“สรรพสิ่งในจักรวาลล้วนเป็นไปตามกฎของเหตุและผล เพราะเหตุดีย่อมส่งผลดี เพราะเหตุชั่วย่อมส่งผลชั่ว ระบอบเลวย่อมส่งผลให้ชาติและประชาชนเสื่อมถอย”
รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ในยุคทักษิณ เป็นรัฐธรรมนูญที่สร้างมาเพื่อทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์และเป็นรัฐธรรมนูญเผด็จการชนิดหนึ่ง ดูได้จากรัฐธรรมนูญนี้ไม่มีหลักการปกครอง (Principle of Government) หรือเป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่มีระบอบ (Regime) นั่นเอง มีแต่เพียงวิธีการปกครอง (Methods of Government) คือหมวดและมาตราต่างๆ โดยมีวิธีการสำคัญคือแบ่งแยกอำนาจระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัติ
ในทฤษฎีทางการเมืองถือว่า เป็นรัฐธรรมนูญแบบกึ่งประธานาธิบดี (Semi-Presidential System) ปกติรัฐธรรมนูญชนิดนี้ มีประเทศฝรั่งเศสเป็นแบบอย่างและหลายๆ ประเทศซึ่งเคยเป็นเมืองขึ้นของประเทศฝรั่งเศส ปกติรัฐธรรมนูญชนิดนี้ จะให้อำนาจแก่ประมุขประเทศ และประมุขประเทศจะมีอำนาจในการออกนโยบายต่างๆ เพื่อบริหารประเทศ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ปฏิบัติตามนโยบาย
แต่ในทางตรงกันข้ามเมื่อนำรัฐธรรมนูญฉบับปี 40 แบบกึ่งประธานาธิบดี มาใช้กับประเทศไทย ซึ่งมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของประเทศ แต่ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้ให้อำนาจพระประมุข และไม่มีอำนาจในการออกนโยบายใดๆ เลย
อำนาจทั้งหมดรวมศูนย์อยู่ที่นายกรัฐมนตรี ซึ่งเมื่อทักษิณมาเป็นนายกรัฐมนตรี ทักษิณจึงใช้อำนาจอย่างเต็มที่เพื่อประโยชน์ตนและพวกพ้องทางการเมืองซึ่งเกิดผลเสียขึ้นมามากมาย
นับแต่... ทักษิณ และพวกพ้องรักษาระบอบเผด็จการระบบรัฐสภา แบบกึ่งประธานาธิบดี จนกระทั่งถูกรัฐประหารโดยคณะ คมช.
การละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้ก็เพราะรัฐธรรมนูญฉบับปี 40 ไม่มีหลักการปกครองโดยธรรม อำนาจจากรัฐธรรมนูญดังกล่าว จึงมารวมศูนย์ที่นายกรัฐมนตรีอย่างเป็นไปเอง มันจึงกลับกลายเป็นว่า หลักการปกครอง คือตัวนายกรัฐมนตรี หรือเรียกอีกอย่างว่า นายรัฐมนตรีกลายเป็นระบอบของการปกครอง และรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ก็ได้ให้อำนาจอย่างมากแก่นายกรัฐมนตรี อำนาจที่แท้จริงของการปกครองมารวมศูนย์อยู่ที่นายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีกลายเป็นผู้มีอำนาจสูงสูดในประเทศ นี่คือความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงของรัฐธรรมนูญไทยทุกฉบับ ที่ไม่มีหลักการปกครองโดยธรรม หรือไม่มีตัวระบอบนั่นเอง
นี่คือเหตุที่มาที่ทำให้ทักษิณมีอำนาจล้นฟ้า และได้ทำผิดละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ การฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างใหญ่โตที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองแบบเผด็จการไทย แต่ผู้ปกครองส่วนใหญ่หลงว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย ตามคำโฆษณาชวนเชื่อ จึงยากที่จะแก้ไขเหตุวิกฤตชาติให้ผ่านพ้นไปได้
ด้วยเหตุดังกล่าวทักษิณมีอำนาจ ใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ตนและพวกพ้องอย่างมากที่สุด ดูจากคดีต่างๆ ที่ทักษิณถูกฟ้อง เงินของประชาชนและของชาติจำนวนมหาศาล ไหลไปรวมศูนย์ที่คุณทักษิณ และกลายเป็นเงินของทักษิณ ทั้งนี้เพราะการรวมศูนย์อำนาจทางการเมือง และการรวมศูนย์อำนาจทางเศรษฐกิจ ผู้รู้ไม่เท่าทัน ผู้ด้อยโอกาสทางข่าวสารก็จะเชื่อทักษิณ ตามลมปากของนักการเมืองชั่วที่ทำตัวเป็นหัวหน้าทาส
การขายหุ้นได้เงินมามากมาย แต่ไม่เสียภาษี นี่ก็เป็นตัวอย่างของการโกงชาติและประชาชนอย่างชัดเจน
ทักษิณ ได้รับสัมปทานดาวเทียมในชื่อพระราชทาน “ไทยคม” ในยุคเผด็จการรัฐประหาร รสช. ต่อมาทักษิณนำไปขายให้บริษัทเทมาเส็กของสิงคโปร์ เป็นการขายสมบัติชาติ ขายดาวเทียมไทยคมให้ต่างชาติ นี่ก็แสดงให้เห็นว่าทักษิณ คิดเอาแต่ประโยชน์ตนเป็นที่ตั้ง ไม่ได้คำนึงถึงความมั่นคงของชาติเลยแม้แต่น้อย
พฤติกรรมเพียงบางส่วนคนพาลอย่างทักษิณ กำลังหลงระเริง การลืมตัวของทักษิณ เสมือนตนมิได้ทำผิดอะไรเลย และเขาสามารถรุกทางการเมืองมาได้ตลอด รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลับตกเป็นฝ่ายตั้งรับ ทั้งๆ ที่เป็นรัฐบาลมีอำนาจอยู่เต็มมือแต่ทำอะไรทักษิณไม่ได้เลย
ทักษิณ กับความเป็นคนพาล หลังจากถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี แต่ป่าวประกาศพูดอยู่ฝ่ายเดียวว่าศาลไม่เป็นธรรม ไม่ให้โอกาสสู้คดี ทั้งๆ ที่ใครๆ ผู้มีใจเป็นธรรมต่างก็รู้ว่า นช. ทักษิณ หนีไปเองเพราะรู้ว่าตนเองทำผิด และต้องติดคุกแน่ๆ เมื่อตกอยู่ในสถานะนักโทษหนีคุก ทักษิณบอกว่าเขาจะกลับประเทศไทย เพื่อมาต่อสู้ และเรียกร้องความเป็นธรรมร่วมกับประชาชน
คงจะจำกันได้ ทักษิณโฟนอิน เมื่อครั้งคนเสื้อแดงชุมนุมที่สนามกีฬารัชมังคลาภิเษก ทักษิณ บอกว่าเขาจะกลับประเทศไทยได้ ด้วย 2 วิธี คือ 1.ได้รับพระราชทานอภัยโทษ และ 2. คนเสื้อแดงพากลับ
ทักษิณ บอกว่าต้องการได้รับพระราชทานอภัยโทษ แต่เขาไม่เคยขออภัยโทษ และประกาศว่าไม่มีวันที่จะขออภัยโทษด้วย ทักษิณไม่ได้เห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อยู่ในสายตา และไม่ได้เคารพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งนี้เป็นเพราะความเคยชินกับการใช้อำนาจบาตรใหญ่ตามรัฐธรรมนูญปี 40 นั่นเอง
ทักษิณ เชื่อว่าเขามีเงิน เงินคืออำนาจ เขารู้ประชาชนไทยส่วนใหญ่ยากจน และเป็นคนโง่ทางการเมือง เขาจึงสามารถซื้อตัว ส.ส. ซื้อแกนนำได้ การปลุกระดมมวลชนจึงไม่ใช่เรื่องยาก แล้วก็โฆษณาชวนเชื่อ พูดเท็จทุกวันว่าตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรม
พฤติกรรมทักษิณใช้กฎหมู่มาทำลายกฎหมาย ปลุกระดมมวลชนเสื้อแดงที่แฝงด้วยลัทธิคอมมิวนิสต์ ที่ได้วางแผนทำแนวร่วมกับทักษิณ พรรคเพื่อไทย และกลุ่มนายทุนในเครือของทักษิณ เอาเงินในเครือของทักษิณมาขยายแนวทางการเมืองแบบคอมมิวนิสต์
ทักษิณ นำมวลชนเสื้อแดงผู้หลงผิดมาบีบพระเจ้าอยู่หัวให้อภัยโทษ โดยที่เขาไม่ต้องร้องขอ เหมือนผู้ต้องคำพิพากษาของศาลรายอื่นๆ และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หากทำสำเร็จ ก็เท่ากับว่าทักษิณ มีอำนาจเหนือพระมหากษัตริย์ เช่นนั้นหรือ
ทักษิณ และพวกเป็นขบวนการคนพาลแห่งชาติ ทำไมเขาเติบโตขึ้นมาได้ ทำไมเขารวบรวมคนอย่าง พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ และนายทหาร ตท. 10 เข้ามาร่วมงานกับเขาได้ ได้กลายเป็นกำลังอันสำคัญทั้งทางยุทธศาสตร์และกำลังทางยุทธวิธี จนดูเหมือนว่า ทักษิณ กำลังเตรียมทัพ พร้อมที่จะเปิดศึกล้มรัฐบาลในทุกรูปแบบ และจะรุกใหญ่หลังจาก 5 ธันวาคม เดือนหน้า และทักษิณจะกลับมาเป็นใหญ่ทางการเมืองอีกครั้งอย่างผู้บริสุทธิ์ผุดผ่อง เช่นนั้นหรือ
เราจะร่วมกันหยุดปัญหาสำคัญนี้ของชาติได้อย่างไร เราได้ให้ปัญญาอย่างถูกต้องแท้จริงว่า
หนึ่ง สภาพการณ์ที่แท้จริงของประเทศไทย เป็นระบอบเผด็จการสองรูปแบบ คือ แบบรัฐประหารกับเผด็จการรัฐสภาโดยรัฐธรรมนูญ (รัฐธรรมนูญที่ไม่มีหลักการปกครอง) ทุกฝ่ายของผู้ปกครองล้วนมีแต่ประสบการณ์เผด็จการ ที่ถูกถ่ายทอดตามๆ กันมา โดยมีได้ฉุกคิด
อำนาจอธิปไตยที่ใช้ในการปกครองของผู้ปกครองเป็นอำนาจของกลุ่มนายทุนทางการเมืองเพียงหยิบมือเดียว ไม่ได้เป็นของปวงชนในทางพฤติกรรมอย่างแท้จริง ระบอบเผด็จการเช่นนี้ประชาชนจะตกเป็นทาสทางการเมือง คือมีหน้าที่เพียงพิธีกรรมทางการเมือง คือถูกบังคับให้ไปเลือกตั้งแล้วก็จบกัน เบื่อไม่ไป ก็เป็นความผิดถูกตัดสิทธิต่างๆ มากมาย
สอง รัฐบาล แม้จะมาจากการเลือกตั้ง แต่ก็เป็นรัฐบาลของชนกลุ่มน้อย ไม่ใช่รัฐบาลของปวงชนจริงๆ จึงเป็นรัฐบาลที่อ่อนแอเสมอไป ก็เห็นชัดอยู่ว่าไม่สามารถหยุดยั้ง นช. ทักษิณ ได้เลย และรัฐบาลชนิดนี้ ก็ไม่สามารถที่จะแก้ไขเหตุวิกฤตชาติได้ ก็เพราะหลงเข้าใจผิดเสียแต่ต้นแล้วว่า การปกครองนี้เป็นระบอบประชาธิปไตย หากเป็นระบอบประชาธิปไตยจริง รัฐบาลจะไม่ตกเป็นฝ่ายรับทางการเมือง และ นช.ทักษิณ ก็ไม่มีหนทางที่จะเคลื่อนไหวทางการเมืองได้เลย พลพรรครักทักษิณไม่มีทางที่จะกระทำการชั่วร้ายโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ โจมตีองคมนตรีได้เลย
นี่ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ ว่าไทยเราแท้จริงปกครองอยู่ในระบอบเผด็จการ ระบอบเผด็จการจะเป็นเหตุของการคอร์รัปชัน ฉ้อฉลโกงกินชาติอย่างไม่หยุดหย่อน ระบอบเผด็จการจะเป็นเหตุให้เกิดสารพัดม็อบเพราะความเดือดร้อนในสาขาอาชีพต่างๆ ระบอบเผด็จการจะเป็นเหตุของรัฐประหาร เราได้แนะนำ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มาตลอด แต่ท่านคงไม่เชื่อเพราะท่านนายกฯ หลงผิดเสียแต่ต้นแล้วว่าตนเองมาจากระบอบประชาธิปไตย
และหากพลังทุกส่วนของทักษิณ ม็อบเสื้อแดงสามารถล้มรัฐบาลได้ แนวคิดทางการเมืองของกลุ่มนี้สำหรับทักษิณแล้วก็เป็นเผด็จการเช่นเดียวกับพรรคกับประชาธิปัตย์ แต่ยึดรัฐธรรมนูญคนละฉบับ การเมืองแบบทักษิณ จะบั่นทอนสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำสถาบันพระมหากษัตริย์ให้อ่อนแอลงๆ เช่น โค่น ล้มเลิกองคมนตรี เป็นต้น
ประชาชน พสกนิกร ที่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างแท้จริง จะต้องรักเทิดทูนด้วยปัญญาจริงๆ หนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้แล้ว จะต้องมีแนวทางการเมืองใหม่ คือร่วมกันนำเสนอระบอบหรือ หลักการปกครองธรรมาธิปไตย จึงจะแก้ไขเหตุวิกฤตชาติให้ผ่านพ้นไปได้
รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ในยุคทักษิณ เป็นรัฐธรรมนูญที่สร้างมาเพื่อทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์และเป็นรัฐธรรมนูญเผด็จการชนิดหนึ่ง ดูได้จากรัฐธรรมนูญนี้ไม่มีหลักการปกครอง (Principle of Government) หรือเป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่มีระบอบ (Regime) นั่นเอง มีแต่เพียงวิธีการปกครอง (Methods of Government) คือหมวดและมาตราต่างๆ โดยมีวิธีการสำคัญคือแบ่งแยกอำนาจระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัติ
ในทฤษฎีทางการเมืองถือว่า เป็นรัฐธรรมนูญแบบกึ่งประธานาธิบดี (Semi-Presidential System) ปกติรัฐธรรมนูญชนิดนี้ มีประเทศฝรั่งเศสเป็นแบบอย่างและหลายๆ ประเทศซึ่งเคยเป็นเมืองขึ้นของประเทศฝรั่งเศส ปกติรัฐธรรมนูญชนิดนี้ จะให้อำนาจแก่ประมุขประเทศ และประมุขประเทศจะมีอำนาจในการออกนโยบายต่างๆ เพื่อบริหารประเทศ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ปฏิบัติตามนโยบาย
แต่ในทางตรงกันข้ามเมื่อนำรัฐธรรมนูญฉบับปี 40 แบบกึ่งประธานาธิบดี มาใช้กับประเทศไทย ซึ่งมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของประเทศ แต่ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้ให้อำนาจพระประมุข และไม่มีอำนาจในการออกนโยบายใดๆ เลย
อำนาจทั้งหมดรวมศูนย์อยู่ที่นายกรัฐมนตรี ซึ่งเมื่อทักษิณมาเป็นนายกรัฐมนตรี ทักษิณจึงใช้อำนาจอย่างเต็มที่เพื่อประโยชน์ตนและพวกพ้องทางการเมืองซึ่งเกิดผลเสียขึ้นมามากมาย
นับแต่... ทักษิณ และพวกพ้องรักษาระบอบเผด็จการระบบรัฐสภา แบบกึ่งประธานาธิบดี จนกระทั่งถูกรัฐประหารโดยคณะ คมช.
การละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้ก็เพราะรัฐธรรมนูญฉบับปี 40 ไม่มีหลักการปกครองโดยธรรม อำนาจจากรัฐธรรมนูญดังกล่าว จึงมารวมศูนย์ที่นายกรัฐมนตรีอย่างเป็นไปเอง มันจึงกลับกลายเป็นว่า หลักการปกครอง คือตัวนายกรัฐมนตรี หรือเรียกอีกอย่างว่า นายรัฐมนตรีกลายเป็นระบอบของการปกครอง และรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ก็ได้ให้อำนาจอย่างมากแก่นายกรัฐมนตรี อำนาจที่แท้จริงของการปกครองมารวมศูนย์อยู่ที่นายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีกลายเป็นผู้มีอำนาจสูงสูดในประเทศ นี่คือความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงของรัฐธรรมนูญไทยทุกฉบับ ที่ไม่มีหลักการปกครองโดยธรรม หรือไม่มีตัวระบอบนั่นเอง
นี่คือเหตุที่มาที่ทำให้ทักษิณมีอำนาจล้นฟ้า และได้ทำผิดละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ การฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างใหญ่โตที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองแบบเผด็จการไทย แต่ผู้ปกครองส่วนใหญ่หลงว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย ตามคำโฆษณาชวนเชื่อ จึงยากที่จะแก้ไขเหตุวิกฤตชาติให้ผ่านพ้นไปได้
ด้วยเหตุดังกล่าวทักษิณมีอำนาจ ใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ตนและพวกพ้องอย่างมากที่สุด ดูจากคดีต่างๆ ที่ทักษิณถูกฟ้อง เงินของประชาชนและของชาติจำนวนมหาศาล ไหลไปรวมศูนย์ที่คุณทักษิณ และกลายเป็นเงินของทักษิณ ทั้งนี้เพราะการรวมศูนย์อำนาจทางการเมือง และการรวมศูนย์อำนาจทางเศรษฐกิจ ผู้รู้ไม่เท่าทัน ผู้ด้อยโอกาสทางข่าวสารก็จะเชื่อทักษิณ ตามลมปากของนักการเมืองชั่วที่ทำตัวเป็นหัวหน้าทาส
การขายหุ้นได้เงินมามากมาย แต่ไม่เสียภาษี นี่ก็เป็นตัวอย่างของการโกงชาติและประชาชนอย่างชัดเจน
ทักษิณ ได้รับสัมปทานดาวเทียมในชื่อพระราชทาน “ไทยคม” ในยุคเผด็จการรัฐประหาร รสช. ต่อมาทักษิณนำไปขายให้บริษัทเทมาเส็กของสิงคโปร์ เป็นการขายสมบัติชาติ ขายดาวเทียมไทยคมให้ต่างชาติ นี่ก็แสดงให้เห็นว่าทักษิณ คิดเอาแต่ประโยชน์ตนเป็นที่ตั้ง ไม่ได้คำนึงถึงความมั่นคงของชาติเลยแม้แต่น้อย
พฤติกรรมเพียงบางส่วนคนพาลอย่างทักษิณ กำลังหลงระเริง การลืมตัวของทักษิณ เสมือนตนมิได้ทำผิดอะไรเลย และเขาสามารถรุกทางการเมืองมาได้ตลอด รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลับตกเป็นฝ่ายตั้งรับ ทั้งๆ ที่เป็นรัฐบาลมีอำนาจอยู่เต็มมือแต่ทำอะไรทักษิณไม่ได้เลย
ทักษิณ กับความเป็นคนพาล หลังจากถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี แต่ป่าวประกาศพูดอยู่ฝ่ายเดียวว่าศาลไม่เป็นธรรม ไม่ให้โอกาสสู้คดี ทั้งๆ ที่ใครๆ ผู้มีใจเป็นธรรมต่างก็รู้ว่า นช. ทักษิณ หนีไปเองเพราะรู้ว่าตนเองทำผิด และต้องติดคุกแน่ๆ เมื่อตกอยู่ในสถานะนักโทษหนีคุก ทักษิณบอกว่าเขาจะกลับประเทศไทย เพื่อมาต่อสู้ และเรียกร้องความเป็นธรรมร่วมกับประชาชน
คงจะจำกันได้ ทักษิณโฟนอิน เมื่อครั้งคนเสื้อแดงชุมนุมที่สนามกีฬารัชมังคลาภิเษก ทักษิณ บอกว่าเขาจะกลับประเทศไทยได้ ด้วย 2 วิธี คือ 1.ได้รับพระราชทานอภัยโทษ และ 2. คนเสื้อแดงพากลับ
ทักษิณ บอกว่าต้องการได้รับพระราชทานอภัยโทษ แต่เขาไม่เคยขออภัยโทษ และประกาศว่าไม่มีวันที่จะขออภัยโทษด้วย ทักษิณไม่ได้เห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อยู่ในสายตา และไม่ได้เคารพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งนี้เป็นเพราะความเคยชินกับการใช้อำนาจบาตรใหญ่ตามรัฐธรรมนูญปี 40 นั่นเอง
ทักษิณ เชื่อว่าเขามีเงิน เงินคืออำนาจ เขารู้ประชาชนไทยส่วนใหญ่ยากจน และเป็นคนโง่ทางการเมือง เขาจึงสามารถซื้อตัว ส.ส. ซื้อแกนนำได้ การปลุกระดมมวลชนจึงไม่ใช่เรื่องยาก แล้วก็โฆษณาชวนเชื่อ พูดเท็จทุกวันว่าตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรม
พฤติกรรมทักษิณใช้กฎหมู่มาทำลายกฎหมาย ปลุกระดมมวลชนเสื้อแดงที่แฝงด้วยลัทธิคอมมิวนิสต์ ที่ได้วางแผนทำแนวร่วมกับทักษิณ พรรคเพื่อไทย และกลุ่มนายทุนในเครือของทักษิณ เอาเงินในเครือของทักษิณมาขยายแนวทางการเมืองแบบคอมมิวนิสต์
ทักษิณ นำมวลชนเสื้อแดงผู้หลงผิดมาบีบพระเจ้าอยู่หัวให้อภัยโทษ โดยที่เขาไม่ต้องร้องขอ เหมือนผู้ต้องคำพิพากษาของศาลรายอื่นๆ และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หากทำสำเร็จ ก็เท่ากับว่าทักษิณ มีอำนาจเหนือพระมหากษัตริย์ เช่นนั้นหรือ
ทักษิณ และพวกเป็นขบวนการคนพาลแห่งชาติ ทำไมเขาเติบโตขึ้นมาได้ ทำไมเขารวบรวมคนอย่าง พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ และนายทหาร ตท. 10 เข้ามาร่วมงานกับเขาได้ ได้กลายเป็นกำลังอันสำคัญทั้งทางยุทธศาสตร์และกำลังทางยุทธวิธี จนดูเหมือนว่า ทักษิณ กำลังเตรียมทัพ พร้อมที่จะเปิดศึกล้มรัฐบาลในทุกรูปแบบ และจะรุกใหญ่หลังจาก 5 ธันวาคม เดือนหน้า และทักษิณจะกลับมาเป็นใหญ่ทางการเมืองอีกครั้งอย่างผู้บริสุทธิ์ผุดผ่อง เช่นนั้นหรือ
เราจะร่วมกันหยุดปัญหาสำคัญนี้ของชาติได้อย่างไร เราได้ให้ปัญญาอย่างถูกต้องแท้จริงว่า
หนึ่ง สภาพการณ์ที่แท้จริงของประเทศไทย เป็นระบอบเผด็จการสองรูปแบบ คือ แบบรัฐประหารกับเผด็จการรัฐสภาโดยรัฐธรรมนูญ (รัฐธรรมนูญที่ไม่มีหลักการปกครอง) ทุกฝ่ายของผู้ปกครองล้วนมีแต่ประสบการณ์เผด็จการ ที่ถูกถ่ายทอดตามๆ กันมา โดยมีได้ฉุกคิด
อำนาจอธิปไตยที่ใช้ในการปกครองของผู้ปกครองเป็นอำนาจของกลุ่มนายทุนทางการเมืองเพียงหยิบมือเดียว ไม่ได้เป็นของปวงชนในทางพฤติกรรมอย่างแท้จริง ระบอบเผด็จการเช่นนี้ประชาชนจะตกเป็นทาสทางการเมือง คือมีหน้าที่เพียงพิธีกรรมทางการเมือง คือถูกบังคับให้ไปเลือกตั้งแล้วก็จบกัน เบื่อไม่ไป ก็เป็นความผิดถูกตัดสิทธิต่างๆ มากมาย
สอง รัฐบาล แม้จะมาจากการเลือกตั้ง แต่ก็เป็นรัฐบาลของชนกลุ่มน้อย ไม่ใช่รัฐบาลของปวงชนจริงๆ จึงเป็นรัฐบาลที่อ่อนแอเสมอไป ก็เห็นชัดอยู่ว่าไม่สามารถหยุดยั้ง นช. ทักษิณ ได้เลย และรัฐบาลชนิดนี้ ก็ไม่สามารถที่จะแก้ไขเหตุวิกฤตชาติได้ ก็เพราะหลงเข้าใจผิดเสียแต่ต้นแล้วว่า การปกครองนี้เป็นระบอบประชาธิปไตย หากเป็นระบอบประชาธิปไตยจริง รัฐบาลจะไม่ตกเป็นฝ่ายรับทางการเมือง และ นช.ทักษิณ ก็ไม่มีหนทางที่จะเคลื่อนไหวทางการเมืองได้เลย พลพรรครักทักษิณไม่มีทางที่จะกระทำการชั่วร้ายโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ โจมตีองคมนตรีได้เลย
นี่ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ ว่าไทยเราแท้จริงปกครองอยู่ในระบอบเผด็จการ ระบอบเผด็จการจะเป็นเหตุของการคอร์รัปชัน ฉ้อฉลโกงกินชาติอย่างไม่หยุดหย่อน ระบอบเผด็จการจะเป็นเหตุให้เกิดสารพัดม็อบเพราะความเดือดร้อนในสาขาอาชีพต่างๆ ระบอบเผด็จการจะเป็นเหตุของรัฐประหาร เราได้แนะนำ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มาตลอด แต่ท่านคงไม่เชื่อเพราะท่านนายกฯ หลงผิดเสียแต่ต้นแล้วว่าตนเองมาจากระบอบประชาธิปไตย
และหากพลังทุกส่วนของทักษิณ ม็อบเสื้อแดงสามารถล้มรัฐบาลได้ แนวคิดทางการเมืองของกลุ่มนี้สำหรับทักษิณแล้วก็เป็นเผด็จการเช่นเดียวกับพรรคกับประชาธิปัตย์ แต่ยึดรัฐธรรมนูญคนละฉบับ การเมืองแบบทักษิณ จะบั่นทอนสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำสถาบันพระมหากษัตริย์ให้อ่อนแอลงๆ เช่น โค่น ล้มเลิกองคมนตรี เป็นต้น
ประชาชน พสกนิกร ที่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างแท้จริง จะต้องรักเทิดทูนด้วยปัญญาจริงๆ หนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้แล้ว จะต้องมีแนวทางการเมืองใหม่ คือร่วมกันนำเสนอระบอบหรือ หลักการปกครองธรรมาธิปไตย จึงจะแก้ไขเหตุวิกฤตชาติให้ผ่านพ้นไปได้