ฉะเชิงเทรา - พระ-เณร 500 รูป ยอมถอยกลับวัด หลัง ผจก.ธนาคารกสิกรไทย ตั้งท่ายืนรอรับหนังสือร้องสั่งเบรกรูรั่ว หวั่นเงินนับพันล้านสูญหาย ไหลหนีออกจากบัญชี พร้อมแจงระบุหากไม่มีสิ่งจำเป็นที่ทางวัดต้องจับจ่ายใช้สอยเงินทอง ธนาคารพร้อมที่จะหยุดการเบิกจ่ายให้
วันนี้ (3 พ.ย.) กลุ่มพระสงฆ์กว่า 500 รูป จากวัดโสธร ได้ยอมสลายการชุมนุมแล้ว หลังจากนายไพศาล ปัญญาลิขิต ผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย สาขาฉะเชิงเทรา ได้ลงมารอรับหนังสือจากคณะสงฆ์จากวัดโสธร บริเวณด้านหน้าธนาคาร พร้อมรับปากว่าจะให้ทางวัดเบิกจ่ายเงินออกจากบัญชีธนาคารเฉพาะในสิ่งจำเป็นที่ต้องจับจ่ายเท่านั้น เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ หรือ ค่าใช้จ่ายที่มีพันธสัญญาผูกพันกับบุคคลภายนอก ที่มีกำหนดระยะเวลาการจ่ายเงิน ตามกำหนด หากไม่จ่ายจะต้องถูกปรับเท่านั้น
ขณะที่ พระครูปลัดสันติภัทร ชุติปญฺโญ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ซึ่งเดินทางมาในกลุ่มพระภิกษุสงฆ์ ที่เดินเท้ามาในขบวน กล่าวว่า สาเหตุที่นำพระภิกษุสงฆ์สามเณร ภายในวัดจำนวนกว่า 500 รูป เดินทางออกมาจากวัด เพื่อมายื่นหนังสือเรียกร้องในครั้งนี้ ก็เพื่อต้องการความโปร่งใสในการที่จะจับจ่ายใช้สอยเงินในบัญชีของทางวัด หลังจาก พระพรหมสุธี (เสนาะ ปญฺญาวชิโร) วัดสระเกศ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เจ้าคณะภาค 12
ที่เคยได้รับการแต่งตั้งให้มารักษาการในตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโสธร รวมระยะเวลา 5 ปีเต็ม ได้หมดวาระลงเมื่อวันที่ 30 ต.ค.2552 จึงทำให้ขณะนี้ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโสธรว่างลง และไม่มีผู้มีอำนาจการปกครองดูแล และขาดผู้ทำนิติกรรมแทนวัด ในการจัดการ การเบิกจ่ายเงินในบัญชีธนาคาร ทางคณะสงฆ์ในวัด รวมทั้งพระภิกษุสามเณรที่กำลังศึกษาอยู่อีกกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ภายในวัดไม่ได้รับรู้ จึงเห็นว่าอาจเป็นช่องโหว่ จนทำให้มีบุคลบางกลุ่มบางขบวนการ เข้ามาเบิกจ่ายหรือโยกย้ายถ่ายเงินของทางวัดออกจากบัญชีไปจนหมด เนื่องจากยังไม่รู้เลยว่าในขณะนี้ใครเป็นผู้มีอำนาจในการดำเนินการทางการเงิน
คณะผู้ช่วยเจ้าอาวาสส่วนใหญ่ซึ่งมีถึง 11 รูป จึงได้ออกมาเคลื่อนไหวปกป้องผลประโยชน์ของทางวัดไว้ก่อน เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นอาจเกี่ยวเนื่องมาจากการเตรียมการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดโสธร ที่มาจากวัดอื่นที่ไม่ใช่พระในวัดต่อไปอีก จึงได้มีการออกมาเคลื่อนไหวของพระภิกษุสามเณรในวันนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อช่วงบ่ายเย็นวานนี้ (2 พ.ย.) ได้มีใบปลิวสีเหลืองอ่อนจากทางวัดโสธร ภายใต้ชื่อ คณะสงฆ์วัดโสธร ออกมาโปรยปราย ตามบ้านเรือนประชาชนจนทั่วทั้งเมืองแปดริ้ว โดยมีข้อความว่า “เจริญพรชาวแปดริ้วให้ทราบ เกิดเหตุสลดใจ! ความชั่ว! ความไม่ยุติธรรม! ในวัดโสธร
1.มีการแต่งตั้งผู้รักษาการเจ้าอาวาสมายาวนานถึง 5 ปีเต็ม ปกครองวัดตักตวงผลประโยชน์ไปอย่างมโหฬาร และส่งเสริมให้คนนอกวัดทั้งพระและฆราวาสเข้ามากอบโกยผลประโยชน์จนร่ำรวย ไปตามๆ กัน 2.เมื่อจะลุกจากตำแหน่งไป เพราะกฎหมายบังคับ ก็คบคิดกันในฐานะเป็นผู้ปกครอง จะเอาพระหลวงตา อายุ 84 ปี จากวัดที่ อ.บางปะกง มาเป็นเจ้าอาวาส เพื่อสืบต่อผลประโยชน์ โดยไม่มีการปรึกษาหารือพระสงฆ์ภายในวัดเลย มีเจ้าคณะจังหวัดรู้เห็นเป็นใจ ในเรื่องนี้ น่าสลดใจที่สุด!
ทั้งๆ ที่มีผู้ช่วยเจ้าอาวาสตั้ง 11 รูป ล้วนมีคุณสมบัติครบถ้วนทุกประการ แต่ไม่ได้มีการปรึกษาหารือแต่อย่างใด นอกจากนี้ ยังมีความชั่ว! ความเลว! ความไม่โปร่งใส! ผลประโยชน์ที่ซ่อนเร้นอีกมากมายในปัจจุบันนี้ จนเป็นเหตุในการพิจารณาแต่งตั้งเจ้าอาวาสอย่างไม่เป็นธรรม น่าสลดใจในเจ้าคณะผู้ปกครองจริงๆ
ขอวิงวอนชาวแปดริ้ว ลูกหลวงพ่อโสธร ผู้รักความเป็นธรรมทั้งหลายโปรดช่วยกันดูแลวัดโสธร และหลวงพ่อโสธรที่พวกเราเคารพศรัทธาด้วย ช่วยกันกำจัดมลทิน ความชั่วทั้งหลายให้หมดไปจากวัดทีเถอะ ญาติโยมจ๋า ขอกำลังใจจากญาติโยมทั้งหลายด้วย ช่วยกันด้วย ขอวิงวอน จากคณะสงฆ์วัดโสธร”
