สทท.แนะผู้ประกอบการปรับวิธีทำธุรกิจผ่านระบบออนไลน์รับมือพฤติกรรมนักท่องเที่ยวเปลี่ยนมานิยมเดินทางด้วยตัวเองสูง ระบุหากไม่ปรับตัวจะได้รับผลกระทบมาก เหตุกว่า 60% นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาไทยเป็นกลุ่มมาซ้ำ ชี้ไฮซีซั่นปีนี้ยอดจองนักท่องเที่ยวโตจากปีก่อน 5-15% จี้รัฐใช้ผลสำเร็จประชุมอาเซียนซัมมิทต่อยอดโปรโมตเที่ยวประเทศไทย
นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันพฤติกรรมการเดินทางของนักท่องเที่ยวเกิดการปรับเปลี่ยน หันมาเดินทางท่องเที่ยวกันเองมากขึ้นโดยไม่ผ่านบริษัททัวร์ ซึ่งหากเป็นเช่นนี้บริษัทนำเที่ยวคงได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน ซึ่งสทท.ต้องการแนะนำให้ผู้ประกอบการ เจาะตลาดไฮเอนด์เพิ่มขึ้น เพราะถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ยังต้องการใช้บริการผ่านบริษัทนำเที่ยว เพื่อช่วยอำนวยความสะดวก
ทั้งนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวประเทศไทย กว่า 60% เป็นกลุ่มที่มาซ้ำ ทำให้รู้จักประเทศไทยเพียงพอที่จะเดินทางเองได้ โดยต้องการเลือกบริการที่คุ้มค่าเงิน ด้วยการหาข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งเห็นได้ว่าปัจจุบัน ผู้ประกอบการนิยมเสนอโปรโมชั่นผ่านสื่อออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางเองให้มากขึ้น
สำหรับภาพรวมไฮซีซั่นปีนี้ เกือบทุกภูมิภาค ยอดจองเพิ่มขึ้นจากปีก่อน อาทิ ภูเก็ต มียอดจองเพิ่มขึ้น 10% สมุย เพิ่มขึ้น 10% ภาคอีสานเพิ่มขึ้น5-10% ภาคเหนือเพิ่ม10-15% ส่วนภาคตะวันออกไม่มีการขยายตัว โดยภาพรวมทั้งประเทศ ไฮซีซั่นปีนี้เติบโตกว่าปีก่อน ซึ่งมีสถานการณ์การเมืองอยู่ราว 10-15% แต่ยังต่ำกว่าปี2550ซึ่งเป็นภาวะปกติอยู่ราว 10% ซึ่งตลาดที่ยังไม่ค่อยฟื้นตัวมาก ได้แก่ จีน เกาหลี ซึ่งเป็นตลาดอ่อนไหวกับทุกสถานการณ์ ส่วนตลาดยุโรปเริ่มฟื้นสู่ภาวะปกติแล้ว
อย่างไรก็ตามตัวเลขดีมานด์ภาคบริการในปีนี้ยังมั่นใจว่าจะไม่ลดลงจากปีก่อนนัก แต่หากรวมกับปัจจัยซัพพลายของโรงแรมใหม่ที่ทยอยเปิดให้บริการในปีนี้ทำให้ซัพพลายปีนี้โตถึง 7% จึงเป็นส่วนที่ฉุดให้ตัวเลขของอุตสาหกรรมบริการตกลงได้ โดยราคาเฉลี่ยของปีนี้ค่อนข้างคงทีกับปีก่อน เนื่องจากผู้ประกอบการจัดโปรโมชั่นลด แจก แถม กระตุ้นลูกค้าให้ตัดสินใจ ซึ่งหลังการประชุมอาเซียนซัมมิทที่ผ่านไปด้วยนี้ รัฐบาลควรใช้เหตุการณ์นี้เป็นจุดขายโปรโมทประเทศไทยเรียกความมั่นใจจากนักท่องเที่ยวกลับคืนมาโดยเร็ว
นายกงกฤช กล่าวอีกว่า ล่าสุด สทท.จะจัดโรดโชว์เดินสายจัดประชุมคณะกรรมการในต่างจังหวัด ประเดิมเดือน พ.ย. เริ่มจัดไปภูมิภาคเหนือ ที่ จ.ลำปาง เป็นแห่งแรก ตั้งเป้าจะเดินทางให้ครบทั้ง 4 ภูมิภาคภายในระยะเวลา4 เดือน โดยสาระสำคัญของการจัดโรดโชว์ มาจากความต้องการของสมาชิก ที่อยากให้สทท.จากส่วนกลาง ไปให้คำแนะนำวิธีเตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวที่จะกลับเข้ามาเดินทางกันอย่างคึกคักนับจากนี้ต่อไป
“สาเหตุที่เริ่มจากภาคเหนือ เพราะสมาชิกร้องขอมามากที่สุดเนื่องจากได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลงมากที่สุด ทำให้ผู้ประกอบการค่อยข้างจะย่ำแย่ จึงต้องการเร่งปรับตัวโดยเร็วให้ทันกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งสทท.จะไปแนะนำให้คำปรึกษา พร้อมให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่ผู้ประกอบการ” นางกงกฤช กล่าว
นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันพฤติกรรมการเดินทางของนักท่องเที่ยวเกิดการปรับเปลี่ยน หันมาเดินทางท่องเที่ยวกันเองมากขึ้นโดยไม่ผ่านบริษัททัวร์ ซึ่งหากเป็นเช่นนี้บริษัทนำเที่ยวคงได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน ซึ่งสทท.ต้องการแนะนำให้ผู้ประกอบการ เจาะตลาดไฮเอนด์เพิ่มขึ้น เพราะถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ยังต้องการใช้บริการผ่านบริษัทนำเที่ยว เพื่อช่วยอำนวยความสะดวก
ทั้งนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวประเทศไทย กว่า 60% เป็นกลุ่มที่มาซ้ำ ทำให้รู้จักประเทศไทยเพียงพอที่จะเดินทางเองได้ โดยต้องการเลือกบริการที่คุ้มค่าเงิน ด้วยการหาข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งเห็นได้ว่าปัจจุบัน ผู้ประกอบการนิยมเสนอโปรโมชั่นผ่านสื่อออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางเองให้มากขึ้น
สำหรับภาพรวมไฮซีซั่นปีนี้ เกือบทุกภูมิภาค ยอดจองเพิ่มขึ้นจากปีก่อน อาทิ ภูเก็ต มียอดจองเพิ่มขึ้น 10% สมุย เพิ่มขึ้น 10% ภาคอีสานเพิ่มขึ้น5-10% ภาคเหนือเพิ่ม10-15% ส่วนภาคตะวันออกไม่มีการขยายตัว โดยภาพรวมทั้งประเทศ ไฮซีซั่นปีนี้เติบโตกว่าปีก่อน ซึ่งมีสถานการณ์การเมืองอยู่ราว 10-15% แต่ยังต่ำกว่าปี2550ซึ่งเป็นภาวะปกติอยู่ราว 10% ซึ่งตลาดที่ยังไม่ค่อยฟื้นตัวมาก ได้แก่ จีน เกาหลี ซึ่งเป็นตลาดอ่อนไหวกับทุกสถานการณ์ ส่วนตลาดยุโรปเริ่มฟื้นสู่ภาวะปกติแล้ว
อย่างไรก็ตามตัวเลขดีมานด์ภาคบริการในปีนี้ยังมั่นใจว่าจะไม่ลดลงจากปีก่อนนัก แต่หากรวมกับปัจจัยซัพพลายของโรงแรมใหม่ที่ทยอยเปิดให้บริการในปีนี้ทำให้ซัพพลายปีนี้โตถึง 7% จึงเป็นส่วนที่ฉุดให้ตัวเลขของอุตสาหกรรมบริการตกลงได้ โดยราคาเฉลี่ยของปีนี้ค่อนข้างคงทีกับปีก่อน เนื่องจากผู้ประกอบการจัดโปรโมชั่นลด แจก แถม กระตุ้นลูกค้าให้ตัดสินใจ ซึ่งหลังการประชุมอาเซียนซัมมิทที่ผ่านไปด้วยนี้ รัฐบาลควรใช้เหตุการณ์นี้เป็นจุดขายโปรโมทประเทศไทยเรียกความมั่นใจจากนักท่องเที่ยวกลับคืนมาโดยเร็ว
นายกงกฤช กล่าวอีกว่า ล่าสุด สทท.จะจัดโรดโชว์เดินสายจัดประชุมคณะกรรมการในต่างจังหวัด ประเดิมเดือน พ.ย. เริ่มจัดไปภูมิภาคเหนือ ที่ จ.ลำปาง เป็นแห่งแรก ตั้งเป้าจะเดินทางให้ครบทั้ง 4 ภูมิภาคภายในระยะเวลา4 เดือน โดยสาระสำคัญของการจัดโรดโชว์ มาจากความต้องการของสมาชิก ที่อยากให้สทท.จากส่วนกลาง ไปให้คำแนะนำวิธีเตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวที่จะกลับเข้ามาเดินทางกันอย่างคึกคักนับจากนี้ต่อไป
“สาเหตุที่เริ่มจากภาคเหนือ เพราะสมาชิกร้องขอมามากที่สุดเนื่องจากได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลงมากที่สุด ทำให้ผู้ประกอบการค่อยข้างจะย่ำแย่ จึงต้องการเร่งปรับตัวโดยเร็วให้ทันกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งสทท.จะไปแนะนำให้คำปรึกษา พร้อมให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่ผู้ประกอบการ” นางกงกฤช กล่าว
