xs
xsm
sm
md
lg

สอบเพิ่มสำนวนราเกซ อัยการสั่ง-สุเทพขู่ ตร.อย่าละเว้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - อธิบดีอัยการคดีเศรษฐกิจฯ สั่งสอบเพิ่มข้อไม่สมบูรณ์สำนวน “ราเกซ” ประเด็นการแปลเอกสารภาษาอังกฤษ-การแจ้งสิทธิต่อสู้คดีผู้ต้องหา ขณะที่ "สุเทพ" ยืนยันข้อมูลบีบีซี อดีตกับปัจจุบันยังเหมือนเดิม ชี้หากพบใครผิด ตำรวจไม่เอาผิดถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

วานนี้ (4 พ.ย.) เวลา 10.00 น.ที่ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานอัยการคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร ถ.เจริญกรุง 53 นายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร เป็นประธานประชุมคณะทำงานอัยการซึ่งมีรองอธิบดีอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจฯ และอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจฯ 5 คน พิจารณาสำนวนการสอบปากคำของนายราเกซ สักเสนา อดีตที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) หรือบีบีซี ผู้ต้องหาคดีทำผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ซึ่งร่วมกับนายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ อดีต กก.ผจก.บีบีซี อนุมัติสินเชื่อปล่อยกู้ให้บริษัท ซิตี้ เทรดดิ้ง จำกัด จำนวน 1,657 ล้านบาทโดยทุจริต ที่พนักงานสอบสวนส่งมาให้อัยการเมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา

ภายหลังคณะทำงานอัยการใช้เวลาประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง นายเศกสรรค์ เปิดเผยว่า การประชุมในช่วงเช้า ที่ประชุมได้ถกเถียงซึ่งเห็นข้อไม่สมบูรณ์ในสำนวนการสอบปากคำนายราเกซ ที่พนักงานสอบสวนส่งมา 2 ประเด็น เกี่ยวกับการแปลเอกสารภาษาอังกฤษที่ประกอบในสำนวน และการแจ้งสิทธิต่อสู้คดีให้ผู้ต้องหาทราบตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134 ซึ่งเห็นว่ายังดำเนินการไม่ครบถ้วน เนื่องจากเพิ่งได้ตัวนายราเกซ มาจึงยังไม่ได้แจ้งสิทธิให้ครบถ้วนตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด

ดังนั้น ที่ประชุมคณะทำงานอัยการจึงจะประสานให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบเพิ่มเติมการแปลเอกสารภาษาอังกฤษที่ประกอบในสำนวน และให้ดำเนินการแจ้งสิทธิการต่อสู้คดีตาม ป.วิ.อาญา 134 ให้ครบถ้วน โดยขั้นตอนการแปลเอกสารนั้นคาดว่าจะใช้เวลา 2-3 วัน โดยยืนยันว่าการพิจารณาสำนวนอัยการจะเร่งสรุปให้เร็วที่สุด

แต่ทั้งนี้จะต้องพิจารณาข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งตนจะรายงานผลการประชุมของคณะทำงานอัยการให้นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด ทราบต่อไป

**เน้นสุขภาพ-ความปลอดภัย"ราเกซ"

นายชาติชาย สุทธิกลม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงการควบคุมตัวนายราเกซ สักเสนา ว่า มาตรการดูแลนายราเกซ จำเป็นต้องเน้นเรื่องความปลอดภัยและเรื่องสุขภาพเป็นสำคัญ เนื่องจากนายราเกซ มีอาการของโรคความดันโลหิตสูง และเส้นเลือดตีบ อีกทั้งนายราเกซ เป็นผู้ต้องหาในคดีสำคัญ จึงไม่ต้องการให้มีเหตุร้ายเกิดขึ้น เพราะอาจกระทบกับชื่อเสียงของประเทศ

ยืนยันว่า มาตรการความปลอดภัยที่จัดขึ้น และการจัดให้นายราเกซ อยู่ในแดนพยาบาล รวมถึงการประสานให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งเจ้าหน้าที่มาร่วมดูแลนายราเกซ ระหว่างถูกควบคุมตัวในเรือนจำตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ใช่การอำนวยความสะดวกให้นายราเกซ มีอภิสิทธิ์ในเรือนจำ แต่เป็นการดูแลในลักษณะเดียวกับผู้ต้องขังทั่วไป

ส่วนเรื่องอาหารนั้น เรือนจำไม่อนุญาตให้รับอาหารหรือของเยี่ยมจากภายนอก โดยทั่วไปผู้ต้องขังสามารถรับประทานอาหารของทางเรือนจำที่ปรุงในแดนสูทกรรม หรือซื้ออาหารจากร้านค้าสงเคราะห์ภายในเรือนจำ โดยขณะนี้นายราเกซ ซื้ออาหารจากร้านค้าสงเคราะห์ภายในเรือนจำเป็นหลัก เพราะยังไม่คุ้นกับรสชาติอาหารที่ทางเรือนจำจัดให้

นายราเกซ ไม่ได้เรียกร้องหรือขอสิ่งใดเป็นพิเศษ โดยได้รับเพียงการดูแลตามปกติ ในส่วนการเข้าเยี่ยมนั้น จะต้องปฏิบัติตามระเบียบเรือนจำอย่างเคร่งครัด โดยมีการจัดเตรียมพื้นที่ไว้ให้เป็นการเฉพาะ และจะอนุญาตเฉพาะญาติสนิทกับทนายความของนายราเกซ เท่านั้น โดยญาติสนิทสามารถเข้าเยี่ยมได้วันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 20 นาทีเท่านั้น

**เทือกยันข้อมูลบีบีซียังเหมือนเดิม

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึง กรณีที่ฝ่ายค้านออกมาระบุ ว่ามีนักการเมืองไปวิ่งรับเช็คจากนายราเกซ โดยมีเลขเช็คชัดเจน ว่า ตนทำหน้าที่ในสภาเรียบร้อยแล้วและเอกสารหลักฐานอะไรก็ได้ส่งมอบให้ฝ่ายที่ตรวจสอบไปแล้ว

เมื่อถามว่านักการเมืองมีคดีแพ่ง หรือคดีอาญาหรือสามารถสาวไปถึงอีกหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตอนที่ตนอภิปราย ไม่ได้ชี้ไปที่ใครว่าจะถูกดำเนินคดีแพ่ง หรืออาญา ตนอภิปรายชี้ให้เห็นว่า มีการร่วมมือกัน กระทำความผิด แล้วเรียกร้องให้รัฐบาลในขณะนั้นดำเนินการ ซึ่งในที่สุดธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงการคลังเขาก็ดำเนินการ

ส่วนจุดยืนในขณะที่อภิปรายกับขณะนี้ที่มาเป็นรองนายกฯยังเหมือนเดิมหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนเหมือนเดิม แต่ฝ่ายค้านดูเหมือนจะไม่เหมือนเดิม เมื่อถามต่อว่า มั่นใจในข้อมูลในช่วงที่เป็นฝ่ายค้านหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนทำงานในสภามากว่า 30 ปีไม่เคยเอาเรื่องโกหกมาพูดในสภา

"เรื่องที่ ผมอภิปรายคดีบีบีซี ในวันนั้น คนก็ตกใจมากแม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์ ท่านนายชวน หลีกภัย ในขณะที่เป็นหัวหน้าพรรค ท่านก็ขอเอาทีมทนายมาตรวจสอบคำอภิปรายของผม ตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่มีอยู่ในมือ ผมได้แสดงให้พรรคเห็นแล้วว่าจำเป็นแล้วว่ามันจะมีผลเสียหายต่อระบบการเงินการธนาคารของประเทศ แต่ถ้ารัฐบาลในขณะนั้นรีบแก้ไขก็จะไม่สงผลต่อประเทศมาก อย่างไรก็ตามกระบวนการยุติธรรม ตั้งแต่กระบวนการของตำรวจ อัยการ ไปศาลก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นภาระของตนแล้วจบลงแค่นั้น ไม่มีความลำบากใจสมมุติว่าถ้าวันนี้นายราเกซ ได้ให้การพาดพิงถึงใคร แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจเขาสามารถรวมรวบเอกสารได้ เขาก็ดำเนินคดีกับคนนั้นเพิ่ม ถ้าไม่ทำก็เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่"นายสุเทพกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตั้งข้อสังเกตว่าดูเหมือนพรรคประชาธิปัตย์ไม่เอาจริงกับคดีนายราเกซ เนื่องจากกลัวว่าจะกระทบต่อพรรคร่วมรัฐบาล นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นการกล่าวหาของคนที่ไม่เป็นธรรม เราไม่ได้หย่อนอะไร เราอยากให้นำตัวนายราเกซกลับมาดำเนินคดีให้ได้ ถ้าจะกล่าวหาต้องกล่าวหาตั้งแต่สมัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในสมัยเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ไม่พยายามเท่าไหร่.
กำลังโหลดความคิดเห็น