ฉะเชิงเทรา - "คณะสงฆ์วัดโสธร" กว่า 500 รูปข้องใจผลประโยชน์ทับซ้อนในวัด หลัง มส.แต่งตั้งเจ้าคณะภาค 12 เป็นผู้ดูแลผลประโยชน์มารักษาการแทนนาน 5 ปีเต็มยังไม่ยอมแต่งตั้งเจ้าอาวาสตัวจริง เชื่อมีวาระซ่อนเร้น เดินเท้าสวดมนต์ยกขบวนล้อม ธ.รกสิการไทย ยื่นหนังสือให้ระงับการเบิก-จ่ายบัญชีเงินฝากมูลค่าหลายพันล้านบาท เนื่องจากเห็นว่าไม่มีความโปร่งใส เผยสาเหตุน่าจะมาจากการเตรียมแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดองค์ใหม่
วานนี้ (3 พ.ย) เวลา 10.00 น. ที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาฉะเชิงเทรา ริมถนนชุมพล ฝั่งตรงข้าม สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้มีพระสงฆ์ และสามเณรกว่า 500 รูป จากวัดโสธรวรารามวรวิหาร เดินเท้าสวดมนต์ออกมาจากวัด ชูป้ายผ้าข้อความเรียกร้องขอความเป็นธรรม เช่น “ขอเรียกร้องความเป็นธรรม ความโปร่งใส ความถูกต้องในการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดโสธร”, “วัดโสธรไม่มีเจ้าอาวาส เพราะเจ้าคณะปกครองทำผิดกฎหมาย”, “การแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดโสธรกำลังจะมีปัญหา เพราะผลประโยชน์ทับซ้อน” และ “เจ้าคณะปกครองไม่เป็นธรรมไม่โปร่งใส ขาดคุณธรรม น่าสลดใจจริง พอทีเถอะ!”
พร้อมเดินทางเข้ามาปิดล้อมบริเวณด้านหน้าธนาคารเพื่อขอพบนายไพศาล ปัญญาลิขิต ผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้ทางธนาคารงดการเบิกจ่ายเงินของทางวัดทุกบัญชี ซึ่งมีมูลค่ามหาศาลจำนวนหลายพันล้านบาท เนื่องจากวัดโสธรยังขาดผู้ทำนิติกรรมแทนวัด เพราะยังไม่มีการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดตัวจริงมานานกว่า 5 ปีเต็มแล้ว โดยเรียกร้องภายใต้ชื่อคณะสงฆ์วัดโสธร
กลุ่มพระสงฆ์ และสามเณร ได้สลายกลับในเวลาต่อมาหลังจากผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย ลงมารับหนังสือ พร้อมรับปากว่าจะให้ทางวัดเบิกจ่ายเงินออกจากบัญชีธนาคารเฉพาะในสิ่งจำเป็นที่ต้องจับจ่ายเท่านั้น เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ หรือค่าใช้จ่ายที่มีพันธสัญญาผูกพันกับบุคคลภายนอก ที่มีกำหนดระยะเวลาการจ่ายเงิน ตามกำหนด หากไม่จ่ายจะต้องถูกปรับ เท่านั้น
พระครูปลัดสันติภัทร ชุติปญฺโญ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร กล่าวว่า สาเหตุที่นำพระภิกษุสงฆ์ สามเณรมายื่นหนังสือครั้งนี้เพื่อต้องการความโปร่งใสในการที่จะจับจ่ายใช้สอยเงินในบัญชีของทางวัด หลังจากพระพรหมสุธี (เสนาะ ปญฺญาวชิโร) วัดสระเกศ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เจ้าคณะภาค 12 ที่เคยได้รับการแต่งตั้งให้มารักษาการในตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ รวมระยะเวลา 5 ปีเต็มได้หมดวาระลงเมื่อวันที่ 30 ต.ค.52 จึงทำให้ขณะนี้ตำแหน่งเจ้าอาวาสว่างลงและไม่มีผู้มีอำนาจการปกครองดูแล และขาดผู้ทำนิติกรรมแทนวัดในการจัดการ การเบิกจ่ายเงินในบัญชีธนาคาร ทางคณะสงฆ์ในวัด รวมทั้งพระภิกษุสามเณรที่กำลังศึกษาอยู่อีกกว่า 90% ภายในวัดไม่ได้รับรู้ จึงเห็นว่าอาจเป็นช่องโหว่จนทำให้มีบุคลบางกลุ่มบางขบวนการเข้ามาเบิกจ่ายหรือโยกย้ายถ่ายเงินของทางวัดออกจากบัญชี เนื่องจากยังไม่รู้เลยว่าขณะนี้ใครเป็นผู้มีอำนาจในการดำเนินการทางการเงิน คณะผู้ช่วยเจ้าอาวาสส่วนใหญ่ซึ่งมีถึง 11 รูป จึงได้ออกมาเคลื่อนไหวปกป้องผลประโยชน์ของทางวัดไว้ก่อน เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาดังกล่าวอาจเกี่ยวเนื่องมาจากการเตรียมแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯที่มาจากวัดอื่นที่ไม่ใช่พระในวัดต่อไปอีก จึงได้มีการออกมาเคลื่อนไหวของพระสงฆ์ สามเณร เพราะเมื่อบ่ายวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมาได้มีใบปลิวสีเหลืองอ่อนจากทางวัดโสธรฯภายใต้ชื่อ "คณะสงฆ์วัดโสธร" กระจายไปตามบ้านเรือนประชาชนจนทั่วทั้งเมืองแปดริ้ว โดยมีข้อความเกี่ยวกับการแต่งตั้งผู้รักษาการเจ้าอาวาสมายาวนานถึง 5 ปีเต็ม และมีข้อความระบุถึงการเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ต่างๆ ภายในวัดจากกลุ่มบุคคลหลายกลุ่ม
ด้าน ดร.อำนาจ บัวศิริ ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า ทราบว่า พระเทพปัญญาเมธี เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทราได้แก้ปัญหาดังกล่าวโดยได้ชี้แจงให้พระเณรของวัดโสธรฯเข้าใจเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินของวัดแล้ว โดยเจ้าอาวาสจะเป็นผู้มีอำนาจเต็มแต่งตั้งไวยาวัจกรเป็นผู้แทนดำเนินการเบิกจ่ายเงินของวัด โดยมีคณะกรรมการวัดเป็นผู้ลงมติ
ส่วนรักษาการเจ้าอาวาสก็สามารถมีอำนาจเบิกจ่ายเงินของวัดได้เหมือนกับเจ้าอาวาส แต่โดยมารยาทแล้วก็จะไม่มีใครไปเบิกจ่ายเงินของวัด อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้นจะไม่รายงานให้ มส.ทราบ เพราะเป็นเรื่องของภายในวัด และดำเนินการแก้ปัญหาแล้ว
ทางด้าน พระพรหมสุธี รักษาการเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่มีอะไรเป็นความเข้าผิด ขณะนี้เจ้าคณะจังหวัดได้ดำเนินชี้แจงแล้ว ทุกฝ่ายก็เข้าใจและยอมยุติการชุมนุม ส่วนเรื่องที่จะครบวาระ 5 ปีรักษาการเจ้าอาวาสวัด ขอยืนยันว่าจะไม่มีการต่ออายุรักษาการเจ้าอาวาสอีกและเจ้าคณะจังหวัดจะเป็นผู้เสนอชื่อเจ้าอาวาสรูปใหม่ไปยังเจ้าคณะภาค เพื่อให้เจ้าคณะหนใหญ่ พิจารณาก่อนนำเสนอที่ประชุมมส.แต่งตั้งต่อไป
วานนี้ (3 พ.ย) เวลา 10.00 น. ที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาฉะเชิงเทรา ริมถนนชุมพล ฝั่งตรงข้าม สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้มีพระสงฆ์ และสามเณรกว่า 500 รูป จากวัดโสธรวรารามวรวิหาร เดินเท้าสวดมนต์ออกมาจากวัด ชูป้ายผ้าข้อความเรียกร้องขอความเป็นธรรม เช่น “ขอเรียกร้องความเป็นธรรม ความโปร่งใส ความถูกต้องในการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดโสธร”, “วัดโสธรไม่มีเจ้าอาวาส เพราะเจ้าคณะปกครองทำผิดกฎหมาย”, “การแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดโสธรกำลังจะมีปัญหา เพราะผลประโยชน์ทับซ้อน” และ “เจ้าคณะปกครองไม่เป็นธรรมไม่โปร่งใส ขาดคุณธรรม น่าสลดใจจริง พอทีเถอะ!”
พร้อมเดินทางเข้ามาปิดล้อมบริเวณด้านหน้าธนาคารเพื่อขอพบนายไพศาล ปัญญาลิขิต ผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้ทางธนาคารงดการเบิกจ่ายเงินของทางวัดทุกบัญชี ซึ่งมีมูลค่ามหาศาลจำนวนหลายพันล้านบาท เนื่องจากวัดโสธรยังขาดผู้ทำนิติกรรมแทนวัด เพราะยังไม่มีการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดตัวจริงมานานกว่า 5 ปีเต็มแล้ว โดยเรียกร้องภายใต้ชื่อคณะสงฆ์วัดโสธร
กลุ่มพระสงฆ์ และสามเณร ได้สลายกลับในเวลาต่อมาหลังจากผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย ลงมารับหนังสือ พร้อมรับปากว่าจะให้ทางวัดเบิกจ่ายเงินออกจากบัญชีธนาคารเฉพาะในสิ่งจำเป็นที่ต้องจับจ่ายเท่านั้น เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ หรือค่าใช้จ่ายที่มีพันธสัญญาผูกพันกับบุคคลภายนอก ที่มีกำหนดระยะเวลาการจ่ายเงิน ตามกำหนด หากไม่จ่ายจะต้องถูกปรับ เท่านั้น
พระครูปลัดสันติภัทร ชุติปญฺโญ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร กล่าวว่า สาเหตุที่นำพระภิกษุสงฆ์ สามเณรมายื่นหนังสือครั้งนี้เพื่อต้องการความโปร่งใสในการที่จะจับจ่ายใช้สอยเงินในบัญชีของทางวัด หลังจากพระพรหมสุธี (เสนาะ ปญฺญาวชิโร) วัดสระเกศ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เจ้าคณะภาค 12 ที่เคยได้รับการแต่งตั้งให้มารักษาการในตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ รวมระยะเวลา 5 ปีเต็มได้หมดวาระลงเมื่อวันที่ 30 ต.ค.52 จึงทำให้ขณะนี้ตำแหน่งเจ้าอาวาสว่างลงและไม่มีผู้มีอำนาจการปกครองดูแล และขาดผู้ทำนิติกรรมแทนวัดในการจัดการ การเบิกจ่ายเงินในบัญชีธนาคาร ทางคณะสงฆ์ในวัด รวมทั้งพระภิกษุสามเณรที่กำลังศึกษาอยู่อีกกว่า 90% ภายในวัดไม่ได้รับรู้ จึงเห็นว่าอาจเป็นช่องโหว่จนทำให้มีบุคลบางกลุ่มบางขบวนการเข้ามาเบิกจ่ายหรือโยกย้ายถ่ายเงินของทางวัดออกจากบัญชี เนื่องจากยังไม่รู้เลยว่าขณะนี้ใครเป็นผู้มีอำนาจในการดำเนินการทางการเงิน คณะผู้ช่วยเจ้าอาวาสส่วนใหญ่ซึ่งมีถึง 11 รูป จึงได้ออกมาเคลื่อนไหวปกป้องผลประโยชน์ของทางวัดไว้ก่อน เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาดังกล่าวอาจเกี่ยวเนื่องมาจากการเตรียมแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯที่มาจากวัดอื่นที่ไม่ใช่พระในวัดต่อไปอีก จึงได้มีการออกมาเคลื่อนไหวของพระสงฆ์ สามเณร เพราะเมื่อบ่ายวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมาได้มีใบปลิวสีเหลืองอ่อนจากทางวัดโสธรฯภายใต้ชื่อ "คณะสงฆ์วัดโสธร" กระจายไปตามบ้านเรือนประชาชนจนทั่วทั้งเมืองแปดริ้ว โดยมีข้อความเกี่ยวกับการแต่งตั้งผู้รักษาการเจ้าอาวาสมายาวนานถึง 5 ปีเต็ม และมีข้อความระบุถึงการเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ต่างๆ ภายในวัดจากกลุ่มบุคคลหลายกลุ่ม
ด้าน ดร.อำนาจ บัวศิริ ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า ทราบว่า พระเทพปัญญาเมธี เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทราได้แก้ปัญหาดังกล่าวโดยได้ชี้แจงให้พระเณรของวัดโสธรฯเข้าใจเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินของวัดแล้ว โดยเจ้าอาวาสจะเป็นผู้มีอำนาจเต็มแต่งตั้งไวยาวัจกรเป็นผู้แทนดำเนินการเบิกจ่ายเงินของวัด โดยมีคณะกรรมการวัดเป็นผู้ลงมติ
ส่วนรักษาการเจ้าอาวาสก็สามารถมีอำนาจเบิกจ่ายเงินของวัดได้เหมือนกับเจ้าอาวาส แต่โดยมารยาทแล้วก็จะไม่มีใครไปเบิกจ่ายเงินของวัด อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้นจะไม่รายงานให้ มส.ทราบ เพราะเป็นเรื่องของภายในวัด และดำเนินการแก้ปัญหาแล้ว
ทางด้าน พระพรหมสุธี รักษาการเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่มีอะไรเป็นความเข้าผิด ขณะนี้เจ้าคณะจังหวัดได้ดำเนินชี้แจงแล้ว ทุกฝ่ายก็เข้าใจและยอมยุติการชุมนุม ส่วนเรื่องที่จะครบวาระ 5 ปีรักษาการเจ้าอาวาสวัด ขอยืนยันว่าจะไม่มีการต่ออายุรักษาการเจ้าอาวาสอีกและเจ้าคณะจังหวัดจะเป็นผู้เสนอชื่อเจ้าอาวาสรูปใหม่ไปยังเจ้าคณะภาค เพื่อให้เจ้าคณะหนใหญ่ พิจารณาก่อนนำเสนอที่ประชุมมส.แต่งตั้งต่อไป
