ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับ ก.ไอซีที บุกจับ 2 ผู้ต้องหาปล่อยข่าวลืออันมิบังควร ทุบหุ้น บ่อนทำลายความมั่นคง พบหลักฐานโพสลงเว็บไซต์ “ประชาไท-ฟ้าเดียวกัน”ผู้ต้องหาอ้างแค่แปลข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศ ไม่มีเจตนาทุบหุ้นตำรวจเค้นสอบ เตรียมขยายผลจับผู้ร่วมขบวนการเพิ่ม
วานนี้(1 พ.ย.)เวลา 15.25 น.ที่สนามบินสุวรรณภูมิ พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(รอง ผบช.ก.)พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รอง ผบก.ปอท.)
พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง ผกก.1 บก.ทท., พ.ต.ท.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบก.1 บก.ทท.นำหมายศาลอาญา ที่ 3089/2552 ลงวันที่ 30 ต.ค.2552 ในความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เข้าจับกุม น.ส.ธีรนันต์ วิภูชนิน อายุ 43 ปี อดีตกรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์ ยูบีเอส จำกัด อยู่บ้านเลขที่ 368 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม.ขณะเดินทางกลับจากกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยสายการบินออสเตรียแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OS 0025 ก่อนควบคุมตัวสอบปากคำที่ศูนย์ร่วมบริการประชาชน กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวสุวรรณภูมิ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำ น.ส.ธีรนันต์ เป็นเวลานานประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนแจ้งข้อหา “นำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน พ.ร.บ.ว่าด้วยการทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14” พร้อมควบคุมตัว น.ส.ธีรนันต์ ไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)
ด้าน น.ส.ธีรนันต์ เปิดเผยเพียงสั้นๆ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มไม่มีท่าทีวิตกกังวล ว่า ตนได้แปลข้อความจากเว็บไซต์สำนักข่าวต่างประเทศ และนำไปโพสต์ลงในเว็บไซต์ เนื่องจากวันดังกล่าวหุ้นตกลงอย่างรุนแรงมาก ประชาชนอยากรู้ว่าเกิดจากอะไรขึ้น และตนไม่ได้มีเจตนาเผยแพร่ข้อความเพื่อทำให้หุ้นตก
ทั้งนี้ หลังจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจยึดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ยี่ห้อเอชพี 1 เครื่อง กล้องดิจิตอลลูมิกซ์ 1 ตัว เมมโมรีการ์ด 1 อัน โทรศัพท์มือถือยี่ห้อโซนี่อิริคสัน 1 เครื่อง ของ น.ส.ธีรนันต์ ไว้ตรวจสอบ พร้อมกับนำกำลังส่วนหนึ่งเข้าตรวจสอบฮาร์ดดิสก์ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้านพักเลขที่ 368 ซอยเสือใหญ่อุทิศ ถนนรัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว เนื้อที่ 200 ตารางวา โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซด์ที่ น.ส.ธีรนันต์ นำข้อความไปโพสต์ คือ เว็บประชาไทดอตคอม
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อเวลา 13.30 น.วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายศาลอาญา ในข้อหาเดียวกันเข้าจับกุม นายคธา ปาจริยพงษ์ อายุ 37 ปี พนักงานฝ่ายการตลาด บริษัท หลักทรัพย์เคที ซิมิโก้ จำกัด (มหาชน)ได้ที่ บริษัท ลิเบอร์ตี้ ถ.สีลม แขวงและเขตบางรัก กทม.ซึ่งเป็นผู้นำข้อความที่เข้าข่ายความผิดโพสต์ลงในเว็บไซต์ฟ้าเดียวกัน ก่อนขยายผลเข้าตรวจสถานที่ทำงานภายในอาคารสินทร และค้นบ้านพัก ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่ บก.ปอท.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเว็บไซต์ประชาไทดอตคอม และ ฟ้าเดียวกัน เป็นสองเว็บไซต์ได้รับความนิยมในกลุ่มคนเสื้อแดง และมักมีการนำเสนอบทความที่หมิ่มเหม่ต่อการจาบจ้วงสถาบันมาแล้วหลายครั้ง
ต่อมาเวลา 18.45 น.ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.)พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รอง ผบช.ก. และ พ.ต.อ.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ รอง ผบก.ปอท.ได้ทำการแถลงข่าว โดยไม่ได้นำตัว 2 ผู้ต้องหามาร่วมแถลงด้วย
พล.ต.ท.ไถง กล่าวว่า หลังเกิดเหตุกรณีการปล่อยข่าวลืออันไม่เป็นมงคล และส่งผลทำให้ตลาดหุ้นได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รรท.ผบ.ตร.)ได้สั่งการให้ตนตั้งคณะพนักงานสอบสวนขึ้นมาเพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนเอาผิดกับผู้ที่ดำเนินการ ซึ่งในส่วนของตำรวจจะดำเนินคดีเฉพาะในส่วนของการปล่อยข่าวลือ ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 แต่หากหากพบว่าการกระทำเข้าข่ายเป็นความผิดเกี่ยวกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นกฎหมายอีกฉบับ ก็จะส่งข้อมูลให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบ รับไปดำเนินการ สำหรับ 2 ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม ในชั้นนี้ได้แจ้งข้อหาตามความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14
"ทางคณะพนักงานาสอบสวนได้ร่วมกับกระทรวงไอซีที จับกุมผู้จ้องหาได้ 2 คน ซึ่งได้นำข้อความอันเป็นเท็จ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.นี้"
ด้าน พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รอง ผบช.ก.กล่าวว่า ตำรวจได้นำหมายศาลเข้าจับกุมผู้ต้องหา 2 คน และหลังจากจับกุมได้กระจายกำลังเจ้าหน้าที่ออกตรวจค้น เพื่อหาพยานหลักฐานที่ทำงาน และบ้านพักของผู้ต้องหาทั้ง 2 ซึ่งก็ได้พยานหลักฐานมาจำนวนหนึ่ง แต่ไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้ เนื่องจากจะต้องทำการตรวจสอบของกลาง และควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ทำการสอบสวนขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการที่เหลือต่อไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การกระทำของทั้ง 2 คน เชื่อมโยงกันหรือไม่ พล.ต.ต.ปัญญา กล่าวว่า อยู่ระหว่างทำการการตรวจสอบ เมื่อถามว่า มีใครได้ประโยชน์หรือไม่ ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบเช่นกัน
ส่วนจะมีการขยายผลและออกหมายจับเพิ่มเติมหรือไม่ รอง ผบช.ก.กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสานกับสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ และ กระทรวงไอซีที เพื่อทำการสอบสวนว่ามีผู้ต้องสงสัย บางกลุ่ม มีพฤติกรรมในการโพสข้อความลงในอินเตอร์เน็ตหรือไม่ ซึ่งหากพบ ก็จะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับและหมายค้นต่อไป เนื่องจากหากปล่อยให้เนิ่นนานเกรงว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าว อาจจะทำลายหลักฐานได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับ 2 ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไว้ทำการสอบสวนเพื่อขยายผลที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) โดยไม่อนุญาตให้ประกันตัว
รอหากับคลัง-ธปท.ไฟเขียว
ด้านแหล่งข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รายงานเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ (2 พ.ย.) ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะได้ร่วมหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อหาแนวทางในการสกัดกั้นข่าวลือที่เกิดขึ้น และส่งผลกระทบต่อดัชนีตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะประเด็นข่าวลือที่มีผลกระทบรุนแรงต่อดัชนีตลาดหุ้นไทยจะต้องหาผู้ที่รับผิดชอบออกมาชี้แจงข่าว
ทั้งนี้ เบื้องต้นตลาดหลักทรัพย์ฯ และก.ล.ต. ได้ข้อสรุปร่วมกันว่า หากดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงในอัตรากี่เปอร์เซ็นที่จะกำหนดให้ผู้เกี่ยวข้องออกมาชี้แจงข่าว แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ จากเดิมที่คาดว่าหากดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับตัวลดลงถึง 5% ทั้งนี้เนื่องจากจะต้องหารือและได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลัง และธปท. ในวันนี้ (2 พ.ย.) ก่อน
วานนี้(1 พ.ย.)เวลา 15.25 น.ที่สนามบินสุวรรณภูมิ พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(รอง ผบช.ก.)พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รอง ผบก.ปอท.)
พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง ผกก.1 บก.ทท., พ.ต.ท.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบก.1 บก.ทท.นำหมายศาลอาญา ที่ 3089/2552 ลงวันที่ 30 ต.ค.2552 ในความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เข้าจับกุม น.ส.ธีรนันต์ วิภูชนิน อายุ 43 ปี อดีตกรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์ ยูบีเอส จำกัด อยู่บ้านเลขที่ 368 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม.ขณะเดินทางกลับจากกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยสายการบินออสเตรียแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OS 0025 ก่อนควบคุมตัวสอบปากคำที่ศูนย์ร่วมบริการประชาชน กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวสุวรรณภูมิ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำ น.ส.ธีรนันต์ เป็นเวลานานประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนแจ้งข้อหา “นำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน พ.ร.บ.ว่าด้วยการทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14” พร้อมควบคุมตัว น.ส.ธีรนันต์ ไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)
ด้าน น.ส.ธีรนันต์ เปิดเผยเพียงสั้นๆ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มไม่มีท่าทีวิตกกังวล ว่า ตนได้แปลข้อความจากเว็บไซต์สำนักข่าวต่างประเทศ และนำไปโพสต์ลงในเว็บไซต์ เนื่องจากวันดังกล่าวหุ้นตกลงอย่างรุนแรงมาก ประชาชนอยากรู้ว่าเกิดจากอะไรขึ้น และตนไม่ได้มีเจตนาเผยแพร่ข้อความเพื่อทำให้หุ้นตก
ทั้งนี้ หลังจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจยึดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ยี่ห้อเอชพี 1 เครื่อง กล้องดิจิตอลลูมิกซ์ 1 ตัว เมมโมรีการ์ด 1 อัน โทรศัพท์มือถือยี่ห้อโซนี่อิริคสัน 1 เครื่อง ของ น.ส.ธีรนันต์ ไว้ตรวจสอบ พร้อมกับนำกำลังส่วนหนึ่งเข้าตรวจสอบฮาร์ดดิสก์ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้านพักเลขที่ 368 ซอยเสือใหญ่อุทิศ ถนนรัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว เนื้อที่ 200 ตารางวา โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซด์ที่ น.ส.ธีรนันต์ นำข้อความไปโพสต์ คือ เว็บประชาไทดอตคอม
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อเวลา 13.30 น.วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายศาลอาญา ในข้อหาเดียวกันเข้าจับกุม นายคธา ปาจริยพงษ์ อายุ 37 ปี พนักงานฝ่ายการตลาด บริษัท หลักทรัพย์เคที ซิมิโก้ จำกัด (มหาชน)ได้ที่ บริษัท ลิเบอร์ตี้ ถ.สีลม แขวงและเขตบางรัก กทม.ซึ่งเป็นผู้นำข้อความที่เข้าข่ายความผิดโพสต์ลงในเว็บไซต์ฟ้าเดียวกัน ก่อนขยายผลเข้าตรวจสถานที่ทำงานภายในอาคารสินทร และค้นบ้านพัก ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่ บก.ปอท.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเว็บไซต์ประชาไทดอตคอม และ ฟ้าเดียวกัน เป็นสองเว็บไซต์ได้รับความนิยมในกลุ่มคนเสื้อแดง และมักมีการนำเสนอบทความที่หมิ่มเหม่ต่อการจาบจ้วงสถาบันมาแล้วหลายครั้ง
ต่อมาเวลา 18.45 น.ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.)พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รอง ผบช.ก. และ พ.ต.อ.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ รอง ผบก.ปอท.ได้ทำการแถลงข่าว โดยไม่ได้นำตัว 2 ผู้ต้องหามาร่วมแถลงด้วย
พล.ต.ท.ไถง กล่าวว่า หลังเกิดเหตุกรณีการปล่อยข่าวลืออันไม่เป็นมงคล และส่งผลทำให้ตลาดหุ้นได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รรท.ผบ.ตร.)ได้สั่งการให้ตนตั้งคณะพนักงานสอบสวนขึ้นมาเพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนเอาผิดกับผู้ที่ดำเนินการ ซึ่งในส่วนของตำรวจจะดำเนินคดีเฉพาะในส่วนของการปล่อยข่าวลือ ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 แต่หากหากพบว่าการกระทำเข้าข่ายเป็นความผิดเกี่ยวกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นกฎหมายอีกฉบับ ก็จะส่งข้อมูลให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบ รับไปดำเนินการ สำหรับ 2 ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม ในชั้นนี้ได้แจ้งข้อหาตามความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14
"ทางคณะพนักงานาสอบสวนได้ร่วมกับกระทรวงไอซีที จับกุมผู้จ้องหาได้ 2 คน ซึ่งได้นำข้อความอันเป็นเท็จ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.นี้"
ด้าน พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รอง ผบช.ก.กล่าวว่า ตำรวจได้นำหมายศาลเข้าจับกุมผู้ต้องหา 2 คน และหลังจากจับกุมได้กระจายกำลังเจ้าหน้าที่ออกตรวจค้น เพื่อหาพยานหลักฐานที่ทำงาน และบ้านพักของผู้ต้องหาทั้ง 2 ซึ่งก็ได้พยานหลักฐานมาจำนวนหนึ่ง แต่ไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้ เนื่องจากจะต้องทำการตรวจสอบของกลาง และควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ทำการสอบสวนขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการที่เหลือต่อไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การกระทำของทั้ง 2 คน เชื่อมโยงกันหรือไม่ พล.ต.ต.ปัญญา กล่าวว่า อยู่ระหว่างทำการการตรวจสอบ เมื่อถามว่า มีใครได้ประโยชน์หรือไม่ ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบเช่นกัน
ส่วนจะมีการขยายผลและออกหมายจับเพิ่มเติมหรือไม่ รอง ผบช.ก.กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสานกับสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ และ กระทรวงไอซีที เพื่อทำการสอบสวนว่ามีผู้ต้องสงสัย บางกลุ่ม มีพฤติกรรมในการโพสข้อความลงในอินเตอร์เน็ตหรือไม่ ซึ่งหากพบ ก็จะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับและหมายค้นต่อไป เนื่องจากหากปล่อยให้เนิ่นนานเกรงว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าว อาจจะทำลายหลักฐานได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับ 2 ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไว้ทำการสอบสวนเพื่อขยายผลที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) โดยไม่อนุญาตให้ประกันตัว
รอหากับคลัง-ธปท.ไฟเขียว
ด้านแหล่งข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รายงานเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ (2 พ.ย.) ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะได้ร่วมหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อหาแนวทางในการสกัดกั้นข่าวลือที่เกิดขึ้น และส่งผลกระทบต่อดัชนีตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะประเด็นข่าวลือที่มีผลกระทบรุนแรงต่อดัชนีตลาดหุ้นไทยจะต้องหาผู้ที่รับผิดชอบออกมาชี้แจงข่าว
ทั้งนี้ เบื้องต้นตลาดหลักทรัพย์ฯ และก.ล.ต. ได้ข้อสรุปร่วมกันว่า หากดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงในอัตรากี่เปอร์เซ็นที่จะกำหนดให้ผู้เกี่ยวข้องออกมาชี้แจงข่าว แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ จากเดิมที่คาดว่าหากดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับตัวลดลงถึง 5% ทั้งนี้เนื่องจากจะต้องหารือและได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลัง และธปท. ในวันนี้ (2 พ.ย.) ก่อน
