xs
xsm
sm
md
lg

เร่งขยายผลแก๊งทุบหุ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน -ตำรวจเค้นสอบมือโพสต์ข้อความมิบังควรทุบหุ้น ไม่พบความเชื่อมโยงรู้จักกันเป็นการส่วนตัวกับผู้ต้องหา 2 รายที่ถูกจับก่อนหน้า เร่งสาวถึงต้นตอเพราะข้อความถูกปล่อยจากหลายจุด ก่อนถูกโพสต์ในเว็บไซต์ “ประชาไท” เตรียมออกหมายจับเพิ่มเพื่อนร่วมขบวนการ "เอกยุทธ" เชื่อ รมว.คลังรู้ดี แต่จะกล้าหาต้นตอหรือไม่ "กรณ์" ลั่นไม่ออกมาตรการเพิ่ม ไม่พบนักการเมืองเกี่ยวข้อง

วานนี้ (4 พ.ย.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เข้าร่วมสอบปากคำ นายสมเจตน์ อิทธิวรกุล อายุ 38 ปี เจ้าของโต๊ะสนุกเกอร์ ใน จ.ชลบุรี ผู้ต้องหาโพสต์ข้อความไม่เป็นมงคลลงในเว็บไซต์ประชาไท เป็นสาเหตุทำให้หุ้นตกยังถูกจับกุมได้เป็นรายที่ 3

พล.ต.ท.ไถงเปิดเผยว่า ผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธ โดยยอมรับบางส่วนและปฏิเสธบางส่วน แต่คำให้การเป็นประโยชน์ต่อแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ สามารถนำไปขยายผลต่อได้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยึดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คของผู้ต้องหามาตรวจสอบว่า ข้อความดังกล่าวถูกส่งไปที่ใดบ้าง ซึ่งจากการถอดข้อความยังไม่สามารถบอกได้ว่า ข้อความที่ถูกโพสต์ลงในเว็บไซต์ประชาไท เป็นสาเหตุทำให้หุ้นตก ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบว่าข้อความถูกปล่อยมาจากหลายจุด ก่อนถูกนำไปโพสต์ในเว็บไซต์ประชาไท

จากการตรวจสอบเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ไม่พบความเชื่อมโยงว่า นายสมเจตน์ กับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ 2 คนก่อนหน้านี้ รู้จักกันเป็นการส่วนตัว แต่อาจรู้จักกันผ่านเว็บไซต์ดังกล่าว ซึ่งการออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่ม เจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการภายใน 1-2 วันนี้ ส่วนจะเป็นใคร จำนวนเท่าใด ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ ทั้งนี้ ผู้ต้องหาคนดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550

ต่อมาพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. อนุมัติให้ประกันตัวนายสมเจตน์ อิทธิวรกุล ด้วยวงเงินหลักประกัน 100,000 บาท โดยมีเงื่อนไขเหมือน 2 ผู้ต้องหาที่ได้รับการปล่อยตัวไปก่อนหน้านี้ คือ ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ และให้รายงานตัวกับพนักงานสอบสวนตามนัดหมาย เนื่องจากมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และไม่มีพฤติการณ์หลบหนี

นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ประธานเครือโอเรียลเต็ลมาร์ท กรุ๊ป ประเทศอังกฤษ กล่าวถึงการดำเนินการกับผู้ปล่อยข่าวอัปมงคลทุบตลาดหุ้น ว่าเห็นด้วยที่นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เร่งดำเนินการพยายามแก้ไขกฎระเบียบการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ แต่ก่อนอื่นอยากให้นายกรณ์ ไปตรวจสอบดูว่าก่อนที่จะมีข่าวอัปมงคล ออกมาในวันที่ 14 ต.ค. กองทุนที่รัฐดูแล อย่างกองทุนประกันสังคม หรือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ซึ่งเป็นการลงทุนระยะยาว มีการเทขายหรือไม่ หากมีการขายหุ้นจริง ขอถามว่าขายเพราะอะไรทั้งที่ตลาดหุ้นทั่วโลกกำลังดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้รับรู้ข่าววงในว่ารัฐบาลจะออกมาปฎิเสธข่าวในวันถัดมาหรือไม่

นายเอกยุทธกล่าวว่า รัฐบาลกำลังไล่จับแพะ 2 คนซึ่งเป็นเพียงผู้ที่ได้รับข่าวแล้วมาโพสต์ต่ออีกทอดหนึ่งตามวิสัยของนักเล่นหุ้นเท่านั้น การตรวจสอบในเรื่องนี้ไม่ยากเพียงแต่ตรวจสอบให้พบว่ากลุ่มใดเทขายหุ้นจำนวนมากก่อนหน้าที่จะมีข่าว และเข้ามาช้อนซื้อในช่วงที่หุ้นตกอย่างหนัก ถ้าเป็นกลุ่มเดียวกันก็ให้สันนิษฐานเลยว่าเป็นต้นตอการปล่อยข่าวทุบตลาดหุ้น เชื่อว่า นายกรณ์ซึ่งคลุกคลีอยู่ในตลาดหุ้นมานานย่อมรู้ว่าจะจัดการอย่างไร แต่ขึ้นอยู่กับว่าจะกล้าทำหรือไม่

ข้อมูลที่ผมมีก็คือในวันที่สอง หลังจากที่มีข่าวอัปมงคลออกมา เครือญาติของผู้มีอำนาจชื่อย่อ จ.ที่บริหารกองทุนอยู่ในตลาดต่างประเทศ ได้เข้าช้อนซื้อหุ้นจำนวนมากอย่างผิดสังเกต ทั้งที่โดยปกติเมื่อมีข่าวใหญ่กระทบตลาดนักลงทุนทั่วไปจะไม่กล้าเข้าไปเสี่ยง ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่ากลุ่มนี้รู้ว่าอีกวันรัฐบาลจะออกมาปฎิเสธข่าว จึงกล้าซื้อหุ้นเก็บไว้ ซึ่งในที่สุดก็ออกมาปฏิเสธจริง การกระทำเช่นนี้จึงเข้าข่ายอินไซเดอร์ หรือรู้ข้อมูลวงในหาประโยชน์จากตลาดหุ้นซึ่งผิดกฎหมาย และงานนี้หลังจากที่ จ. ซื้อหุ้นไปแล้ว วันถัดมาเมื่อรัฐบาลออกมาปฏิเสธข่าวมูลค่าหุ้นก็เด้งกลับขึ้นมามหาศาล คาดว่าจะได้กำไรอย่างน้อย 5 พันล้านบาท

**"กรณ์" เผยยังไม่พบการเมืองเอี่ยว
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่า ยังไม่จำเป็นที่จะต้องเพิ่มมาตรการเข้ามาควบคุมหากดัชนีเกิดการผันผวนขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีมาตรการที่คอยรักษาเสถียภาพเพียงพออยู่แล้ว โดยเฉพาะมาตรการหยุดซื้อขายครั่วคราว (เซอร์กิตเบรกเกอร์) โดยหากดัชนีปรับตัวลดลง 10% ให้ตลาดหยุดการซื้อขายโดยอัตโนมัติ เพื่อหาข้อเท็จจริงชี้แจงต่อนักลงทุน และยังเป็นการควบคุมการตื่นตระหนกของนักลงทุนส่วนหนึ่งด้วย

“ปัจจุบันไม่จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการควบคุมหากดัชนีเกิดความผันผวน เพราะมาตรการที่มีอยู่เพียงพออยู่แล้ว โดยเฉพาะเซอร์กิตเบรกเกอร์ สะท้อนจาก 20 ปีที่ผ่านมาหลังจากที่มีมาตรการดังกล่าวเข้ามา การเหวี่ยงของดัชนีไม่เกิดขึ้นเลย” รมว.คลังกล่าว

นายกรณ์กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวระบุว่าพรรคร่วมรัฐบาลมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปล่อยข่าวลืออัปมงคล ส่งผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับลดลงอย่างหนักเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบอย่างเคร่งครัด แต่ยังไม่พบหลักฐานว่ามีการเมืองเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าวแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ยืนยันว่า รัฐบาลสนับสนุนการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่ หากพบผู้กระทำผิดก็ดำเนินการได้ตามกฏหมายทันที ดังนั้นทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องร่วมมือกันเพื่อหาข้อเท็จจริงดังกล่าว

ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายสมเจตน์ อิทธิวรกุล เป็นผู้ต้องสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปล่อยข่าวลือนั้น ถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกระทำโดยชอบต่อกฏหมาย อีกทั้งเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าในอนาคตหากมีผู้กระทำผิดคล้ายกับกรณีดังกล่าว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี

ส่วนการดำเนินคดีของผู้ต้องสงสัยด้วยการเอาผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ นั้นหลายฝ่ายมองว่าเป็นโทษที่เล็กน้อยเกินไปหรือไม่นั้น ผมเห็นว่าหากตรวจสอบพบว่ามีความผิดที่เชื่อมโยงกับพ.ร.บ.หลักทรัพย์ที่เป็นการซื้อขายหุ้นผิดกฏหมาย จะมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ไปตรวจสอบเพื่อหาข้อเท็จจริงให้เกิดความชัดเจนต่อไป

“ในอดีต การปล่อยข่าวลือที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนไม่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ แต่ครั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาผู้กระทำผิดได้ แสดงว่าเจ้าหน้าที่มีความตั้งใจที่จะค้นหาข้อเท็จจริง อีกทั้งยังเป็นการลดความเสี่ยงของนักลงทุนในอนาคต เพราะได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนสำหรับการดำเนินคดีตามกฎหมาย”

นายกรณ์ กล่าวว่า กรณีที่มีโบรกเกอร์ต่างชาติมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปล่อยข่าวลือ โดยพบหลักฐานเป็น 2 บัญชีที่มีการซื้อขายในต่างประเทศนั้น ก.ล.ต. ได้รายงานว่าเป็นในส่วนของกองทุนที่ซื้อขายผิดปกติ แต่ขณะนี้รัฐบาลจะเน้นการเอาผิดผู้ที่เผยแพร่ข่าวลือมากกว่าที่จะเอาผิดคนซื้อขาย เนื่องจากต้องรอ ก.ล.ต. ตรวจสอบเชิงลึกว่าการซื้อขายที่ผิดปกติเชื่อมโยงกับการปล่อยข่าวลือหรือไม่.
กำลังโหลดความคิดเห็น