองกับผู้หญิง ถูกผลิตขึ้นมาเพียง 100 ใบ ในราคาใบละ 50,000 บาท เพื่อระดมทุนตั้งหลักเป็นก้อนแรกให้กับพรรคการเมืองใหม่
โดยการเสวนาถูกจัดขึ้น ณ สำนักงานใหญ่ของพรรคฯ ที่จะย้ายมาอยู่ที่บริเวณถนนผ่านฟ้า ในวันที่ 29 พ.ย. นี้เวลา บ่ายโมงถึงสี่โมงเย็น และ ผู้หญิงเข้มแข้งกลุ่มนี้จะรวมหัวกันนำเสนอนโยบายเพื่อลูกหลานของเธอในอนาคตให้กับแกนนำพรรคได้รับฟัง และ นำไปประกอบเป็นนโยบายหลักของพรรคการเมืองหใม่ …จะถูก จะผิด จะดี หรือ บกพร่อง ก็มาว่ากันจะจะในงานเสวนา ผู้หญิงกับการเมืองใหม่ในครั้งนี้
นอกจากนี้แล้ว กลุ่มร้อยบุปผาฯยังใช้โอกาสนี้ชักชวนผู้หญิง และ ผู้ชาย ของการเมืองใหม่ ก่อตั้งโครงการ “โรงเรียนวันอาทิตย์” ตามคำแนะนำของ ดร. สุวินัย ภรณวลัย อีกด้วย
โรงเรียนแห่งนี้มีหลักการเหมือนมหาวิทยาลัยราชดำเนิน คือ เป็นการเรียนการสอนนอกห้องเรียน สถานที่ก็เป็นที่ทำการพรรค ครูก็มาจากคณะร้อยบุปผาฯ วิชาที่สอนก็เปิดเรียนตั้งแต่ ห้องเรียนการเมืองภาคประชาชน โดยมีครูใหญ่ชื่อ พิภพ ธงชัย แถมยังห้องเรียนอาชีพ แยกเป็นห้องเรียนด้านอาหาร – ขนม - เย็บปักถักร้อย มีห้องเรียนศาสนา ห้องเรียนวิชาดนตรี และ ศิลปะ รวมถึงห้องปรึกษาปัญหาชีวิต เป็นต้น
ส่วนคนที่สนใจมาเรียนมาร่วมกิจกรรมที่พรรคการเมืองใหม่ จะเป็นใครก็ได้ที่สนใจพัฒนาตนเอง และ พร้อมช่วยเหลือคนอื่นๆต่อไปโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนเช่นเดียวกัน
ไม่ว่าคุณจะเป็นเสื้อสีใด จะเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใหม่หรือไม่ ไม่สนใจใคร่รู้ แค่เพียงประสงค์จะเรียน เรามีให้ หรือ คนทุกข์คนไหนใจโผเผ ก็มาหาความอบอุ่นได้ที่โรงเรียนวันอาทิตย์แห่งนี้ กับคณะสตรีร้อยบุปผาฯ ขอเพียงอย่างเดียว ขอให้ทุกคนเข้มแข็งยืนหยัดได้ และ เป็นคนดีของประเทศชาติต่อไป
ร้อยบุปผาบานสะพรั่งไม่หยุดแค่นี้ เมื่อปักหลักในจุดแรกได้แล้ว จะเดินงานเพื่อร้อยบุปผาต่อไปในภูมิภาค ผู้หญิงของการเมืองใหม่ จะร้อยบุปผาให้บานสะพรั่งไปทั้งแผ่นดิน ร้อยรัดคนดีเข้ามารวมกัน เป็นดอกไม้ประชาธิปไตยดอกเดียว ที่จะร้อยกำลังสร้างสังคมที่ดีกว่าให้ลูกไทยหลานไทยในวันนี้และวันหน้า
นี่เป็นหลักการ จากใจถึงใจ - จากมือสู่มือ เหมือนสัญลักษณ์พรรคการเมืองใหม่ ที่มุ่งสร้างความรัก ความปรองดอง- สมานฉันท์ระหว่างคนมีกับคนดี คนเต็มกับคนพร่อง คนสองฝั่งให้กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียว เพื่อก่อเกิดคนดีของแผ่นดิน...แผ่นดินแห่งองค์ราชาผู้เป็นสง่าแห่งแคว้น...พ่อหลวงของปวงชนชาวไทย
จากแนวทางพันธมิตรฯที่ลุงจำลองวางไว้ ในวันกู้ชาติว่า “มาทำหน้าที่ ใช้หนี้แผ่นดินและมาทำบุญ” จนถึง “การทำบุญช่วยคนโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ” ของคณะร้อยบุปผาฯ ทั้งนี้จะเกิดและเป็นไป เพื่อสร้างคนดีให้ช่วยกันซ่อมแซมแผ่นดิน เหมือนปุ๋ยขวัญดิน ปุ๋ยซ่อมแผ่นดิน
ไม่ใช่ทำตัวเหมือนคนบางคน ที่ฮุนเซนเพิ่งแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษา คนพรรค์นั้นตายไป ยังไม่มีใครกล้าเอาไปทำปุ๋ย กลัวคนเสียชาติเกิด ...ทำลายแผ่นดินทั้งยามจากเป็นและจากตาย.