xs
xsm
sm
md
lg

เคทีบีลิสซิ่งมั่นใจกำไรทะลุเป้า ผลสั่งรัดเข็มขัด-คุมเข้มหนี้เน่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - เคทีบีลิสซิ่งรับยอดปล่อยสินเชื่อลิสซิ่งปีนี้โตต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 10% โดยคาดว่าจะโตเพียง 4-5% สาเหตุหลักจากเศรษฐกิจชะลอ แต่ด้านกำไร 3 ไตรมาสปีนี้โตตามเป้า 150 ล้านบาทแน่ คาดทั้งปีได้ถึง 240 ล้านบาท ด้านบิ๊กกรุงไทยชี้สถาบันการเงินสหรัฐฯล้มอีกเป็นเรื่องที่คาดไว้แล้ว กระทบไม่แรงเพราะมีขนาดเล็กและเป็นสถาบันการเงินท้องถิ่น

นายภิญญาวัฒน์ จันทรกานตานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเคทีบี ลีสซิ่ง จำกัด (KTBL) บริษัทในเครือธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) เปิดเผยถึงเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อลีสซิ่งของบริษัทในปี 2552 นี้ว่า สำหรับยอดปล่อยสินเชื่อในปีนี้คาดว่าจะโตต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10% แต่คาดว่าสิ้นปีนี้จะปล่อยสินเชื่อได้ประมาณ 4-5% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลงตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จึงส่งผลให้ผู้บริโภคมีการชะลอการใช้จ่าย

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อจะไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ แต่ในส่วนของการทำกำไรที่ได้จากธุรกิจลีสซิ่งนั้น ถือว่าดีเกินคาดโดยยอมรับว่า 3 ไตรมาสของปีนี้บริษัทสามารถทำกำไรได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 150 ล้านบาทแล้ว ดังนั้น คาดว่าสิ้นปีนี้บริษัทน่าจะทำกำไรได้ทั้งสิ้นประมาณ 200 ล้านบาท และในปี 2553 บริษัทเชื่อว่าจะยังคงความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าบริษัทจะทำกำไรเพิ่มขึ้นจากปี 2552 ประมาณ 20% หรือมีกำไรประมาณ 240 ล้านบาท

“สาเหตุหลักที่บริษัททำให้กำไรขยายตัวเพิ่มขึ้นนั้น เนื่องจากการที่บริษัทได้มีการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) มากขึ้น จึงทำให้บริษัทมีกำไรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากที่บริษัทได้มีการควบคุมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปัจจุบันยอดเอ็นพีแอลได้ปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 2.4% จาก 2.8%เมื่อตอนต้นปี” นายภิญญาวัฒน์ กล่าว

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันบริษัทมีฐานสินเชื่อลีสซิ่งประมาณ 13,000 ล้านบาท และสิ้นปีนี้บริษัทจะมีฐานสินเชื่อลีสซิ่งทั้งสิ้นประมาณ 13,500 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าทั้งสิ้น 150,000-160,000 ราย แบ่งเป็นลูกค้ารายใหม่ที่เข้ามาในปีนี้ประมาณ 30,000-40,000 ราย ซึ่ง 90% จะเป็นลูกค้าที่ได้มาจากธนาคารกรุงไทยซึ่งเป็นบริษัทแม่

ยันแบงก์อเมริกาล้มกระทบไม่แรง

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB กล่าวถึงกรณีที่สถาบันการเงินของสหรัฐฯ ยังคงล้มละลายอย่างต่อเนื่องว่า เป็นเรื่องที่คาดการณ์ไว้อยู่แล้ว ซึ่งคาดว่าความรุนแรงดังกล่าวคงไม่เท่ากับครั้งก่อน เนื่องจากเป็นสถาบันการเงินรายเล็กในแถบภูมิภาคที่เกิดจากการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้ารายย่อย

ทั้งนี้ ปัญหาดังกล่าวของสหรัฐฯ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ มากนัก เนื่องจากรัฐบาลยังเป็นผู้กระตุ้นการใช้จ่ายเป็นหลัก และยังคงต้องดำเนินนโยบายดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้ผลกระทบที่ประเทศไทยจะได้รับคงเป็นเรื่องความต้องการของภาคการส่งออก โดยเชื่อว่าจะมีการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่คงไม่เหมือนก่อนหน้านี้ที่เกิดวิกฤตรุนแรงครั้งยิ่งใหญ่

“ปีหน้าการส่งออกยังไม่ดีนัก พอสหรัฐฯแย่ อังกฤษก็แย่ตาม ซึ่งความต้องการทางด้านนี้คงจะลดลง แต่ก็น่าจะดีกว่าปีนี้ ส่วนลูกค้าส่งออกของธนาคาร ทางเราได้ดูแลมาตั้งแต่ปีนี้แล้ว โดยปีหน้าก็คงจะดีขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าจำนวนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของธนาคารดีขึ้น โดยปีหน้ายังหวังพึ่งพาการส่งออกไม่ค่อยได้แน่” นายอภิศักดิ์ กล่าว

สำหรับสินเชื่อของธนาคารในปีนี้คาดว่าจะโตเข้าเป้าที่ 6-7% หรือคิดเป็นมูลค่า 6-7 หมื่นล้านบาท แม้ว่าก่อนหน้านี้ธนาคารจะสามารถทำได้ถึงเป้าหมายแล้วก็ตาม แต่พบว่าสินเชื่อได้หดตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากมีลูกค้าคืนสินเชื่อวงเงิน 3 หมื่นกว่าล้านบาทกลับมา
กำลังโหลดความคิดเห็น