กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ “คดีบีบีซีธนาคารผิด ผู้กู้ไม่ผิด”

สัมภาษณ์พิเศษ

กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรีที่กำลังจะกลายเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีคือ 1 ในสามคนไทยที่มีโอกาสได้พบพ่อมดการเงินอย่าง “นายราเกซ สักเสนา” ขณะที่หนีคดีไปอยู่ที่แคนาดา

สมัยนั้น นายกอร์ปศักดิ์ได้เดินทางไปสัมภาษณ์นายราเกซที่คฤหาสห์หรูริมทะเลสาปในเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา พร้อมกับนายพินิจ จารุสมบัติและนายจุติ ไกรฤกษ์ เพื่อนำข้อมูลแบงก์บีบีซีจากปากของนายราเกซเพื่อใช้ในการอภิปรายในรัฐสภา

ด้วยเหตุดังกล่าว เมื่อนายราเกซถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในไทย ชื่อนายกอร์ปศักดิ์จึงถูกหยิบยกขึ้นมาเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ดังกล่าวอีกครั้ง เพราะหลายคนอยากรู้ว่า นายกอร์ปศักดิ์ไปได้ข้อมูลชั้น “ความลับ” จากนายราเกซมากน้อยเพียงใด

มื่อวันที่ 1 พ.ย.52 ที่ผ่านมา นายกอร์ปศักดิ์ได้เขียนบทความเปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวในเว็บไซต์ส่วนตัว www.korbsak.com แต่ไม่ได้เปิดเผยอะไรมากนัก ทำให้เกิดข้อสงสัยตามมาว่า ทำไมเขาถึงมีท่าทีเช่นนั้น

วันนี้นายกอร์ปศักดิ์ เปิดโอกาสให้ “ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์” สัมภาษณ์พิเศษเพื่อคลี่สิ่งที่สังคมกำลังตั้งคำถามกับเขา

-เรื่องคดีราเกซ ทำไมถึงเลือกที่จะเขียนผ่านเว็บไซต์ตัวเองและไม่ให้สัมภาษณ์

ก็เพราะจะได้ลงไม่ผิด เดี๋ยวนี้พวกคุณอาจจะหมดงานในเร็วๆ นี้ เพราะพวกที่เป็น News maker อย่างผมแทนที่จะมานั่งสัมภาษณ์ก็เขียนเองไม่ผิดด้วย แต่มีข้อดีข้อเสีย ข้อดีคือข้อมูลเป๊ะเลย ข้อเสียคือว่าผมจะต้องยืนหยัดว่าข้อมูลนี้ผมเขียนเอง เพราะฉะนั้นผมจะซิกแซกไม่ได้ แต่ถ้าผมให้สัมภาษณ์ ผมอาจจะบอกว่า ไปเขียนผิดเอง อะไรเอง

-เท่าที่อ่านในเว็บไซต์ก็ไม่ได้ให้ข้อมูลละเอียดอะไรมากนัก มีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมที่ต้องการบอกอีกหรือไม่

ไม่ให้ครับ ให้ไม่ได้ เพราะข้อมูลที่มีแล้วจะให้ เป็นข้อมูลการกล่าวหาบุคคลอื่น ซึ่งไม่มีหลักฐาน มันเป็นคำกล่าวหาของนายราเกซและผมเอามาเล่าต่อจะไม่ถูกฟ้องตายหรอ เนี่ยบางคนก็เขียนด่าผมว่า โอยประชาธิปัตย์อีกแล้ว เป็นพวกถอยหลังบ้าง ถ้าคุณเป็นผมคุณจะกล้ามั้ย ไปปักปำคนนั้นคนนี้เขา แต่ในส่วนที่ปักปำแล้วมีหลักฐานผมก็ได้ใช้ไปแล้วในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อ 10 กว่าปีก่อน แต่ในส่วนอื่นที่ไม่มีหลักฐานผมไม่ใช้ ผมพูดคำนี้มา 10 กว่าปีแล้ว อย่างใครถามผมก็พูดอย่างนี้ มีคนอย่างจะได้ แล้วผมจะให้ได้ยังไง

-ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี บอกว่าพร้อมที่จะให้ข้อมูลทั้งตำรวจ และคนทำคดี

ก็เอาตำรวจมาถามสิ ผมจะให้ แต่ไม่ใช่พวกท่าน คือผมให้ไม่ได้ ทางตำรวจสนใจก็มา แต่ต้องบอกว่ามันเป็นคำพูดของผู้ร้ายคนหนึ่งที่หนีคดีไปอยู่เมืองนอก อาจจะไม่มีความจริงเลยก็ได้ ก็น่าสงสารคนที่ถูกกล่าวหา หรืออาจจะเป็นความจริงก็ได้ เราไม่ทราบ สมมติตำรวจได้ไป เขาก็ไปสืบต่อ

-ตอนนี้พรรคเพื่อไทยหยิบเรื่องนี้มาโจมตีรัฐบาลทุกวัน

ก็ต้องโจมตีทุกวันอยู่แล้วหน้าที่เขา ถ้าเขาชมก็ผิดสิ ต้องโจมตีอยู่แล้ว

-ตรงนี้อาจจะเป็นจุดที่มีคนนำมาโจมตี เพราะตอนที่เป็นฝ่ายค้านก็ใส่แรง แต่พอปัจจุบันมาร่วมรัฐบาลกันแล้วเหมือนท่าทีจะเบาลง

ผมไม่เคยใส่ ไม่เคยไปดูสิ ผมพูดคำนี้มาตลอด ไม่รู้ใครเป็นใครบอกว่าผมใส่ คือผมเคยใส่ชัดเลยในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ข้อมูลนั้นเปิดเผยไปแล้ว แต่เรื่องข้อมูลอื่นผมไม่เคยใส่ เรื่องของกลุ่ม16 ผมไม่เคยพูดเลย เพราะผมคิดว่าเขาไม่ได้ผิดตรงไหน คนผิดคือคนปล่อยเงินกู้ ไม่ใช่คนกู้เงิน สมมติคุณมากู้ที่แบงก์ 100 ล้าน แล้วคุณเอาโฉนดปลอมไปให้ แล้วแบงก์ให้กู้ คุณผิดรึเปล่า แบงก์ต่างหากที่ผิดดันไม่ตรวจสอบโฉนดว่ามีค่า 100 ล้านรึเปล่า

-เขารู้เห็นเป็นใจกันรึเปล่า เพราะเป็นพวกเดียวกัน

อ้าว! ถ้ารู้แล้วใครผิดล่ะ แบงก์ผิดถูกไหม มันเป็นเรื่องจริง เพราะมันไม่ใช่การโกงโครงการไง สมมตินาย ก. นาย ข. นาย ค. นาย ง. เป็นนักธุรกิจแล้วเขาไปกู้เงิน และธนาคารให้กู้

-แต่คนที่ไปกู้เงินก็มีนักการเมือง

แล้วใครล่ะ ตอนนั้นคุณเนวิน เป็นส.ส. สมัยแรกมั้ง ผมไม่ได้เข้าข้างเขา สิ่งที่ผมพูดและอภิปรายในสภา ไม่ได้เกี่ยวกับกลุ่ม 16 เกี่ยวกับคนคนเดียว 2-3 คน คือเกี่ยวกับพรรคชาติไทย เกี่ยวกับหัวหน้าพรรคคือคุณบรรหาร ศิลปอาชา เกี่ยวกับกรรมการบริหารพรรคคือคุณสุชาติ ตันเจริญ 3 คน แล้วไม่ได้เกี่ยวกับการกู้เงิน เป็นประเด็นคนละประเด็นกัน

-ล่าสุดได้คุยกับคุณจุติ ไกรฤกษ์ คุณพินิจ จารุสมบัติ หรือยัง แล้วในพรรคประชาธิปัตย์ล่าสุดได้คุยกันยังไง

กับพินิจไม่ได้คุย กับจุติไม่ได้คุย จุติเขาก็บอกว่าพี่ผมไม่รู้เรื่อง ผมก็เป็นหัวหอกเพราะพอรู้จักราเกซมาก่อน แต่ข้อมูลที่เก็บไว้ยังให้ไม่ได้ พูดไม่ได้หรอก ถ้าพูดเมื่อไหรเขาก็คงฟ้อง ผมตาย ขึ้นศาลอวกเลย เพราะมันไม่มีหลักฐาน

-แล้วถึงขั้นที่จะให้ดีเอสไอมาดูหรือไม่

ก็แล้วแต่เขา

-ตอนนั้นราเกซ ซัดทอดเยอะหรือไม่

ไม่ตอบ ไม่ตอบ

-ในฐานะที่นำตัวราเกซกลับมาที่ประเทศไทยได้ อยากฝากอะไรกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำคดี

ก็อย่างที่ผมเขียนในบล็อค คืออย่าให้เขาตาย ผมเป็นห่วงเรื่องของความปลอดภัย เพราะว่าผมกลัว เนื่องจากเป็นคดีลักษณะที่เขาโดนศาลฟ้อง แล้วก็หนีไปอยู่ต่างประเทศ แล้วเราก็ขอให้ส่งตัวกลับ ถ้าดูในลักษณะการต่อสู้ เขาต่อสู้ว่าส่งตัวเขากลับมาไม่ได้ เพราะเขาไม่อยากถูกฆ่าตาย เพราะฉะนั้นถ้าตายจริงขึ้นมาเราแย่ แล้วจะมีคนอื่นที่ยังหนีคดีอยู่ เอาเคสนี้ไปข้อลี้ภัย นั่นก็คือคุณทักษิณ เดี่ยวจะเอาไปใช้ประโยชน์

-แสดงว่าข้อมูลที่มีอยู่ เกี่ยวโยงกับคนหลายคน และก็น่าจะสำคัญมากเลยใช่หรือไม่

ไม่ ผมไม่ทราบ ผมไม่คิดว่าเขาจะตายเรื่องนี้ แต่ไม่รู้จะตายเรื่องไหน แต่อย่าตายแล้วกัน มันไม่มีใครพิสูจน์ได้สักทีนะ นักโทษไม่ตายก็หนีไปเฉยๆ สมัยก่อนักโทษคดีดังๆ ยาเสพติดอย่างนี้อยู่ดีๆ หายไปเฉยๆ

-ขออนุญาตถามถึงเรื่องตำแหน่งใหม่ คือเลขานายกรัฐมนตรี ตอนนี้มีความคืบหน้าแค่ไหน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีหรือยัง

ยังครับ เพราะว่ามันมีกระบวนการที่ต้องดำเนินการตามขั้นตอน คงต้องรออีกสักพัก คาดว่าน่าจะภายในปีนี้ หรือเร็วกว่านั้น

-ถามตรงๆ แล้วน้อยใจหรือไม่ เพราะระดับชั้นต่ำลงมาตั้งเยอะ

ผมเต็มใจ จะไปน้อยใจได้ยังไง ผมถือว่าเป็นงานที่ผมอยากทำตั้งแต่ต้น

-อย่างกับท่านนิพนธ์ พร้อมพันธ์ เลขาธิการนายกฯ คนเก่า ได้คุยกันหรือไม่

ผมไม่ได้คุยกับท่านเลย เพราะว่าปล่อยให้ท่านสบายใจก่อน ปกติก็ไม่ได้เจอกับท่านอยู่แล้ว คงต้องหารือกันหลังจากที่ผมกำลังจะกระโดดไปฝั่งโน้น

-ช่วงที่เป็นรองนายกฯ ได้ขวางการทำงานไว้หลายเรื่อง พอเปลี่ยนตำแหน่งเลขาธิการนายกฯ แล้วเป็นห่วงปัญหาความขัดแย้งก่อนหน้านี้หรือไม่ เช่นกับกระทรวงพาณิชย์

ความจริงผมไม่ได้มีความขัดแย้งในเรื่องของความคิดมากนัก ไม่ใช่เฉพาะกระทรวงไหน แต่พอดีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวกับข้าวโพด คือผมไม่มั่นใจว่าวิธีการที่เอาไปขายมันถูกต้องตามระเบียบทางราชการเลยเอาเข้าไปหารือในคณะรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีก็เห็นด้วยกับผมว่ามันไม่ถูกต้อง ก็เลยต้องยกเลิกไป แต่ไม่ได้หมายความว่าขายถูก ขายแพง ผมยังไม่คิดถึงเรื่องนั้นเลย เอาแค่ว่าที่ทำมันถูกต้องรึเปล่า

-ในพรรคมีการพูดคุยกันหรือไม่ว่า คุณกอร์ปศักดิ์เหมาะสมกับตำแน่งนี้ เพราะในพรรคบางคนก็ไม่ค่อยพอใจ

ผมไม่เห็นนะว่ามีคนไม่พอใจ เพราะว่าตำแน่งเลขาธิการนายกฯ เป็นตำแหน่งที่นายกฯ เป็นคนเลือก และการเลือกไม่ว่าจะเลือกใคร นายกฯ ไม่ต้องขอความเห็นชอบจากกรรมการบริหารพรรค หรือสส.พรรค คือจะแจ้งให้ทราบเท่านั้น คือถ้าท่านเลือกคนมาเป็นเลขาธิการท่านไม่ได้ก็ไม่รู้จะทำงานยังไง แต่ตำแหน่งรองนายกฯ ต้องขอความคิดเห็นจากพรรคให้ความเห็นชอบ

-งานแรกที่จะเข้าไปทำในส่วนของเลขาธิการนายกฯ คืออะไร

ต้องการผลักดันนโยบายให้ทำได้จริงคือหัวใจสำคัญสุด เพราะนโยบายหลายนโยบายก็ต้องไล่ตรวจไล่เช็ค มติครม. ที่ออกมาต้องให้เกิดความเป็นรูปธรรม ปฏิบัติได้โดยเร็ว เพราะบางทีมติครม.ไม่มีคนไปติดตามกว่าเจ้า
กระทรวงจะรู้ใช้เวลา 2 อาทิตย์ เราต้องเขาไปติดตาม ส่วนเรื่องความปลอดภัยของนายกฯ และเรื่องอื่นๆ เป็นเรื่องปลีกย่อย

-ยังมีสิ่งที่ยังไม่ได้ทำ และเป็นห่วงอีกในตำแหน่งรองนายกฯ อีกหรือไม่

ก็มีเรื่องโครงการประกันรายได้ แต่คิดว่าใกลเสร็จพอดี คิดว่ายังไงสิ้นเดือนนี้คงทัน คือจุดที่เป็นหน้าที่ของเราน่าจะจบ และเราไปทำต่อได้ในหน้าที่เลขาธิการนายกฯ งานนโบายกือบจะจบแล้ว

เรื่อง...ออรีสา อนันทะวัน