"ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี" ในฐานะเจ้ากระทรวงไอซีที ประกาศเดินหน้าโครงการ 3G ของทีโอทีมูลค่า 20,000 ล้านบาท ลั่น "ไม่มีการยกเลิก" เฟสแรกเริ่มวันที่ 3 ธ.ค.นี้ เปิดให้บริการในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล 548 สถานีฐาน ส่วนการให้บริการต่างจังหวัดทั่วประเทศ จะเร่งตรวจสอบระเบียบพัสดุทีโอทีและนำเงื่อนไขการประมูลฉบับภาษาอังกฤษขึ้นเว็บไซต์ทีโอที "ทำประชาพิจารณ์" หลังจากนั้นทีโอทีจะคัดเลือกผู้ชนะการประมูลในเดือน เม.ย.53 ทำไปแก้ไป...
ทีโอทีอ้างที่มาของการการประกาศกร้าวของ รมต.ไอซีทีเกิดจากที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจมี "รองนายกฯ" เสนอให้ยกเลิกโครงการฯ รองนายกฯ คนนั้นคือ "กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ" รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ แถมพาดพิงด้วยว่า "รองฯ กอร์ป" เสนอไอเดียที่ประชุมให้ยกเลิก เพราะจะนำเงินไปทำนโยบายประชานิยมรากหญ้า ก่อนสำทับ "รองฯ กอรป์" ไม่มีความรู้เรื่อง 3 G...
"รองฯ กอร์ป" พูดไท่ออก ซุ่มอยู่หลายวันก่อนโผล่ชี้แจงผ่านเว็บไซต์ korbsak อ้างที่ประชุมวันนั้น มีนายกฯ นั่งหัวโต๊ะ "รองฯ กอร์ป" แค่ตั้งข้อสังเกต แจ้งที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจเรื่อง "สัญญาสัมปทานมือถือระหว่างรัฐวิสาหกิจ" ว่ามีการแก้ไขกันหลายครั้ง กฤษฎีกามีความเห็นว่าเป็นการแก้ไขที่ผิดกฎหมาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับละเลย ผ่านไปสองปีกว่า วันนี้แทนที่จะ "ชะลอ" แก้ไขให้ถูกต้อง กลับรีบร้อน "ทำไปแก้ไป" มันเหมาะสมแล้วหรือ? วันนั้นเจ้าหน้าที่ทีโอทีก็นั่งอยู่ในที่ประชุม แต่ทำไมถึงใบ้รับประทาน...
ในส่วน "แผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม" สัญญาสัมปทานที่เอกชนรับไป กำหนด "ให้ยุติ" ภายในปีหน้า กลับถูกบิดเบือนเป็น "ให้ยกเลิก" สัญญา ข้อเท็จจริงก็คือการยุติหมายถึงการให้นำมูลค่าสัญญาทั้งหมดมาคำนวนให้เป็นมูลค่าในปี 53 "คู่สัญญาจะต้องชำระเงินทั้งหมด" หรือ "ชำระในช่วงเวลาตามกำลังความสามารถก็ตกลงกันได้" ประเด็นอยู่ที่การโอนย้ายลูกค้า 2G ของเอกชน (ต้องจ่ายค่าสัมปทานให้กับรัฐฯ ร้อยละ 20-25) เปลี่ยนไปให้บริการ 3G นั้น (แบ่งรายได้ให้ กทช. แค่ร้อยละ 6.5) มันไม่แฟร์...
วันนั้น กทช.ก็นั่งหัวโด่ เงียบกริบเช่นกัน นอกจากไม่ปกป้องผลประโยชน์ของรัฐแล้ว น่าสงสัยว่าความเป็นอิสระของ กทช. หมายถึงอิสระในการรับข้าวรับน้ำจากเอกชนด้วยรึเปล่า? ผลประโยชน์แทนที่จะตกเป็นของส่วนรวมจึงรั่วไหลกันให้ควั่ก....แผล็บๆ...
ไปดูความอัปยศบนท้องถนนกันบ้าง "ทางด่วนโทลล์เวย์เตรียมขึ้นราคาอีก 30 บาท" จาก 55 เป็น 85 บาท เวรกรรม!!! ผู้ใช้รถใช้ถนนถูกมัดมือชก ถึงแม้จะอยู่ภายใต้สัญญาสัมปทานที่ได้ลงนามขยายอายุสัมปทาน 27 ปี ก็ตาม แต่การปรับขึ้นเต็มเพดานถือว่าเป็นการกระทืบประชาชน ทำไมผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างอธิบดีกรมทางหลวงในฐานะคู่สัญญา หรือเจ้ากระทรวงคมนาคม!!!
โห! อีกแล้วหรือนี่ "โสภณ ซาเล้ง" เจ้าเก่า "ลูกคนเลี้ยงช้าง" ยังไม่ทันหมดวีรเวรรถไฟไทย พี่แกปล่อยโทลล์เวย์ขึ้นราคาโดยใช้สำนวนโวหารดอกเตอร์ทางการตลาด "ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด หากเห็นว่าแพงคนไม่ใช้บริการ โทลล์เวย์อยู่ไม่ได้ต้องลดราคาลงอยู่ดี" เด็กเนวินคนนี้พูดได้ตามบทที่ลูกพี่สอน แต่มักจะแสดงภูมิปัญญาที่เอื้อแต่ประโยชน์เข้าพรรคภูมิใจไทย นี่ถ้ารัฐบาลอภิสิทธิ์ "อยู่ครบเทอม" คนไทยคงต้องเจอวิบากกรรมจากรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมอีกหลายดอกกกก...
ทีโอทีอ้างที่มาของการการประกาศกร้าวของ รมต.ไอซีทีเกิดจากที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจมี "รองนายกฯ" เสนอให้ยกเลิกโครงการฯ รองนายกฯ คนนั้นคือ "กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ" รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ แถมพาดพิงด้วยว่า "รองฯ กอร์ป" เสนอไอเดียที่ประชุมให้ยกเลิก เพราะจะนำเงินไปทำนโยบายประชานิยมรากหญ้า ก่อนสำทับ "รองฯ กอรป์" ไม่มีความรู้เรื่อง 3 G...
"รองฯ กอร์ป" พูดไท่ออก ซุ่มอยู่หลายวันก่อนโผล่ชี้แจงผ่านเว็บไซต์ korbsak อ้างที่ประชุมวันนั้น มีนายกฯ นั่งหัวโต๊ะ "รองฯ กอร์ป" แค่ตั้งข้อสังเกต แจ้งที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจเรื่อง "สัญญาสัมปทานมือถือระหว่างรัฐวิสาหกิจ" ว่ามีการแก้ไขกันหลายครั้ง กฤษฎีกามีความเห็นว่าเป็นการแก้ไขที่ผิดกฎหมาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับละเลย ผ่านไปสองปีกว่า วันนี้แทนที่จะ "ชะลอ" แก้ไขให้ถูกต้อง กลับรีบร้อน "ทำไปแก้ไป" มันเหมาะสมแล้วหรือ? วันนั้นเจ้าหน้าที่ทีโอทีก็นั่งอยู่ในที่ประชุม แต่ทำไมถึงใบ้รับประทาน...
ในส่วน "แผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม" สัญญาสัมปทานที่เอกชนรับไป กำหนด "ให้ยุติ" ภายในปีหน้า กลับถูกบิดเบือนเป็น "ให้ยกเลิก" สัญญา ข้อเท็จจริงก็คือการยุติหมายถึงการให้นำมูลค่าสัญญาทั้งหมดมาคำนวนให้เป็นมูลค่าในปี 53 "คู่สัญญาจะต้องชำระเงินทั้งหมด" หรือ "ชำระในช่วงเวลาตามกำลังความสามารถก็ตกลงกันได้" ประเด็นอยู่ที่การโอนย้ายลูกค้า 2G ของเอกชน (ต้องจ่ายค่าสัมปทานให้กับรัฐฯ ร้อยละ 20-25) เปลี่ยนไปให้บริการ 3G นั้น (แบ่งรายได้ให้ กทช. แค่ร้อยละ 6.5) มันไม่แฟร์...
วันนั้น กทช.ก็นั่งหัวโด่ เงียบกริบเช่นกัน นอกจากไม่ปกป้องผลประโยชน์ของรัฐแล้ว น่าสงสัยว่าความเป็นอิสระของ กทช. หมายถึงอิสระในการรับข้าวรับน้ำจากเอกชนด้วยรึเปล่า? ผลประโยชน์แทนที่จะตกเป็นของส่วนรวมจึงรั่วไหลกันให้ควั่ก....แผล็บๆ...
ไปดูความอัปยศบนท้องถนนกันบ้าง "ทางด่วนโทลล์เวย์เตรียมขึ้นราคาอีก 30 บาท" จาก 55 เป็น 85 บาท เวรกรรม!!! ผู้ใช้รถใช้ถนนถูกมัดมือชก ถึงแม้จะอยู่ภายใต้สัญญาสัมปทานที่ได้ลงนามขยายอายุสัมปทาน 27 ปี ก็ตาม แต่การปรับขึ้นเต็มเพดานถือว่าเป็นการกระทืบประชาชน ทำไมผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างอธิบดีกรมทางหลวงในฐานะคู่สัญญา หรือเจ้ากระทรวงคมนาคม!!!
โห! อีกแล้วหรือนี่ "โสภณ ซาเล้ง" เจ้าเก่า "ลูกคนเลี้ยงช้าง" ยังไม่ทันหมดวีรเวรรถไฟไทย พี่แกปล่อยโทลล์เวย์ขึ้นราคาโดยใช้สำนวนโวหารดอกเตอร์ทางการตลาด "ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด หากเห็นว่าแพงคนไม่ใช้บริการ โทลล์เวย์อยู่ไม่ได้ต้องลดราคาลงอยู่ดี" เด็กเนวินคนนี้พูดได้ตามบทที่ลูกพี่สอน แต่มักจะแสดงภูมิปัญญาที่เอื้อแต่ประโยชน์เข้าพรรคภูมิใจไทย นี่ถ้ารัฐบาลอภิสิทธิ์ "อยู่ครบเทอม" คนไทยคงต้องเจอวิบากกรรมจากรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมอีกหลายดอกกกก...