xs
xsm
sm
md
lg

"มาร์ค"หนุนอสังหาฯไทย ดึง 3 แบงก์รัฐปล่อยกู้ลงทุนตปท.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – "มาร์ค”ยาหอมธุรกิจอสังหาฯไทย หนุนบุกตลาดต่างประเทศ พร้อมดึง 3 แบงก์รัฐ EXIM BANK ธ.กรุงไทย และ SME BANK ร่วมลงนาม 5 สมาคมธุรกิจที่ปรึกษาออกแบบและก่อสร้าง ปล่อยกู้ผู้ประกอบการไทยไปลงทุนต่างประเทศ ประเดิม 6 ประเทศเป้าหมาย ลิเบีย บาห์เรน กาตาร์ อินเดีย เวียดนาม และบรูไน หวังเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ธุรกิจอสังหาฯไทยในตลาดโลก

วานนี้ (5 พ.ย.52) 3 ธนาคารรัฐ ประกอบด้วย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK), ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME BANK) ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่าง 3 ธนาคารกับ 5 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย สมาคมวิศวกรที่ปรึกษาแห่งประเทศไทย (ว.ป.ท.), สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์, สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย และสมาคมช่างเหมาไฟฟ้าและเครื่องกลไทย ณ ทำเนียบรัฐบาล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การสนับสนุนด้านการเงินสำหรับการไปทำธุรกิจในต่างประเทศของผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรมการก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อช่วยให้ธุรกิจที่ปรึกษา ออกแบบ และก่อสร้างไทยสามารถแข่งขันได้ในต่างประเทศ

โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีลงนาม พร้อมกล่าวเปิดงานเสวนาและปาฐกถา หัวข้อ “นโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมธุรกิจที่ปรึกษา ออกแบบและก่อสร้างในต่างประเทศ” ว่า ภาครัฐพร้อมสนับสนุนภาคธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ในเข้าไปลงทุนและทำการตลาดยังต่างประเทศเพื่อเพิ่มศักยภาพการลงทุน เนื่องจากมูลค่าตลาดอสังหาริมทรัพย์โลกแต่ละปีจะเพิ่มสูงถึง 150 ล้านล้านบาท เฉพาะในตลาดเอเชีย แอฟริกา และ ตะวันออกกลาง มีมูลค่าราว 70 ล้านล้านบาทหรือ 50% ของมูลค่าทั่วโลก แต่ภาคธุรกิจไทยมีส่วนแบ่งการตลาดเพียง 2.4 หมื่นล้านบาทเท่านั้นซึ่งไม่ถึง 1% ของทั้งโลก

ในขณะที่มูลค่าอุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ภายในประเทศ ช่วงรอบ 10 ปีที่ผ่านมา มีมูลค่าราว 9 แสนล้านบาทต่อปี หรือ ประมาณ 9-10% ต่อจีดีพีเท่านั้น ดังนั้นจึงต้องการชักชวนภาคธุรกิจให้เข้ามาลงทุนโครงการก่อสร้าง ในโครงการปฎิบัติการไทยเข้มแข็ง ระยะ 3 ปี มูลค่า 1.43 ล้านล้านบาท คิดเฉพาะเป็นโครงการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 7 แสนล้านบาท สามารถสร้างงานได้ 1.5 ล้านคน โดยเฉพาะภาคการออกแบบอสังหาฯที่ไทยเคยได้รับรางวัลมาในหลายภูมิภาค

นอกจากนี้ทางภาครัฐได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการผู้แทนการค้าไทย ซึ่งมีนายเกียรติ สิทธิอมร เป็นประธาน รับผิดชอบประสานงานกับ 5 สมาคมและสถาบันการเงิน ร่วมกันวางยุทธศาสตร์เชิงนโยบาย พร้อมกับมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ไปดูในเรื่องข้อกฎหมาย เพื่อนำไปสู่การจัดตั้งองค์กรถาวร ในการส่งเสริมการบุกตลาดต่างประเทศ

“รัฐบาลจะสนับสนุนเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมการออกแบบอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ โดยขณะนี้บีโอไอจะเป็นผู้ร่างข้อกฏหมายเชื่อว่าจะสามารถจัดทำข้อกฎหมายเสนอรัฐสภาได้ใน 1 ปีนี้ ขณะเดียวกันกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นตัวกลางในการสนับสนุนด้วย”

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ภาครัฐพร้อมสนับสนุนทางการเงินให้เอกชนเข้าไปลงทุนต่างประเทศ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศจะช่วยประสานไปยังสถานทูตทุกแห่งทั่วโลกสนับสนุนการให้คนไทยไปทำงานในประเทศนั้นๆได้ง่ายมากขึ้น พร้อมกับสนับสนุนการขยายผลการเชื่อมโยงภาคธุรกิจวัสดุ และ อุปกรณ์ก่อสร้าง รวมถึงการพัฒนาบุคลากรสถาปนิก วิศวกร และ ผู้เชี่ยวชาญให้เกิดการดำเนินธุรกิจที่ครบวงจรสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้

ขณะเดียวกัน 5 สมาคมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ ได้ยื่นข้อเสนอมาตรการเร่งด่วนขอให้รัฐบาลเร่งเปิดตลาดในต่างประเทศ 6 ประเทศ คือ ลิเบีย บาเรห์ กาตา อินเดีย เวียดนาม และ บูไน รวมถึงการจัดตั้งองค์กรถาวรในการส่งเสริมสนับสนุนการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ในการเจาะตลาดต่างประเทศอีกด้วย

ดร.อภิชัย บุญธีรวร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวภายหลังพิธีลงนามว่า ความร่วมมือระหว่าง 3 สถาบันการเงินของรัฐและ 5 สมาคมในธุรกิจที่ปรึกษา ออกแบบและก่อสร้างในครั้งนี้มีขึ้นเพื่อสนับสนุนให้ภาคธุรกิจที่ประเทศไทยมีศักยภาพและความได้เปรียบทางการแข่งขันสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้มากขึ้น และเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะยาว นำมาซึ่งรายได้ที่เป็นเงินตราต่างประเทศของไทย โดยธนาคารทั้ง 3 แห่งจะร่วมมือกันให้ความสนับสนุนและความช่วยเหลือทางการเงินแก่สมาชิกสมาคมทั้ง 5 แห่งที่ออกไปประมูลโครงการต่างๆ ในต่างประเทศ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถประมูลงานก่อสร้างโครงการต่างๆ ในต่างประเทศได้มากขึ้น โดยมุ่งเน้น 6 ประเทศเป้าหมายประกอบด้วย ลิเบีย บาห์เรน กาตาร์ อินเดีย เวียดนาม และบรูไน และในอนาคตอาจเพิ่มประเทศในกลุ่มอาเซียนและแอฟริกา
กำลังโหลดความคิดเห็น